17 พ.ย. 2020 เวลา 15:25 • ศิลปะ & ออกแบบ
นางอากาศตะไล เป็นยักษ์ผู้หญิงบริวารของทศกัณฐ์ มีตำแหน่งเสื้อเมือง คือนายทหารหญิงคอยสอดส่องปกป้องน่านฟ้ากรุงลงกา เรียกว่าเป็นตัวแทนทัพอากาศก็ได้ เมื่อครั้งหนุมานเดินทางมากรุงลงกาหนแรก ได้สังหารนางผีเสื้อสมุทรผู้รักษาด่านทางทะเล นางอากาศตะไลเห็นศพนางผีเสื้อสมุทรถูกแหวะท้องไส้ไหล ปลาฉลามมากัดกิน ก็ตระหนักทันใดว่าผู้บุกรุกมีฝีมือร้ายกาจ จึงเรียกบรรดาภูติผีปีศาจที่เป็นบริวารมาช่วยกันรับมือหนุมาน
ที่จริงนางอากาศตะไลเป็นหญิงแกร่ง โหด รูปร่างบึกบึนผิวคล้ำ น่าจะแมนกว่ายักษ์บุรุษบางตนเสียอีก แต่ผมอยากวาดให้ผู้สวมบทบาทนี้ดูอ้อนแอ้นและผิวผ่องมีออร่าแทน ทีแรกคิดจะวาดเลียนแบบจิตรกรรมฝาผนัง ที่มักวาดผู้หญิงเปลือยท่อนบนเห็นหน้าอกตูมตั้ง โดยเฉพาะนางยักษ์ขมูขีจะนมโตแบบลูกแตง ดูโตงเตง แต่มาคิดอีกที เรากำลังวาดรูปคนที่แสดงโขนอยู่ จะวาดให้เปลือยอกคงเป็นการไม่ให้เกียรติผู้แสดง
1
นอกจากนี้ วันหนึ่งที่ไปถ่ายภาพโขนสด ได้คุยกับนักแสดงสาวท่านนึงระหว่างพักเล่นหลังเวที เธอเล่าให้ฟังว่าชีวิตช่วงนี้กำลังวุ่นวายสุดๆ ไม่ได้แสดงโขนสดเพียงอย่างเดียว ยังต้องวิ่งรอกเล่นลิเก เป็นหางเครื่องให้วงลูกทุ่งเพื่อหารายได้เสริม วันก่อนมีคิวต่อเนื่องพ่วงงานสองวัด บึ่งมอเตอร์ไซค์ข้ามเมือง ต้องเปลี่ยนชุดถอดๆใส่ๆแทบไม่ทัน เธอเล่าแบบคนมีอารมณ์ขัน หัวเราะกับชีวิตตัวเองตลอดเวลา ทั้งที่สาเหตุคือความลำบากขัดสน แต่ฟังแล้วขำมาก ประทับใจจนคิดว่าถ้าเจือความรู้สึกบางส่วนที่เธอเล่าลงสู่ภาพวาดได้ คงดีไม่น้อย
ชุดโขนอากาศตะไลตามธรรมเนียมการแสดงที่ถูกต้องนั้น ความจริงต่างจากภาพเขียนนี้มาก มีลักษณะเฉพาะตัว ผสมผสานระหว่างนางรำสตรีกับชุดโขนยักษ์ผู้ชาย ไม่เหมือนใคร ดูได้จากการแสดงโขนพระราชทานตอนสืบมรรคา แต่ด้วยต้องการสะท้อนชีวิตศิลปินสาวผู้นั้น ผมเลยวาดนางอากาศตะไลออกมาอีกแบบ ให้ชุดและเครื่องทรงดูบ้านๆ sexy นิดๆ มีกลิ่นอายนางเอกลิเกหรือแดนเซอร์ลูกทุ่งเยอะหน่อย
ก็ไม่ทราบว่าเหมาะหรือไม่ แต่ครั้งหนึ่งเคยดูโขนสดช่วงวันสงกรานต์ มีคนเล่นเป็นพิเภกใส่เสื้อฮาวาย ลายดอกโตๆ ออกมาเฝ้าพระราม พระรามก็ไม่เห็นว่าอะไร เลยคิดว่าถ้าทำงั้นบ้าง... คงไม่เป็นไรมั้ง อีกประการหนึ่ง เนื่องจากเป็นนางยักษ์ที่มีแขนยุ่บยั่บ ผมเลยคิดไปว่า ถ้าให้เธอสวม “ผ้าห่มนาง” ที่ห่มทับไปถึงข้างหลัง คงดูเกะกะ และดูไม่โปร่งเพรียวลมสมกับเป็นนักรบจ้าวเวหานัก นางอากาศตะไลในภาพเลยออกมาเป็นเช่นนี้
นี่คือจุดประสงค์ในขณะวาดเมื่อหลายปีก่อน (2552) ภาพออกมาสมดังความต้องการ อย่างไรก็ตาม ผมยังรู้สึกติดค้างใจตลอดมา ว่าไม่ได้ทำภาพนางอากาศตะไลสวมชุดโขนเต็มรูปแบบ จนถึงกลางปี 2562 จึงมีโอกาสวาดอีกครั้ง คราวนี้เป็นดรออิ้งดินสอขาวดำ แต่ทำไปทำมา แทนที่จะยึดตามธรรมเนียมเป๊ะๆ ก็อดเพิ่มเติมอะไรสนุกๆ แบบว่าตามใจอยาก เช่นอาวุธกระดูกแบบยุคหิน หรืออาวุธจีนโบราณลงไปไม่ได้อยู่ดี และที่เคยคิดไปเองว่าผ้าห่มนางข้างหลังจะทำให้ดูเทอะทะไม่ปราดเปรียว พอได้ลงมือวาดจริงก็ลดน้ำหนักลงด้วยดินสอจางๆ จนผืนผ้าที่ของจริงสีเข้มหนาหนัก กลับดูบางเบา กลืนเข้ากับก้อนเมฆข้างหลัง
นางอากาศตะไลเวอร์ชั่นสองนี้ โดยส่วนตัวเป็นภาพนึงที่ผมชอบมาก หวังว่าจากงานดินสอชิ้นจะได้พัฒนาต่อเป็นภาพสีน้ำมันในอนาคต
โฆษณา