17 พ.ย. 2020 เวลา 01:20 • สุขภาพ
ข่าวดี !! วัคซีนของ Moderna ประสิทธิภาพการป้องกันโควิดสูงถึง 94.5% เทียบกับ90% ของ
Pfizer
2
บริษัท Moderna ของสหรัฐฯ ได้เปิดเผยรายงานเบื้องต้นการวิจัยวัคซีนโควิด ในอาสาสมัครกว่า 30,000 คน ที่ได้รับการฉีดวัคซีนสองเข็มห่างกันสี่สัปดาห์ (ของไฟเซอร์ฉีดห่างกันสามสัปดาห์) ดังนี้
1) ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อโควิดในกลุ่มอาสาสมัครทดลองวิจัยทั้งสิ้น 95 คน และเมื่อได้เปิดรหัสดูแล้ว(โดยคณะกรรมการอิสระของการตรวจสอบความวิจัยและการปลอดภัย)
2) พบว่าใน 95 คนที่ติดเชื้อ มีถึง 90 คนที่ไม่ได้รับวัคซีนหรือได้ยาหลอก(Placebo) มีเพียง 5 คนที่ได้รับวัคซีนโควิดจริง
1
3) แปลว่า วัคซีนของ Moderna มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคได้ถึง 94.5%
4) ทางบริษัทกำลังจะขอยื่นการใช้วัคซีนในสถานการณ์ฉุกเฉิน (EUA) เมื่อได้จำนวนผู้ป่วยครบ 151 คน และประสิทธิภาพยังดีใกล้เคียงเดิม
5) คาดว่าในสิ้นเดือนนี้ก็น่าจะได้ครบ 151 คน เมื่อเปรียบเทียบกับบริษัทไฟเซอร์ รายงานผู้ติดเชื้อที่จำนวน 94 คน และจะต้องได้จำนวนผู้ป่วยที่ 164 คน จึงจะยื่นขอ EUA ได้
1
6) เมื่อเปรียบเทียบวัคซีนกันระหว่างสองบริษัทแล้ว จะเห็นว่า Moderna จะนำอยู่นิดนิดในหลายเรื่องได้แก่
6.1) ประสิทธิภาพในการป้องกันโรคร้อยละ 94.5 เทียบกับร้อยละ 90
6.2) ราคาวัคซีนเข็มละ 20 ปอนด์ ไฟเซอร์เข็มละ 15 ปอนด์
6.3) วัคซีนเก็บที่อุณหภูมิตู้เย็น( 2-8 องศาเซลเซียส)ได้ถึง 30 วัน และเก็บที่ -20 องศาเซลเซียสได้นานถึง 6 เดือนในขณะที่ของไฟเซอร์เก็บในตู้เย็นได้เพียง 5 วัน และต้องเก็บที่อุณหภูมิเย็นยิ่งยวด -70 ถึง -80 องศาเซลเซียส จึงจะเก็บได้ถึงหกเดือน
1
6.4) ป้องกันไม่ให้เกิดอาการป่วยที่รุนแรง คนที่ฉีดวัคซีน Moderna ติดโควิดจะไม่มีอาการป่วยหนักหรือรุนแรง ส่วนที่ป่วยอาการรุนแรงจำนวน 11 คนนั้นเป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับวัคซีนทั้งหมด
บริษัทไฟเซอร์ไม่ได้มีการกล่าวถึงตรงนี้
3
6.5) กำลังการผลิต จะผลิตได้ 20 ล้านเข็มในสิ้นปีนี้ และปีหน้า 500-1,000 ล้านเข็ม
ในขณะที่ของไฟเซอร์ปีนี้จะได้ประมาณ 50 ล้านเข็ม และปีหน้า 1,300 ล้านเข็ม
สหรัฐจองไว้ 100 ล้านเข็ม และกำลังจะจองเพิ่มอีก 400 ล้านเข็ม
และมีประเทศต่างๆได้ทำสัญญาไว้ได้แก่ ญี่ปุ่น
แคนาดา สวิตเซอร์แลนด์ กาตาร์ อิสราเอล
สหภาพยุโรปกำลังจะทำสัญญาที่ 80-160 ล้านเข็ม
ในขณะที่วัคซีนของ AstraZeneca เป็นบริษัทที่ราคาวัคซีนถูกสุดคือ 3 ปอนด์ ตามมาด้วย
Johnson & Johnson 8 ปอนด์
1
วัคซีนสองตัวที่ออกนำมาก่อนแล้วคือ ไฟเซอร์ กับ โมเดิร์นนา จึงถือว่ามีราคาค่อนข้างแพง
ความหวังน่าจะอยู่ที่ AstraZeneca ราคาเพียง 3 ปอนด์ และโชคดีที่ประเทศไทยได้ทำการตกลงไว้กับบริษัท AstraZeneca ซึ่งจะสำเร็จในเวลาใกล้เคียงกัน
และเราจะเสียเงินน้อยกว่ามากทีเดียว
หมายเหตุ : รายงานผลการศึกษาวิจัยของวัคซีน
ที่ออกมาช่วงนี้ ที่ว่า
ของไฟเซอร์กันได้ 90%
ของรัสเซียได้ 92%
และของโมเดิร์นน่าได้ 94.5% นั้น
3
ทั้งหมดล้วนเป็นรายงานการทดลองเบื้องต้นในกลุ่มอาสาสมัครประมาณ 3-40,000 คน และมีผู้ที่ติดเชื้อแล้วประมาณ 90 คนเศษ
จะต้องเผื่อใจว่า เมื่อติดตามการฉีดจริงในประชาชนทั่วไปนับแสนนับล้านคนแล้ว การป้องกันจะยังดีอยู่หรือไม่ และจะมีผลข้างเคียงที่ไม่เคยพบในระหว่างการศึกษามาเกิดขึ้นในภายหลังหรือไม่
ต้องเผื่อใจไว้จริงๆครับ เพราะถ้าได้ผลดีในระดับทั่วโลก เศรษฐกิจก็จะกลับมาดี แต่ถ้าผลดีในการฉีดคนทั่วโลกแล้วได้ไม่เต็มที่ เศรษฐกิจก็คงจะฟื้นตัวไม่ได้ตามที่คาดหวังกันไว้ครับ
Reference
โฆษณา