ในแต่ละวันชีวิตได้ผ่านความวุ่นวาย ความเครียด ความเศร้า ความเหงา และความรู้สึกด้านลบมามากมาย การได้เจอกับคำแนะนำที่ทำให้ใจสงบลงได้สักชั่วครู่นึงก็ยังดี ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกเสียดายเวลาในการหยุดคิดตามเลย มันเหมือนได้นั่งพักใต้ร่มเงาของต้นไม้พร้อมลมเย็นๆ ข้างๆมีเสียงลำธารไหลเบาๆ แล้วเราก็หายใจเอาอากาศสะอาดเข้าปอดลึกๆสักฟอดสองฟอด แล้วค่อยลุกเดินไปทำงานต่อ
หนุนได้อ่านหนังสือ Ichigo Ichie มาถึงบทที่ 2 และก็เจอกับข้อคิดที่ทำให้ใจสบายและน่าเอากลับไปย้อนคิดให้กับชีวิตตัวเอง เลยอยากจะมาแชร์ให้อ่านกัน หนุนแปลเนื้อหามาจากภาษาอังกฤษเอง และได้ใส่เนื้อหาต้นฉบับที่เป็นภาษาอังกฤษไว้ให้อ่านด้วย
“8 บทเรียนตามวิถีเซน สอนให้ใช้เวลาอย่างมีคุณค่าในทุกช่วงชีวิต”
1. “นั่งลงและดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น” จิตวิญญาณของการมองเห็นสิ่งต่างๆในระยะใกล้ทำให้เรามักจะมองไกลขึ้นไปอีก ทั้งในเรื่องของพื้นที่และเวลา ทำให้ต้องคิดว่าอะไรกันแน่ที่เป็นสิ่งที่ถูกต้องในสายตาของเรา เซนสอนให้เรานั่งลงเฉยๆและโอบกอดช่วงเวลานั้นไว้ โดยไม่ต้องคิดอะไรเกินเลยไปมากมาย ถ้าในชั่วขณะนั้นมีคนอื่นอยู่รอบข้างเรา ให้เรารู้สึกยินดีว่านี่คือของขวัญที่เรามีคนมาอยู่ข้างๆ
2. “ลิ้มรสช่วงเวลานี้เสมือนว่ามันเป็นลมหายใจสุดท้ายของเรา” เรามีชีวิตอยู่ได้แค่ครั้งละวันเท่านั้น และไม่มีใครรู้แน่นอนว่าเราจะตื่นขึ้นมาในอีกเช้าวันหนึ่งรึเปล่า ดังนั้นก็อย่าผลัดความสุขให้ห่างออกไปเลย ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของชีวิตคือ ณ ตอนนี้ขณะนี้
3. “หลีกเลี่ยงการเบี่ยงเบนความสนใจ” สุภาษิตโบราณว่าไว้ว่า นักล่าสัตว์ที่จ้องจะจับเหยื่อสองตัวพร้อมๆกัน มักจะจับไม่ได้เลยสักตัว มันก็เหมือนกับเวลาเราพยายามจะปะติดปะต่อบทสนทนาหรืออ่านหนังสือไปพร้อมกับการก้มหน้ากดมือถือในขณะเดียวกัน เซนสอนให้เราทำอะไรทีละอย่างในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น ให้เหมือนกับว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในโลก ถ้าเราทำได้ ก็ไม่ต้องสงสัยว่าสิ่งนั้นคือสิ่งที่สำคัญที่สุดจริงๆ
4. “เอาตัวเองออกมาจากสิ่งที่ไม่จำเป็น” คนเรามักจะจดจำนักท่องโลกผู้เชี่ยวชาญจากข้าวของที่เขาวางทิ้งไว้ที่บ้านมากกว่าของใช้ที่เขาแบกมาในกระเป๋าเดินทาง ชีวิตคือการผจญภัยที่น่าตื่นเต้น ซึ่งมักจะได้ผลดีกับการเดินแบบตัวเบา (ไร้สัมภาระรุงรัง) ดังนั้นในทุกๆวัน ถ้าเรารูสึกว่ามีปัญหาทับถมมากเกินจะรับไหว ให้ถามตัวเองว่า...เราละทิ้งอะไรไปได้บ้าง
5. “เป็นเพื่อนกับตัวเอง” แทนที่เราจะเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นและมานั่งกังวลว่าคนอื่นจะคิดยังไงกับเรา ให้เราคิดไว้ซะว่าเรานั้นแตกต่างจากคนอื่นบนโลกนี้ อย่างที่นักเชลโล่ พาว (พาบโบล่ว) คาซาวส์ พูดไว้ในบทกลอนที่เขียนสำหรับเด็กว่า พวกเธอคือความมหัศจรรย์ และไม่มีใครเคยเป็น หรือไม่มีใครมีวันเป็น...แบบพวกเธอได้
6. “ฉลองให้กับความไม่สมบูรณ์แบบ” ถ้าไม่นับความซับซ้อนของธรรมชาติที่รวมเอาการเกิดและการตายมากมายไว้ แล้วเราจะเป็นคนที่สมบูรณ์แบบได้ยังไง ความล้มเหลวแต่ละครั้งเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเราควรเลือกเดินเส้นทางอื่นที่แตกต่างออกไป ความผิดพลาดแต่ละอย่างคือคำเชื้อเชิญที่เอามาใช้เจียระไนเพชรให้แวววับ ถ้าเรามีแรงปรารภนาที่จะพัฒนา นั่นก็คือความสมบูรณ์แบบในความไม่สมบูรณ์แบบ
7. “ฝึกความเห็นอกเห็นใจ” ในมุมมองของศาสนาพุทธ การรู้สึกเสียใจกับใครบางคนไม่ใช่ความรู้สึกสงสาร แต่เป็นรากฐานของการเห็นอกเห็นใจผู้อื่นต่างหาก ที่ทำให้เราเดินทางเข้าไปถึงสถานการณ์ในจิตใจของผู้อื่นได้อย่างถ่องแท้ รู้ว่าเขามีแรงกระตุ้นอะไรหรือข้อผิดพลาดอะไร แต่ละคนมีพฤติกรรมการแสดงออกตามช่วงเวลาที่เขากำลังเติบโตในขณะนั้น ทำให้เขามองเห็นตัวเองแบบนั้น ถึงแม้ว่าเขาอาจจะทำอะไรที่ไม่น่าปลื้มใจเท่าไหร่ มันก็คือวิธีที่ดีที่สุดที่เขาสามารถทำได้จากสิ่งที่เขามีอยู่ในตอนนั้น
