14 พ.ย. 2020 เวลา 13:39 • ครอบครัว & เด็ก
ฝึกเด็กให้มีความเป็นผู้นำ กล้าหาญ สร้างความรักและความสามัคคี...กันแบบเนียน ๆ
ปัญหาครูขาดแคลนในประเทศเนเธอร์แลนด์กำลังเป็นปัญหาใหญ่ของที่นี่เลยล่ะค่ะ และแน่นอนโรงเรียนลูกของแอดก็เกิดปัญหานี้ด้วยเช่นกัน แอดสอบถามไปยังเพื่อน ๆ ที่มีลูกเรียนในท้องถิ่นอื่น เกือบทุกคนตอบออกมาว่าโรงเรียนที่ลูก ๆ เขาเรียนอยู่ก็มีการเปลี่ยนครูมาสับเปลี่ยนเวียนสอนกันไม่รู้จักกี่รอบแล้วเช่นเดียวกันค่ะ
คุณครูที่นี่ส่วนใหญ่จะทำงานกันแบบ part time คือสอนกันคนละ 2-3 วัน ต่อสัปดาห์ค่ะ แต่ก็สอนในโรงเรียนกันแบบนาน ๆ นะคะ คือบางคนก็มากกว่า 20- 30 ปี เลยล่ะค่ะ เรื่องระบบการทำงานของที่นี่เอาไว้แอดค่อยเล่าให้ฟังคราวอื่นก็แล้วกันนะคะ เพราะวันนี้แอดจะมาเล่าเรื่องวิธีการสอนเด็ก ๆ ในโรงเรียนลูกของแอด เผื่อจะได้ประโยชน์สำหรับเพื่อน ๆ กันบ้าง ว่าแล้วก็ตามมาเลยค่ะ
หลังจากเด็ก ๆ เรียนหนัก ๆ มาหลายสัปดาห์ ยิ่งช่วงหลังสอบแล้วนี่ เด็ก ๆ ต่างก็อยากจะเรียน ๆ เล่น ๆ กันทั้งนั้นค่ะ ซึ่งคุณครูก็เข้าใจเด็ก ๆ ดีค่ะ แล้วจะทำอะไรที่จะให้เด็ก ๆ ได้ผ่อนคลายและมีประโยชน์ล่ะ....หลังจากทำการปรึกษากันแล้ว...ทางโรงเรียนจึงจัดกิจกรรมโครงการพี่รักน้องขึ้นมา
โดยกิจกรรมที่ว่าคือให้รุ่นพี่ ป. 5 ไปเล่านิทานให้น้อง ป. 1 ฟัง และไปเล่าเรื่องประวัติศาสตร์เกี่ยวกับเรื่องอะไรก็ได้ให้น้องชั้น ป.3 ฟังในวันถัดไปค่ะ
เรื่องประวัติศาสตร์นี่ไม่จำกัดนะคะ จะเป็นเรื่องดนตรี ยานอวกาศ เครื่องใช้ไฟฟ้า ประเทศต่าง ๆ หรือแม้แต่ประว้ติตัวการ์ตูนต่าง ๆ ได้หมดค่ะเพราะทุกประวัติศาสตร์มีเรื่องราวน่าสนใจทั้งนั้น เอาที่เด็ก ๆ สบายใจเลยจ้า
ส่วนรุ่นพี่ ป.6 ก็จะไปเล่านิทานให้น้อง ป. 2 ฟัง และไปเล่าเรื่องประวัติศาสตร์ให้น้อง ป. 4 ฟัง เช่นเดียวกัน ก็เท่ากับว่าตั้งแต่ชั้น ป.1 ถึง ป.6 ได้ทำกิจกรรมสนุก ๆ น่ารัก ๆ กันอย่างถ้วนหน้าเลยล่ะค่ะ
โดยมีการประสานงานระหว่างกันเพื่อช่วยกันแบ่งกลุ่มทำงานเช่นรุ่นพี่ 2 คน ต่อรุ่นน้อง 4-5 คน ก็ว่ากันไป
งานนี้พี่ ๆ จะเลือกหนังสือนิทานและเรื่องประวัติศาสตร์ที่อยากจะเล่าให้น้อง ๆ ฟังกันเองค่ะ อันไหนที่เด็ก ๆ ไม่เข้าใจหรือไม่แน่ใจก็ไปถามคุณครูให้อธิบายให้ฟังจนเข้าใจก่อนที่จะไปเล่าให้น้อง ๆ ฟังอีกทีค่ะจะได้เล่าไม่ผิดพลาด แหม...ช่างน่ารักเสียจริง ๆ รุ่นพี่ของน้องนี่
ส่วนเรื่องนิทานนี่สนุกกันทั้งรุ่นพี่รุ่นน้อง ทั้งเล่าทั้งแอ๊คติ้งกันไปให้น้อง ๆ หัวเราะฮาลั่น จบท้ายด้วยความสุขและความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้อง เพื่อนกับเพื่อน คุณครูระหว่างชั้น และแน่นอนเมื่อผู้ปกครองทราบก็รู้สึกสนุกและมีความสุขไปกับโรงเรียนของลูก ๆ ด้วยคนค่ะ
