Judy Faulkner ผู้หลงใหลในการเขียนโปรแกรม
ที่ไม่รู้จะเขียนอะไรในวิทยานิพนธ์ สู่การสร้างบริษัท EPIC Systems ที่จัดการข้อมูลผู้ป่วย 250 ล้านคนทั่วโลก
...
Judy บอกว่าการเขียนโปรแกรมก็เหมือนการปั้นดิน มันเริ่มต้นจากก้อนดินเหนียวๆ ปรับแต่งจนกลายเป็นสิ่งของที่ใช้ประโยชน์ได้ในที่สุด
...
วันนี้นายอินโนจะพาไปรู้จักชีวิตของจูดี้ ที่สร้างเนื้อสร้างตัวจากความชอบในคณิตศาสตร์จนต่อยอดเป็นบริษัทที่มียอดขายปีละ 3,300 ล้านเหรียญสหรัฐกัน
คุณจูดี้ปัจจุบันเธออายุเกือบจะ 80 ปีแล้วละครับ แต่ยังดำรงตำแหน่งเป็นผู้บริหารของ Epic Systems อย่างที่ไม่มีทีท่าจะวางมือ โดยบริษัทของเธอนั้นเป็นผู้ให้บริการซอฟแวร์ที่ใช้บริหารจัดการโรงพยาบาล โดยสามารถให้บริการได้ตั้งแต่การทำนัดหมาย การเก็บข้อมูล หรือที่เรียกว่าเวชระเบียน คลังยา การออกบิลเรียกเก็บค่าใช้จ่าย
สินค้าของเธอเป็นผู้นำในตลาดมาอย่างยาวนาน และไม่เคยสูญเสียลูกค้าไปเลย ปัจจุบันมีกลุ่มลูกค้ากว่า 560 ราย ใช้งานในโรงพยาบาล 2,400 แห่ง มีข้อมูลผู้ป่วยที่รับผิดชอบกว่า 250 ล้านคน
สำนักงานใหญ่ของ Epic Systems ที่เรียกได้ว่าเป็นสวนสนุกย่อมๆ เพราะใช้แรงบันดาลใจจากนิยายเด็กหลายเรื่องเช่น Wizard of Oz, Happy Plotters
จูดี้เริ่มต้นการเขียนโปรแกรมของเธอเมื่อได้มีโอกาสไปฝึกงานที่ภาควิชาฟิสิกส์ตอนที่เธอเรียนปริญญาตรี นั้นเป็นจุดเริ่มต้นที่เธอได้เรียนรู้ “Fortran” ซึ่งต่อมาเธอได้ตัดสินใจที่จะเรียนต่อปริญญาเอกในด้านคอมพิวเตอร์ (ในยุคนั้นน่าจะเรียกได้ว่าเธอไม่ธรรมดาจริงๆ) และเป็นช่วงนี้เองที่ความสามารถในการเขียนโปรแกรมของเธอเปิดประตูสู่การสร้างบริษัทของเธอจริงๆในช่วงปี 1970
ในช่วงที่เธอเรียนนั้นก็มีโอกาสได้เจออาจารย์ที่แนะนำการประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์สำหรับการแพทย์ ซึ่งทำให้เธอได้รู้จักกับแพทย์อีกหลายคน หนึ่งในนั้นคือ John Greist ซึ่งเป็นหัวหน้าแพทย์ประจำบ้านและมีปัญหาที่ตามหาคนมาช่วยจัดการเป็นเวลานาย
ปัญหาที่ว่าก็คือ “การจัดตารางแพทย์เวรฉุกเฉิน”
ซึ่งจูดี้ก็พัฒนาโปรแกรม โดยที่เลขาที่ใช้การเจาะบัตรข้อมูล (data punch card) แล้วกำหนดตารางของแพทย์เวรได้ทั้งปีโดยใช้เวลาจัดตารางแค่เพียง 18 วินาทีเท่านั้นเอง
...
ซึ่งท้ายที่สุดเธอเลือกที่จะเรียนจบโดยไม่ได้ทำวิทยานิพนธ์ (ทำให้เธอไม่ได้รับปริญญาเอก) เพราะเธอนั้นสนุกกับการพัฒนาโปรแกรมมากกว่านั้นเอง
Data punch card ที่เอาไปใส่เครื่องอ่านก็จะประมวลผลตามคำสั่งที่ระบุไว้บนการ์
จูดี้และจอน (ผู้ที่ให้โจทย์แรกแก่เธอ) ก็เริ่มต้นสร้างบริษัทอย่างจริงจังในปี 1979 แน่นอนตามสไตล์คาวบอย พวกเขาจำนองบ้านและรวบรวมทรัพย์สินเป็นทุนตั้งต้นได้ 70,000 เหรียญและด้วยปณิธานของจูดี้ เธอปฏิเสธที่จะระดมทุนจากภายนอก (จนถึงปัจจุบันนี้) ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอและจอนแตกคอกัน เมื่อจอนต้องการที่จะให้บริษัทเติบโตเร็วๆ ด้วยการรับเงินทุนจากเหล่าเวนเจอร์แคปิตอล
สำหรับจูดี้เธอยึดหลักในการที่จะเติบโตอย่างช้าอย่างมั่นคง คอยรับฟังความต้องการของลูกค้าและพัฒนาสินค้าให้ตอบสนองความต้องการ บริษัทของเธอใช้เวลาเป็น 10 ปีในการที่จะเติบโตยอดขายจาก 500 ล้านเหรียญในปี 2007 ให้เป็นพันล้านเหรียญในปี
...
แนวคิดที่นิยมใน Silicon Valley’s อย่าง move-fast-and-break-thing ไม่ใช่ค่านิยมของ Epic เพราะสำหรับการแพทย์ เธอไม่สามารถบอกหมอให้ยอมรับ ถ้าโปรแกรมของมันจะผิดพลาดไปบ้าง เพราะความผิดพลาดมันคือความสูญเสีย
ใช่ว่า Epic จะเป็นผู้ชนะไปตลอดกาล จูดี้ต้องเจอกับความท้าทายใหม่ บริษัทสตาร์ทอัพหลายแห่งที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนต่างๆ พาเหรดกันเข้ามาแข่งขันในอุตสาหกรรมมากขึ้น ซึ่งสำหรับเธอแล้วเป็นเรื่องที่เธอคาดไว้อยู่แล้ว และไม่ได้กังวลใดๆ
สำหรับจูดี้นับจากวันแรกที่สร้าง Epic จนบริหารยอดขายหลายพันล้านเหรียญต่อปี เธอไม่ได้วางแผนที่ยิ่งใหญ่ แนวคิดในการทำงานของเธอก็เหมือนการปีนเขา
...
“การเดินทางของเธอก็เหมือนการปีนเขา เราจะเห็นเพียงแต่เนินข้างหน้าที่เราต้องพยายามข้ามผ่านไปให้ได้ เราไม่มีทางเห็นภูเขาทั้งลูกเวลาที่ปีนเขา”
- 14
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
