18 พ.ย. 2020 เวลา 11:00 • ปรัชญา
“วันหนึ่ง” ที่ไม่มีอยู่ในปฏิทิน
หนึ่งในฟังก์ชันที่ผมชอบมากๆ ที่พี่ๆทีมงาน blockdit ทำขึ้นมา เพื่อแก้ปัญหา สำหรับคนที่ “ชอบบทความนี้นะ แต่เดี๋ยวจะย้อนกลับมาอ่าน” ก็คือ ฟังก์ชัน bookmark
5
คำว่า bookmark ถ้าแปลเป็นไทยจะหมายถึง “ที่คั่นหนังสือ”
หน้าที่ของที่คั่นหนังสือ คือ ลดความยุ่งยาก ในการจะต้องมาเปิดหาหน้าที่อ่านค้างไว้อีกรอบ
เช่นเดียวกับ bookmark ใน blockdit คือ ลดความยุ่งยาก ในการจะต้องมาพิมพ์หา บทความที่เคยอ่านทิ้งไว้อีกครั้ง เผื่อวันไหนเรางานยุ่ง “วันหนึ่ง” เราจะได้ย้อนกลับมาอ่านได้...
6
แต่คุณเชื่อผมสิ ... “วันหนึ่ง” ไม่มีอยู่จริง
2
ผมได้ไอเดียนี้เมื่อเช้าครับ ตอนเห็นบทความล่าสุดของเพจ พี่ Anontawong'musings
3
สรุปสั้นๆของบทความนี้ พูดถึงข้อคิดจากการทำงาน ของพี่ท้อฟฟี่ แบรดชอว์ นักเขียนขวัญใจมนุษย์วัยทำงาน เริ่มตั้งแต่ 0 จนถึงตอนนี้ ว่าเขาผ่านอะไรมาบ้าง และ ได้ข้อคิดอะไรมาบ้าง ระหว่างทาง (ลองอ่านกันได้ สนุกครับ)
1
ผมอ่านไปได้ครึ่งหนึ่งก็รู้สึกว่า “เห้ย เจ๋ง!” “เห้ย สุดยอด!” “เห้ย อันนี้ดีๆ” “เห้ย เอาไปใช้ได้ๆ”
ก็อ่านไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ จนเลยครึ่งทางมานิดหนึ่ง เริ่มรู้สึกร้อน รู้สึกขี้เกียจ อยากลุกไปกินน้ำ อยากไปทำอย่างอื่น ความอยากผัดวันประกันพรุ่ง เริ่มพุ่งเข้ามา ก็เลยคิดว่า “เดี๋ยว bookmark ไว้ก่อนละกัน”
1
แต่ทันทีที่กด save ในหัวก็ฉุกคิดขึ้นได้ ...
“อันเก่าเรายังอ่านไม่จบเลยนะ”
“จะ bookmark อีกแล้วหรอวะ?”
2
พอลองย้อนกลับไปดู ... ปรากฏว่าใช่! บางอันเซฟไว้ตั้งแต่ต้นเดือน บางอันเซฟทิ้งไว้ตั้งแต่กลางปี บางอันจำไม่ได้แล้วว่าเซฟมาทำไม หัวข้อน่าอ่านนะ แต่ความรู้สึกอยากอ่านหายไปหมดแล้ว เหลือไว้แต่ชื่อของบทความ
2
จากวินาทีนั้นทำให้ผมรู้เลยว่า เรามีโอกาสแค่ครั้งเดียว ... ครั้งเดียวจริงๆ
2
“ครั้งเดียว” ที่จะอ่านบทความนั้นให้จบ
“ครั้งเดียว” ที่เราจะได้อ่านอะไรดีๆ ใต้ชื่อเรื่องเจ๋งๆ ...
