การขุดค้นหาสมบัติโบราณที่วัดกุฏีดาวในครั้งนั้น นอกจากจะพบความผิดหวังแล้ว พระองค์เจ้าฯ และพระสหายยังพบกับเหตุการณ์ที่น่ากลัวอีกหลายอย่าง นั่นก็คือ ท่านและพระสหายเห็น ร่างของนักรบไทยโบราณร่างกายใหญ่โตแต่ไม่มีหัว มาปรากฏต่อหน้าต่อตากลางวันแสกๆ นอกจากนี้ ภายในวังของท่านก็ยังมีเสียงคล้ายคนขุดดินตลอดเวลา เสียงนั้นดังชัดเจนได้ยินกันหลายคน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้พระองค์ต้องเชิญอาจารย์ที่นั่งทางในเก่งๆมาช่วยดู อาจารย์ท่านนั้นก็บอกว่า วิญญาณที่ปรากฏเป็น "ปู่โสมเฝ้าทรัพย์" ซึ่งเป็นเจ้าของสมบัตินั้น และโกรธแค้นมากที่เจ้านายพระองค์นี้มาทำการขุดค้นสมบัติของเขา จึงมาสำแดงกายให้เห็น ทั้งยังสาปแช่งพวกที่มาขุดสมบัติของเขาทุกคน (ซึ่งคำสาปแช่งนั้นต่อมาจะเป็นจริงหรือไม่ขอให้เพื่อนๆลองคิดดู)เพราะพระสหายคนหนึ่งที่ร่วมทีมขุดสมบัติกับท่านได้เสียชีวิตกระทันหัน ทั้งๆ ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงทุกอย่าง ส่วนพระสหายอีกคนก็หายสาบสูญไปโดยไม่ทราบชะตากรรม และตัวท่านเองทำธุรกิจอะไรก็ขาดทุนตลอดมา
ขุมทรัพย์โบราณที่วัดกุฏีดาวปัจจุบันก็ยังคงอยู่ที่เดิม ไม่มีใครกล้าไปขุดค้น เพราะเกรงว่าวิญญาณที่ยังคงวนเวียนเฝ้าสมบัติจะมาหลอกหลอนและสาปแช่ง
แถวใกล้วัดกุฏีดาวยังมีวัดใกล้เคียงหลายวัด รวมถึงวัดมเหยงค์ ซึ่งขึ้นชื่อว่า "ผีดุ" อีกวัดหนึ่ง ปัจจุบันตั้งเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม. เคยมีผู้เล่าให้ฟังว่า มีคนเคยได้ยินเสียงสวดมนต์ในท่วงทำนองอันไพเราะ ดังแว่วมาจากอุโบสถ เสียงสวดนั้นดังพร้อมเพรียงเป็นหมู่คณะ สวดช้า และเยือกเย็น ทำนองสวดไม่เหมือนปัจจุบัน และจะดังขึ้นในเวลาเช้าตรู่ ซึ่งพอเดินไปดูที่ต้นเสียงกลับไม่มีใครเลย แล้วเสียงนั้นมาจากไหน ยังเป็นปริศนามาจนทุกวันนี้...
อีกแห่งคือวัดใหญ่ชัยมงคล อ้อ ยาวแล้ว เอาไว้ฟังคราวหน้านะคะ ขอบคุณที่แวะมาอ่านกันค่ะ รบกวนกดไลค์ และคอมเมนท์เป็นกำลังใจให้ผู้เขียนด้วยนะคะ