30 ธ.ค. 2020 เวลา 22:00 • การศึกษา
ยิ่งให้ยิ่งได้เพิ่ม...
เรามีเวลาสร้างบารมีอยู่ในโลกนี้อย่างจำกัด เดี๋ยววันเดี๋ยวคืน กาลเวลาได้นำเอาความแก่ ความเจ็บ และความตายมาสู่ตัวเราทุกขณะ ไม่เคยหยุดพักแม้เพียงอนุวินาทีเดียว จึงไม่ควรประมาทในการดำเนินชีวิต บัณฑิตทั้งหลายพึงรีบสั่งสมบุญ เพื่อจะเป็นเหตุให้เข้าถึงความสุขที่แท้จริง ซึ่งความสุขที่เกิดจากใจหยุดนิ่งนี้ ต้องลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง เพราะใครทำคนนั้นก็ได้ ถ้าหากเราตั้งใจลงมือปฏิบัติในวันนี้ ก็จะได้ในวันนี้ หรือแม้วันนี้ยังไม่เข้าถึงธรรม ก็จะเป็นอุปนิสัยติดตัวเราไป ทำให้เราเข้าถึงธรรมในวันข้างหน้า การปฏิบัติธรรมจึงเป็นกรณียกิจสำหรับ ทุกคน
สิริ คือ ที่มานอนแห่งโภคทรัพย์สมบัติ ใครมีสิริอยู่ในตัว ย่อมจะเป็นที่มานอนแห่งโภคทรัพย์สมบัติทุกอย่าง เป็นผู้ที่มีเสน่ห์ดึงดูดตาดึงดูดใจของผู้ได้พบเห็น ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะเกิดจากการประกอบเหตุไว้ดี คือ เป็นผู้ที่สั่งสมบุญกุศลไว้มาก เป็นผู้ที่รักในการฝึกฝนอบรมตนเองอยู่เป็นนิตย์ ด้วยการหมั่นรักษาศีล ชำระกาย วาจา ใจให้บริสุทธิ์
ผู้ที่สั่งสมความดีจะเป็นผู้ที่น่าคบหาสมาคมของมนุษย์และเทวดา จะเดินทางใกล้ไกลก็สะดวกปลอดภัย ภยันตรายต่างๆ ไม่อาจมากลํ้ากรายผู้มีบุญ อีกทั้งจะได้รับการต้อนรับในทุกสถานที่ ไม่ว่าที่ที่จะเดินทางไปนั้นเป็นถิ่นทุรกันดาร หรือห่างไกลความเจริญเพียงไรก็ตาม บุญจะจัดสรรให้ไม่ต้องลำบากยากเข็ญ เรื่องบุญจึงเป็นเรื่องใหญ่ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับชีวิต สิริสมบัติทั้งหลายจะหลั่งไหลมาสู่ตัวเรา ก็ด้วยอานุภาพแห่งบุญ
เหมือนเรื่องในสมัยพุทธกาล มีอุบาสกผู้มีบุญท่านหนึ่ง ชื่อว่า จิตตคฤหบดี ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหน ท่านจะได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี มีพวกพ้องบริวารมากมาย ที่เป็นเช่นนั้น ก็เพราะภพชาติในอดีต ท่านเกิดเป็นพรานป่าในยุคสมัยของพระกัสสปพุทธเจ้า วันหนึ่งฝนตกหนัก แต่นายพรานป่าก็ยังถือหอกและธนูเข้าป่าเพื่อออกล่าเนื้อตามปกติ ขณะที่สายตากำลังสอดส่องหาเหยื่ออยู่นั้น ได้เห็นภิกษุรูปหนึ่งนั่งขัดสมาธิคู้บัลลังก์ อยู่บนเงื้อมหินดาด เอาผ้าจีวรคลุมศีรษะไว้โดยไม่ไหวติง พรานเกิดศรัทธาเลื่อมใสว่า แม้ฝนจะตก พระคุณเจ้าก็ยังนั่งบำเพ็ญสมณธรรมไม่ยอมเลิก ท่านปรารถนาจะทำบุญกับพระเถระ จึงรีบกลับบ้าน ให้คนในบ้านปิ้งเนื้อที่ได้มาเมื่อวาน