“ครั้งเดียว” ที่จะได้ทำอะไรก็ตาม ที่เราตั้งใจไว้ให้เสร็จ
และ ครั้งเดียวครั้งนั้น ก็คือ “ครั้งนี้”
7
เพราะเราไม่มีทางรู้ว่าวันข้างหน้าเราจะได้ย้อนมาอ่านอีกไหม ในวันที่ข้อมูลไหลเข้ามาหาเราอย่างไม่มีหยุด ผมเองก็การันตีไม่ได้หรอกครับ ว่าบทความทุกอัน ที่ทุกคนได้อ่าน มันจะให้ไอเดียดีๆ กับเราทั้งหมด
แต่ถ้าโพสต์นั้น มีไอเดียที่ดีมากๆรอเราอยู่ แต่เราดันอ่านไม่จบ และ bookmark ไว้ ... มีโอกาสสูงมากๆที่เราจะไม่ได้ย้อนกลับมาอ่านอีก
ไม่เชื่อลองถามตัวเองเล่นๆ ดูก็ได้ครับว่า...
“หลังจากที่ bookmark บทความนี้ไปแล้ว จะย้อนกลับมาอ่านอีกทีเมื่อไหร่?”
ในปฏิทินมีวันที่ หนึ่ง สอง สาม สี่ แต่ไม่มี ”วันหนึ่ง” ... ถ้าคำตอบของคำถามนี้ของเรา คือ “ในสักวันหนึ่ง” ก็แปลความออกมาสั้นๆ ได้ว่า “วันนั้นจะไม่เกิดขึ้น”
3
ผมรู้สึกว่าไอเดียนี้จริง ก็ตอนกำลังเขียนบทความนี้ ...
2
ตอนนี้ผมนั่งเขียนมา 2 ชม. แล้ว จากที่รู้สึกมีไฟ มีแพสชั่น เริ่มรู้สึกร้อน รู้สึกหิว รู้สึกอยากพัก อยากอาบน้ำ อยากเดินเล่น อยากไปกินข้าว อยากกินขนม อยากรีแลกซ์ ...
1
แต่ลึกๆ ก็รู้ว่าความรู้สึกอยากเขียน อยากแชร์ไอเดียนี้ เก็บไว้ให้ตัวเองได้อ่าน มันอาจจะเกิดขึ้นแค่ครั้งเดียว ... แค่ครั้งนี้ก็ได้
ถ้าผมลุกไปกินน้ำ กินขนม ไปพัก ไปทำอย่างอื่น ความรู้สึกนี้อาจจะหายไป ... บทความนี้จะไม่ถูกโพสต์ และ อาจถูกดองไว้เป็นแบบร่างอยู่แบบนี้ ... “ตลอดไป”ก็ได้
2
เพราะเรื่องเขียนแล้วทิ้งร้างไว้อย่างนั้น เกิดขึ้นกับผมบ่อย ผมเลยตั้งใจว่า ต้องเขียนบทความนี้ให้เสร็จ ไม่ลุกไปไหน ไม่วอกแวก ถ้าทุกคนได้อ่านอยู่ตอนนี้ ก็แปลว่า mission ผม complete แล้ว
1
ไอเดียในเรื่องนี้ ผมคิดว่าใช้กับเรื่องอื่นได้อีกหลายเรื่องมากๆ เช่น อ่านหนังสือให้จบเล่ม ทำงานให้ตามเป้า กินข้าวให้ตรงมื้อ ซึ่งจริงๆก็คือคติที่ว่า “ทำอะไรแล้ว ทำให้สุด” นั่นล่ะครับ
1
อ้อ ผมไม่ได้กำลังจะบอกว่า เราไม่ควร bookmark นะครับ เพราะถ้าเราอ่านไม่ทันจริงๆ การ bookmark เป็นสิ่งสำคัญอยู่แล้ว เพียงแต่อยากฝากให้ทุกคน (รวมถึงตัวผมเอง) ได้ตั้งคำถามก่อนกด bookmark สักเล็กน้อยว่า ...
1
“เราจะย้อนกลับมาอ่านบทความนี้อีกทีเมื่อไหร่?”
1
ในคืนวันนี้ ในเย็นพรุ่งนี้ ในเช้ามะรืนนี้ หรือ ใน”สักวันหนึ่ง” (ที่จะถึงนี้)
แต่ ”สักวันหนึ่ง” ก็เหมือน 32 January
มันไม่มีอยู่ในปฏิทินนะครับ😁
#ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ
#WDYMean
1
โฆษณา