19 พ.ย. 2020 เวลา 07:05 • ท่องเที่ยว
มานิ..ชนเผ่าสัญชาติแอฟริกันแรกในไทย..ตามไปดูกันที่สตูล
ครอบครัวชาวมานิ ที่อาศัยอยู่ในกระท่อมที่สร้างขึ้นจากใบไม้
“มานิ” ชนเผ่าแอฟริกันผู้เป็นเอเชี่ยน
ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาโซเนียมีโอกาสได้ไปท่องเที่ยวจังหวัดภาคใต้ จังหวัดหนึ่ง
ผู้มีเกาะหลีเป๊ะเป็นของตัวเอง… ซึ่ง หลายคนรู้จักหลีเป๊ะแต่ไม่รู้จัก
” สตูล “
พอได้รู้ว่าจะได้เข้าไปพบกับมานิ..โซนึกอะไรไม่ออกเลย ไม่รู้เลยว่าคืออะไร
เอ๊มันชื่อของสถานที่หรือเปล่าตอนนี้ หลายๆคนก็กำลังงงงวยอยู่เหมือนกันละสิ
ถ้าบอกว่าเงาะป่าซาไกละ……แหม๋ คงร้องอ๋อตั้งแต่2กิโลก่อนเข้าบ้านมานิละม้าง
เอาจริงๆก็เคยได้ยินชื่อนี้มาตลอด(ชื่อซาไก)แต่ไม่เคยเจอจริงๆนะคะ
เคยเห็นในทีวีแว๊บๆ ทำไมแว๊บๆอ๋อไม่ได้ตั้งใจดูไง
หลังจากที่ได้เข้าพบพวกเขาโลกของเราเปลี่ยนไป(อีกแล้ว)เลยจ้า…
คือโห โหหหหห ประเทศไทยยังมียังงี้จริงๆเหรอเนี่ย
คุณพระเหมือนหลุดไปอยู่ที่ทวีปแอฟริกาจริงๆ
โอเคเข้าเรื่องกันดีกว่านะเดี๋ยวจะกดปิดหนีไปก่อนพอดี
มานิ....Maniq แปลว่า Human Being แปลว่า มนุษย์!! ก็พวกเขาเป็นมนุษย์เหมือนเราๆเนี่ยล่ะ ซึ่งเป็นภาษา Tonga (ภาษาอะไรเนี่ย..ขออภัย) คิดว่าคือภาษาของพวกเขาค่ะ
เขาบอกว่า เขาไม่ใช่ซาไก..เพราะอะไรรู้ไหม
เพราะซาไกแปลว่าทาสจ้าที่รัก ความมุ้งมิ้งของเขาก็คือเขาจะอยู่กันเป็นกลุ่มเล็กๆ
(Band) กลุ่มนึงก็มีสองสามครอบครัว แต่กระจายอยู่หลายๆกลุ่มไม่ไกลกัน..
รวมไปรวมมาก็หลายร้อยชีวิตอยู่เหมือนกันนะคะ
เพราะครอบครัวนึงค่อนข้างใหญ่..
ยกตัวอย่างคนนึง ชื่อกำนัลไข่ มีเมีย3 ลูก 17 พระเจ้าจ๊อด.. การครองเรือนหรือมีครอบครัวก็เลยจึงไม่ไปไกลกันมาก การมีคู่วนเวียนอยู่ในเผ่า วงศาคณาญาติ
หมายถึงในกลุ่มเป็นร้อยคนเนี่ยเขาก็น่าจะเป็นญาติกันหมดเลยล่ะ
ตรงที่พีคเนี่ยคือ..ในเรื่องการจีบกันของเขา
ถ้าเขาชอบพอคนไหนแล้วผู้ชายจะชวนผู้หญิงไป
" ขุดมัน " คือออกไปหาหัวมันในป่านั้นแหละ ถ้าผู้หญิงยอมไปด้วยก็แปลว่า โอเค
แล้วล่ะ เพราะเขาไม่ได้ไปขุดมันกันจริงๆหรอก เพราะกลับมาจากขุดมันปุ๊บ
พวกเขาจะประกาศว่าเป็นผัวเมียกันทันทีค่ะ
เอออออง่ายแฮะ.. ไม่ต้องเปย์ ไม่ต้องขอไลน์
พวกเขาสร้างบ้านกับใบไม้เอามาสานเป็นผนังๆ เอาใบกล้วยปิดทับอีกที พอใบกล้วยเริ่มแห้งก็ย้ายบ้านหนี..เอ้างง 55555 นี่ก็งงเหมือนกันอะ ทำไมไม่เปลี่ยนใบใหม่อะ 5555
ว่ากันด้วยเรื่องย้ายบ้านหนีเนี่ย
ถ้ามีคนตายเขาก็วางศพไว้ที่นั่นแหละเอาใบไม้ปิด
แล้วย้ายหนีทั้งกรุ๊ปเลยไปให้ไกลๆ แล้วจะไม่กลับมาอีกแล้ว เพราะเขากลัวผีกันนะ
พวกเขาขับถ่ายบริเวรรอบๆแคมป์พวกเขาเลยแต่มิได้มีวิวัฒนาการ การกลบฝังแต่อย่างใด พอมันเริ่มเต็มเริ่มเยอะ เอ้าากูไปหาที่ตั้งแคมป์ใหม่ต่อไป
พอบ้านที่อาศัยใบไม้แห้ง เริ่มเหี่ยว เริ่มไม่มั่นคง
เขาก็หาที่ย้ายแคมป์ต่อไป สรุปนี่เอะอะวาร์ปอย่างเดียวเลยค่ะ
อาหารการกิน
แน่นอนพวกเขายังได้ชื่อว่าเป็น Forest People หรือคนป่านะพวกเขาก็ล่าสัตว์ เก็บพืชเป็นอาหารเหมือนเผ่าอื่นๆในสารคดีเลย มีการล่าหมูหลุม (หมูที่อาศัยในหลุม กูเกิ้ลดูนะ) แล้วก็สัตว์อื่นๆ
อุปกรณ์ใช้ในการล่าสัตว์
ตอนนี้พวกเขาเลิกใส่ใบไม้เป็นชุดแล้วเริ่มมีความเป็นคนเมืองมากขึ้น มีเสื้อผ้าใส่ แต่แอบเห็นเครื่องประดับก็ยังเป็นฟันสัตว์ กระดูกของสัตว์อยู่ ตอนนี้พวกเขาเริ่มรู้ภาษามากขึ้น บางคนเริ่มพูดภาษาใต้ได้เพราะได้ติดต่อกับคนท้องถิ่น...