เมื่อสำรับอาหารพร้อมแล้ว บังเอิญมีภิกษุ ๒ รูปบิณฑบาตมาถึงหน้าบ้าน นายพรานได้น้อมนำภัตตาหารที่ตระเตรียมไว้ถวายพระทั้งสองรูปด้วยความยินดี นิมนต์ให้เข้ามานั่งฉันในบ้าน จากนั้นก็เข้าครัวจัดเตรียมอาหาร เพื่อจะนำไปถวายพระที่กำลังนั่งทำภาวนาอยู่กลางป่า
ระหว่างทาง นายพรานเลือกเก็บดอกไม้นานาชนิด ครั้นไปถึงแล้วได้อาราธนานิมนต์ให้พระเถระรับอาหาร จากนั้นก็รับบาตรของพระเถระมาบรรจุอาหารจนเต็ม พลางน้อมเข้าไปถวายท่าน อีกทั้งได้ทำการบูชาท่านด้วยดอกไม้ที่เก็บมาในระหว่างทาง
หลังจากพระเถระฉันภัตตาหารแล้ว ได้ให้พรนายพราน ขณะรับพรพระ นายพรานได้ตั้งจิตอธิษฐานว่า "ในสถานที่ที่ข้าพเจ้าไปเกิด ขอเครื่องบรรณาการ ๑,๐๐๐ ชนิด จงมีแก่ข้าพเจ้า ขอฝนดอกไม้ ๕ สี จงตกลงมาเพื่อข้าพเจ้า เหมือนที่ข้าพเจ้าได้บูชาพระเถระด้วยดอกไม้พร้อมกับบิณฑบาตมีรสอร่อยนี้ด้วยเถิด"
พระเถระเห็นว่า นายพรานท่านนี้มีอัธยาศัยงามและมีบุญ จึงแนะวิธีทำสมาธิภาวนาด้วยการบอกอาการ ๓๒ เป็นอารมณ์ นายพรานได้นำคำสอนของพระเถระกลับไปปฏิบัติที่บ้าน พร้อมทั้งตั้งใจสั่งสมบุญกุศลตลอดชีวิต เมื่อละจากโลก ท่านได้ไปบังเกิดในเทวโลก ในสถานที่ที่ท่านอุบัติขึ้นนั้น ฝนดอกไม้ทิพย์ได้ตกลงบนพื้นสูงถึงหัวเข่า ทั้งตนเองก็เป็นผู้มียศยิ่งใหญ่กว่าเทวดาองค์อื่นๆ
ท่านเวียนว่ายอยู่ในเทวโลกและมนุษยโลกหนึ่งพุทธันดร ต่อมาในยุคสมัยนี้ ท่านได้บังเกิดในสกุลมหาเศรษฐี ขณะท่านเกิด มีเรื่องอัศจรรย์บังเกิดขึ้น คือมีฝนดอกไม้ ๕ สี ตกลงมาทั่วทั้งเมืองสูงถึงหัวเข่า บิดามารดาเห็นว่า ทั่วเมืองวิจิตรไปด้วยดอกไม้ ๕ สี เพราะอานุภาพบุญของบุตรชายแท้ๆ จึงขนานนามลูกชายว่า จิตตกุมาร พร้อมกันนั้นก็มีเศรษฐีจากตระกูลอื่นนำของที่ระลึกมามอบให้เป็นบรรณาการถึง ๑,๐๐๐ ชนิด หนูน้อยจิตตะได้รับการเลี้ยงดูเป็นอย่างดีจนเติบใหญ่
ต่อมา เมื่อบิดามารดาล่วงลับ ท่านได้สืบทอดตำแหน่งเศรษฐีจากบิดา สมัยนั้น พระเถระชื่อว่า มหานามะ ซึ่งเป็นหนึ่งในจำนวนพระเถระปัญจวัคคีย์ ได้จาริกออกเผยแผ่พุทธธรรมไปถึงนครมัจฉิกาสัณฑะ จิตตคฤหบดีเลื่อมใสในอิริยาบถของท่าน จึงรับบาตรและนิมนต์มาฉันภัตตาหารที่คฤหาสน์ อีกทั้งสร้างวัดชื่อ อัมพาตการาม ถวายแด่พระภิกษุ เพื่อตนเองจะได้ทำบุญถวายภัตตาหารแด่พระเถระและหมู่สงฆ์