8. “ปล่อยความคาดหวังไป” การคาดเดาหรือการรอคอยว่าสิ่งนั้นอาจจะเกิดขึ้นอย่างที่เราคิดไว้ เป็นเส้นทางที่รับประกันได้ว่ามันจะคร่าช่วงเวลาของเราไป แนวคิดอิชชิโกะ-อิชชะเอะได้รับการหล่อหลอมมาจากจิตใจที่เป็นหนึ่งเดียวที่ถูกสอนมาจากวิถีของเซน
“Eight Zen Lessons for an Ichigo Ichie Life”
1. “Just sit and see what happens.” Our spiritual short-sightedness often causes us to look far away--in space and time—for what’s really right in front of us. Zen teaches us to simply sit and embrace the moment, with no further ambitions than this. If we are with other people, we celebrate their company as a gift.
2. “Savour this moment as if it were your last breath.” You can live only one day at a time, and no one can be certain that they will wake up in the next morning. So let’s not postpone happiness. This best moment of your life is always this one.
3. “Avoid distraction.” An old proverb says that a hunter who takes aims at two preys at once will kill none. The same thing happens when we try to follow a conversation or read a book at the same time as checking our phone. Zen teaches us to do one thing at a time, as if it were the most important thing in the world. If you do it that way, it undoubtedly will be.
4. “Free yourself from everything that isn’t essential.” One can recognise an expert traveller more by what they leave at home than what they carry in their suitcase. Life is a thrilling adventure through which it’s best to travel light, so every day, whenever you overburdened, ask yourself, what can I let go of?
5. “Be your own friend.” Rather than comparing yourself to others and worrying about what other people think, assume that you are unique in the world. As the celloist Pau (Pablo) Casals said in a poem written for children: You are a miracle, and there has never been—nor will there ever be—anyone like you.
6. “Celebrate imperfection.” If not nature in all its complexity, with all its births and deaths, is perfect, then why should you be? Each failure is a sign that you should take a different path. Each flaw is an invitation to polish a diamond. If you have the will to improve, then it’s perfect to be imperfect.
7. “Practice compassion.” From a Buddhist perspective, feeling sorry for someone doesn’t mean feeling pity but rather a profound empathy that allows us to travel toward the situation of the other to understand their motivations and, if necessary, their mistakes. Each person acts according to the moment of personal growth in which they find themselves. Even when they behave in hateful ways, it’s the best they can do with what they have.
8. “Let go of your expectation.” Making predictions, waiting for certain things to happen, is a guaranteed way to kill the moment. Ichigo Ichie is experienced with the uncluttered mind taught by Zen.
Reference:
G. Héctor and M. Francesc (2019). The Book of Ichigo Ichie. Penguin Books.
#engkanoon #ภาษาอังกฤษติดตัว #สอนพิเศษ #แปลงาน #contentwriter #bilingualmc #พิธีกรสองภาษา #เลี้ยงลูกสองภาษา
- 6
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
