#รีวิวหนังสือ Super Productive
คนทุกคนมีศักยภาพในตัวเอง แต่หลายคนไม่รู้วิธีที่จะดึงศักยภาพตัวเองออกมาใช้งานอย่างถูกต้อง บางคนเก่ง มีความสามารถแต่ไม่รู้ว่าจะใช้ความสามารถของตนแบบไหน อย่างไรเพื่อให้ประสบความสำเร็จ และคงจะดีไม่น้อยหากมีใครสักคนที่มาคอยชี้นำแนวทาง ชี้แสงสว่างให้เรารู้ว่าการดึงศักยภาพในตัวเองออกมาต้องทำอย่างไร
เพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดในตัวเอง ธุรกิจ และทีม เริ่มที่การจัดการ
ผู้เขียน รวิศ หาญอุตสาหะ
ราคา 219 บาท
หน้า 264 หน้า
นี่คือหนังสือที่จะช่วยให้คุณ "ดึงศักยภาพสูงสุดของตัวเองออกมา" โดยเริ่มที่ "การจัดการตัวเอง การงาน และทีม" ของ "รวิศ หาญอุตสาหะ" ผู้บริหารและเจ้าของพอดแคสต์ที่มีผู้ติดตามสูงสุดอย่าง "Mission to the Moon" และ "Super Productive" กับหัวข้อสำคัญอย่างแรงจูงใจในการทำงาน การรู้จักตนเอง ภาวะหมดไฟปลอม ๆ การรับมือกับคน Toxic ทำธุรกิจเก่าแก่ให้กลับมายิ่งใหญ่ และอื่นๆ อีกมากมาย แต่ละหัวข้อที่นำเสนอนั้น ถูก "คัดสรร" มาแล้วว่า "สำคัญ" ซึ่งผู้เขียนได้ปฏิบัติได้ผลสำเร็จมาแล้ว คุณเองก็สามารถ "ดึงศักยภาพที่ซ่อนอยู่อีกมากในตัวคุณ" ออกมาใช้ได้เช่นกัน!
ถ้าคิดจะทำอะไรใหม่ อย่าคิดเยอะ หยุดกังวล เกี่ยวกับสิ่งที่คนอื่นคิดกับคุณ และรู้จักตัวเองคือทักษะสำคัญที่สุด
สารบัญ
1. จัดการตัวเอง
ถ้าคิดจะทำอะไรใหม่ ๆ
- อย่าคิดเยอะ
- มีวินัย
- ทำอย่างสม่ำเสมอ
วิธีแก้ไขคนที่ชอบผัดวันประกันพรุ่ง
- เรื่องที่ 1 เวลาที่ใช้ไปอย่างเปล่าประโยชน์ ควรเป็นเวลาผักผ่อน
- เรื่องที่ 2 งานสำคัญที่ไม่ด่วน งานประเภทนี้มักชอบถูกผัดวันประกันพรุ่ง
- เรื่องที่ 3 ถ้าปล่อยให้ลิงควบคุมต่อไป เราก็จะ เสพติด
ต้องแก้ที่ต้นเหตุ
- วางแผน
- ลงมือทำ
แรงจูงใจในการทำงาน
Motivation หรือ แรงจูงใจในการทำงาน
คิดเร็วๆคงเป็น เงิน และ ผลประโยชน์ต่างๆ
แนวคิดของ เฟรเดริก เฮอร์เบิร์ก (Frederick Herzberg)
วิธีการที่ดีที่สุดในการสร้างบริบท คือ
Growth Mindset เพราะ คนที่มี Growth Mindset จะอยากเรียนรู้ เชื่อว่าทุกอย่างพัฒนาได้ ไม่เก่งก็ฝึก ไม่รู้ก็ต้องเรียน ต่างจาก
