บริษัท Nintendo ก็ประสบความสำเร็จ สามารถวางจำหน่ายบนเเผ่นดินอเมริกาได้เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 1985
เครื่อง Famicom นั้นเป็นชื่อสำหรับเครื่องที่วางจำหน่ายญี่ปุ่น เเละประเทศในเอเชีย ส่วนชื่อ NES (หรือชื่อเต็มว่า Nintendo Entertainment System) เป็นชื่อสำหรับเครื่องที่วางจำหน่ายในทวีปอเมริกาเหนือ ยุโรป เเละออสเตเรีย
โดย NES ใช้ CPU 6502, RAM ใน CPU 2KB และ PPU อีก 2KB (สำหรับบางเกมที่เซฟได้ จะมี RAM แฝงอยู่ในตลับเกมด้วย) ความละเอียดของภาพอยู่ที่ 256 x 240 pixel
ในปี 1986 Nintendo ได้ขยายตลาดออกไปเปิดสาขาใหม่ที่แคนาดา และทางแถบยุโรป
ถึงแม้ว่าพวกฝรั่งจะไม่ค่อยให้ความสนใจกันมากนัก แต่อาศัยที่ตลาดกว้างขวางกว่า และด้วยความมุทะลุของทาง Nintendo ทำให้ เครื่องเกม NES ในปี 1987 ทำกำไรให้ Nintendo ยิ่งกว่า Famicom ในญี่ปุ่นเสียอีก
ซึ่งหลังจากนั้นก็มีเกมต่างๆ ทั้งสำหรับ Famicom และ NES ออกมาให้เล่นมากมาย เรียกได้ว่า เกมออกเกือบเป็นรายอาทิตย์เลยทีเดียว
ในช่วงปลายปี 1994 ตลาดเกมเครื่อง Famicom เริ่มแผ่วลง เนื่องจากคู่แข่งสำคัญอย่าง SEGA เริ่มเข้ามาแย่งตลาด
แถมยังมีคู่แข่งเก่าอย่าง Atari รวมไปถึงทาง Nintendo เองก็มุ่งความสนใจไปที่การผลิตเครื่องรุ่นใหม่อย่าง Super Famicom ของตัวเองมากกว่า จนสุดท้ายก็เลิกทำการผลิตเครื่อง Famicom ไปใน เดือนมกราคมปี 1995