พระเถระเห็นอุปนิสัยของจิตตคฤหบดีว่าเป็นผู้มีบุญลงมาเกิด จึงแสดงธรรมชื่อฉฬายตนวิภังค์ เมื่อสิ้นสุดการแสดงพระธรรมเทศนา ท่านจิตตคฤหเศรษฐีได้บรรลุธรรมเป็นพระอนาคามี จากนั้นอุบาสกคิดว่า เราไม่เคยเข้าเฝ้าพระทศพลเลย จึงปรารถนาที่จะเข้าเฝ้าพระบรมศาสดา ท่านได้ชักชวนบริษัท ๒,๐๐๐ คนออกเดินทาง เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ว่า ในทุกหน ทุกแห่งทุกโยชน์ เหล่าเทวดาจะพากันตั้งเครื่องบรรณาการไว้รอคอย ทำให้การเดินทางสะดวกสบายยิ่งนัก
ในขณะที่จิตตคฤหบดีเข้าไปถวายบังคมพระบรมศาสดา ฝนดอกไม้ ๕ สี ได้ตกลงมาจากอากาศท่วมถึงหัวเข่า บรรยากาศ ในมหาสมาคมนั้นประดุจบนสรวงสวรรค์ มีกลิ่นดอกไม้หอมฟุ้งจรุงใจ ผู้ที่มาเข้าเฝ้าต่างเบิกบานใจ พร้อมๆ กับการได้ดื่มด่ำธรรมรสอันยอดเยี่ยมจากพระบรมศาสดา และได้เข้าถึงธรรมกันเป็นจำนวนมาก แม้จิตตคฤหบดีถวายทานแด่พระทศพลนานถึงครึ่งเดือน ไทยธรรมต่างๆ ที่นำมาจากบ้านก็ยังไม่หมด เพราะมีชาวเมืองนำบรรณาการมามอบให้ไม่เคยขาด เกวียนไหน ว่างเปล่า เทวดาก็มาร่วมอนุโมทนา ด้วยการเนรมิตเกวียนเปล่า ให้เต็มไปด้วยรัตนะชาติทั้งเจ็ด
มหาชนต่างพากันสรรเสริญท่านว่า จิตตคฤหบดีท่านนี้ช่างมีบุญจริงหนอ ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหนก็ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี แม้จะทำความดีก็มีผู้มาร่วมบุญไม่ขาดสาย พระบรมศาสดาทรงสดับเรื่องนั้น จึงตรัสว่า คนผู้มีศรัทธา ถึงพร้อมด้วยศีล เพียบพร้อมด้วยยศและโภคสมบัติ ไม่ว่าจะเดินทางไปในสถานที่ใดก็ตาม ย่อมได้รับการต้อนรับจากมนุษย์และเทวดาในที่นั้นๆ
จะเห็นได้ว่า ความมหัศจรรย์ต่างๆ ที่บังเกิดขึ้นมานั้น เป็นเพราะอานุภาพของบุญทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นอย่าได้เบื่อหน่าย ในการสั่งสมบุญ อย่าท้อใจ ชะล่าใจว่า เราทำบุญมากแล้ว ต้องให้ศูนย์กลางกายของเราอัดแน่นเต็มเปี่ยมด้วยพลังแห่งบุญบารมี ดวงบุญในตัวใหญ่โตมากเพียงไร ความสุขความสำเร็จก็บังเกิด ขึ้นมากเพียงนั้น งานสร้างบารมีร่วมกันเพื่อรื้อสัตว์ขนสัตว์ไปสู่ฝั่งนิพพานก็จะใกล้เข้ามา ดังนั้นให้พวกเราทุกคนสั่งสมบุญ ชนิดไม่ให้บาปได้ช่องกันเลยทีเดียว เราจะได้เป็นผู้มีชัยชนะตลอดกาล
จากหนังสือธรรมะเพื่อประชาชน ฉบับมงคลชีวิต ๓ หน้า ๒๓๓ - ๒๔๐
อ้างอิง.......พระไตรปิฎก ฉบับมหามกุฏฯ (ภาษาไทย)
บุพพกรรมจิตตคฤหบดี เล่ม ๔๑ หน้า ๒๕๗
โฆษณา