Fixed Mindset คือคนที่เชื่อว่าทุกอย่างบนโลกนี้ถูกกำหนดมาไว้หมดแล้วคนนั้นเกงก็เพราะเขาฉลาดอยู่แล้วเราไม่รู้เรื่องนั้นหรอกเพราะเราไม่ได้เรียนมา หรือ เราคงไม่สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเองหรอก มันคงยากเกินไปสำหรับเรา
ตั้งเป้าหมายแบบ SMART
S = Specific = ชัดเจน
M = Measurable = วัดผลได้
A = Action-Oriented = ระบุเลยว่าจะทำอะไร
R = Realistic = อยู่ในความเป็นจริง
T = Time-defined = เป้าหมายที่ตั้งจะเสร็จเมื่อไหร่
2. จัดการธุรกิจ
3 คำถามของการเปลี่ยนแปลง
1.เราจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงมั้ย
2.เราสามารถเปลี่ยนได้มั้ย
3.เราจะเปลี่ยนไหม
4 กลยุทธ์พลิกธุรกิจเก่าแก่ให้กลับมาสำเร็จ
1.สนใจว่าอะไรคือแก่นที่ทำให้ธุรกิจมีกำไร
2.ถ้าอยากทำให้ธุรกิจดีขึ้นก็ต้องขยาย
3.คิดถึงการมีร้านค้าของตัวเอง
4.ทำอย่างไรก็ได้ให้การดำเนินการดีขึ้น
5 วิธีรับมือฟีดแบ็กด้านลบ
1.ตอบกลับอย่างรวดเร็ว
2.ขอโทษอย่างจริงใจ
3.หาปัญหาที่แท้จริงด้วยความใจเย็น
4.เปลี่ยนการสื่อสารจากออนไลน์เป็นออฟไลน์
5.ลูกค้าไม่ได้ต้องการแค่การขอโทษ
7 คำถาม สู่การวางแผนธุรกิจอย่างจริงจัง
1.คำถามเชิงวิศวกรรม
2.คำถามเรื่องเวลา
3.คำถามเกี่ยวกับการผูกขาด
4.คำถามเรื่องคน
5.คำถามเรื่องการจัดจำหน่าย
6.คำถามเรื่องระยะเวลา
7.คำถามลับ
4 หัวใจสำคัญของเรื่องเล่า
- ใครคือคนฟัง
- ประสบการณ์ของเรา
- หัวใจของเรื่องที่อยากจากเล่า
- ทำให้ทุกอย่างเข้าใจง่าย
3. จัดการทีม
- การบริหารจัดการความเครียดของทีม
- ต้องรู้ตลอดว่างานอะไรที่สำคัญจริงๆ
- แก้ปัญหาปริมาณงานที่เยอะเกินไป
- วางแผนให้เกิดเวลาที่ไม่ถูกขัดจังหวะ
- แก้ไขการประชถมของคุณ
- มีขอบเขตของการใช้เทคโนโลยี
- ทำให้แน่ใจว่าทีมถูกแบ่งอย่างยุติธรรม
- หลังจากได้รับงานมาต้องมีแผน
4 หัวข้อที่ต้องช่วยกันคิด
1. มีเป้าหมายอะไร
2. ใครอยู่ในทีมบ้าง
3. ใครเก่งอะไร
4. ใครบ้างที่ต้องพัฒนา
6 วิธีรับมือกับพนักงานที่เป็นพิษ
1. หาสาเหตุที่แท้จริงของปัญหา
2. ต้องให้ฟีดแบ็กตรงๆ ให้โอกาสในการเปลี่ยนแปลง
3. อธิบายถึงผลที่ตามมาหากไม่แก้ไข
4. เก็บบันทึกหลักฐานความเสียหาย
5. แยกคนที่ Toxic ออกจากคนอื่น
6. อย่าใช้พลังงานเยอะเกินไปกับเรื่องนี้
เทคนิคการโค้ชที่ดี Ask, Listen, Empathize ถาม ฟัง เข้าใจ/เห็นใจ
- 4
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