ตอนนี้พวกเขาคือคนไทย มีบัตรประชาชน และความเท่าเทียมกันเหมือนพวกเราคนไทยทุกคน..เพียงแต่ตอนนี้พวกเขาขาดการศึกษา และเด็กรุ่นใหม่ๆกำลังได้รับการศึกษา ได้รับความดูแลพื้นฐานมากขึ้น เช่นเจ็บป่วยก็เริ่มไปโรงพยาบาลค่ะ สาวๆก็เริ่มไปคลอดกันที่โรงพยาบาลมากขึ้น... แต่รวมๆแล้วทั้งหมดก็ยังให้ความรู้สึกว่าพวกเขาเปลี่ยนไปแค่เสื้อผ้าเท่านั้นเอง
ใจก็ไม่อยากให้เขาเปลี่ยนไป แต่สังคมและโลกภายนอกมันกินขอบ เข้าไปหาเขาเรื่อยๆถ้าเขาไม่มีการปรับตัว การเปลี่ยนแปลง ก็คงจะอยู่ยากมากขึ้น บริเวณที่พวกเขาอยู่ ก็รายล้อมไปด้วยรีสอร์ทนะ เดี๋ยวนี้คนไปคนมาก็นำอาหาร นำของใช้ นำขนมเอาเข้าไปบริจาค (พวกเขาแฟร์มากเขาจะแบ่งทุกๆอย่างเท่ากันหมด หากไม่เท่ากัน เด็กจะได้ก่อน รองมาก็คือ ผู้หญิง คนชรา และ ผู้ชาย )
ใจนึงมันก็ดี ใจนึงโซก็ไม่อยากสร้างวัฒนธรรมผิดๆให้กับพวกเขา ที่อาจจะไม่หาอาหารอีกแล้วและนั่งรอนักท่องเที่ยวเอามาให้...แต่อย่างที่บอกเราเปลี่ยนสังคมโลกภายนอกไม่ได้จริงๆ การเปลี่ยนแปลง การปรับตัวย่อมมี...และโซหวังว่ามันจะเกิดขึ้นบนความพอดี
ชาวมานิในไทยอันที่จริงที่โซอ่านและสืบเสาะหาข้อมูลมา พวกเขาคือ แอฟริกันแท้ๆ ที่อพยบมานานนนนนนนนนมาก (ก็ว่าพอไปถึงเหมือนไม่ได้อยู่ประเทศไทยเลย) ก่อนที่จะมีคนเอเชีย เข้ามาจับจองอาศัยในแผ่นดินซะอีก (น่าจะเข้าใจถูกแล้วนะคะ)
แต่พวกเขาอยู่ในป่าและไม่ยุ่งไม่รบกวนกับใคร..พวกเขาก็คือพวกเดียวกับชนเผ่าทางมาเลย์ จากที่สอบถามเห็นว่าเป็นเชื้อสายเดียวกัน อพยพมาพร้อมกันแแต่แยกกัน
ไป
พวกเขาอาศัยอยู่ในแถบเทือกเขาบรรทัด... ตอนแรกอยู่ที่จังหวัดตรัง
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่2 ก็ลำบากๆหน่อยๆก็ตรงที่อยู่ในป่า ก่อไฟ เกิดควัน เครื่องบินก็นึกว่าข้าศึกก็ปล่อยระเบิดลง ทำให้พวกเขาอยู่ไม่ได้อพยพไปเรื่อยๆ จนมาถึงจังหวัดสตูล
ถ้าใครอยากพบเจอพวกเขา
ก็ไปได้เลย ที่อ.มะนัง
อำเภอนี้มีทั้งถ้ำ น้ำตก และล่องแก่งเด็ดๆสวยๆซ่อนอยู่... แวะไปล่องแก่งแล้วลองถามที่รีสอร์ทก็ได้ค่ะ จะไปเจอพวกเขายังไง...ถืออาหารขนมติดไม้ติดมือไปฝากพวกเขาได้ค่ะ
หากข้อมูลผิดพลาดช่วยแก้ได้เลยนะคะ
ฟังจากชาวบ้านในพื้นที่เล่าอีกทีนึงแล้ว
ก็หาข้อมูลภาษาอังกฤษเพิ่มเติ่มมาอีกทีค่ะ ......
ไว้เจอกันใหม่โพสหน้านะคะ ขอบคุณที่อ่านโพสแรกค่ะ :)
โฆษณา