ข้อดีของโครงการนี้เอาแบบคร่าว ๆ นะคะคือ
1. ฝึกความเป็นผู้นำและกล้าแสดงออกในทางสร้างสรรค์
- นักเรียนแบ่งงานกันเองกับเพื่อน ช่วยกันเลือกหนังสือและเรื่องเล่าที่คิดว่าดีและมีประโยชน์รวมถึงคาดว่าน้อง ๆ จะชอบอย่างตั้งใจ เคารพกันตัดสินใจของกันและกัน กล้าที่จะพูดแสดงความคิดเห็น กล้าที่จะแสดงออก กล้าที่จะตัดสินและแสดงความรับผิดชอบต่องานที่ทำค่ะ
2. ความสามัคคี
- ได้มีการติดต่อประสานงานกันทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนระหว่างเพื่อน รุ่นพี่กับรุ่นน้อง คุณครูระหว่างชั้น คุณครูกับนักเรียน เป็นต้นค่ะ
3. ความคิดสร้างสรรค์
- เพราะเด็ก ๆ จะได้ทำการเลือกเรื่องต่าง ๆ มาเล่าให้น้องฟังได้เอง เด็ก ๆ รุ่นพี่จะพยายามหาเรื่องที่คิดว่าน้องๆ จะชอบและมีประโยชน์มาให้ฟังกันค่ะ รวมถึงจะทำการสื่อสารอย่างไรให้น้อง ๆ สนใจและสนุกไปด้วยกันค่ะ
4. ได้เรื่องการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าค่ะ
- ในบางครั้งที่น้อง ๆ ยุกยิกคุยกันไม่สนใจ พี่ ๆ ก็จะมีวิธีการดึงความสนใจของน้อง ๆ ให้กลับมาที่พี่กันจนได้ค่ะ แถมได้เรื่องความใจเย็นและอดทนเพิ่มมาด้วยนะคะ
5. ได้ฝึกเรื่องการสื่อสาร
- ได้ฝึกทักษะในกการพูด ในการอ่าน ในการสื่อสารเพื่อให้น้อง ๆ ได้สนใจ ได้ความรู้และสนุกไปกับเรื่องราวต่าง ๆ ที่รุ่นพี่เล่าให้ฟัง รวมถึงสามารถควบคุมความสนใจของน้อง ๆ ให้มาอยู่ที่พี่ ๆ ได้จนจบกิจกรรมค่ะ
6. ได้เรื่องความรับผิดชอบ
- หลังจากรุ่นพี่ได้รับมอบหมายงานจากคุณครู เด็ก ๆ จะต้องจัดตารางเวลาในการทำงานกับเพื่อน ๆ ทั้งในเรื่องการเลือกหนังสือ ในเรื่องของการอ่าน การพูด การสื่อสารว่าใครต้องทำอะไรช่วงไหน ใครก่อนใครหลัง เพื่อที่งานจะได้ออกมาดีและเสร็จทันตามเวลาที่กำหนดไว้ค่ะ ซึ่งเด็ก ๆ ก็สามารถทำกันได้ดีมากทีเดียวเลยล่ะค่ะ
แนะนำว่าโรงเรียนไหนหากทราบล่วงหน้าว่าวันไหนครูจะลาหยุด มีประชุมครูหรือครูไม่พอนี่....กิจกรรมพี่รักน้องนี่ก็สามารถเอามาใช้ประโยชน์ได้เหมือนกันนะคะ เพราะเด็ก ๆ สามารถฝึกทักษะการเรียนรู้ด้านต่าง ๆ กันได้อย่างสนุกสนานมีสาระ มีการแบ่งปันความสุขระหว่างกันระหว่างรุ่นพี่ที่ใจดีสู่รุ่นน้องที่น่ารักกันด้วยค่ะ
เด็ก ๆ จะได้สร้างสายสัมพันธ์มิตรภาพที่ดีต่อกัน รวมถึงเรื่องของความรักความสามัคคีที่ดีต่อกันด้วยค่ะ ปัญหาด้านความรุนแรงต่าง ๆ ภายในโรงเรียนก็จะได้ลดน้อยลงตามไปด้วย เพื่อน ๆ เห็นด้วยไหมคะ
ป.ล. แอดขอขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกคนที่มาติดตามและให้กำลังใจกันนะคะ ขอบคุณจากใจจริงค่ะ กำลังใจมาแล้ว บรื่น บรื่น :-)
โฆษณา