20 พ.ย. 2020 เวลา 07:07 • ข่าว
EP.82 “The Open-Pit Beef Stand”
ประเทศไทยนี่น่าจะเป็นเมืองสวรรค์ของพวก Street Food หรืออาหารข้างทาง นอกจากจะราคาถูก หาซื้อได้ง่ายแล้ว รสชาติยังเป็นที่ถูกอกถูกใจของบรรดาเหล่านักกินทั้งหลายอีกด้วย
ที่อเมริกาไม่ค่อยจะมี Street Food เหมือนที่ไทยมากนัก บางทีก็จะมีเป็น Food Truck บ้าง หรือบางทีจัดงาน จัดเทศกาลต่างๆ ก็จะมีออกมาขายเป็นซุ้มๆบ้าง อาจจะเป็นเพราะกฎหมายที่ค่อนข้างเคร่งครัด เรื่องการขออนุญาต ความปลอดภัย ความสะอาดของอาหารต้องมาเป็นที่หนึ่ง
Joe Metheny ชายผู้ที่เรากำลังจะกล่าวถึงในต่อไปนี้ก็เป็นหนึ่งในคนที่เปิดกิจการอาหารข้างถนน หรือ จะเรียกว่า Street Food ก็ได้ เหมือนกัน แต่กิจการของ Joe ก็ดูท่าจะไปได้ดีแค่ไม่กี่อาทิตย์ แล้วก็ต้องปิดตัวลงในไม่ช้า แต่ไม่ใช่เพราะร้านของ Joe ไม่สะอาดหรอกนะคะ…….
Joe แค่ขาดวัตถุดิบหลักในการทำอาหารไปเท่านั้นเอง
*************************************************************
ใครคือ Joe Metheny?:
Joe Metheny เกิดเมื่อวันที่ 2 มีนาคม ปี 1955 ณ รัฐ Maryland สหรัฐอเมริกา ปูมหลังในชีวิตของ Joe ไม่ค่อยจะดีนัก พ่อของ Joe นั้นติดเหล้าอย่างนัก และเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อ Joe มีอายุเพียงแค่ 6 ขวบ แน่นอนเมื่อพ่อเสียแล้ว แม่ของ Joe ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อหาเงินมาใช้จ่ายและเลี้ยงดูลูกๆทั้ง 6 คน Joe กับพี่น้องจึงไปอยู่กับคนโน้นที คนนี้ที หรือไปอยู่กับญาติที่ช่วยเลี้ยงบ้าง หรือกับครอบครัวคนอื่นที่แม่จ้างให้ดูแล Joe บ้าง ตอนที่แม่ไปทำงาน
ในปี 1973 เมื่อ Joe มีอายุได้ 18 ปี Joe สมัครเป็นทหารและถูกส่งตัวไปที่ประเทศเยอรมัน (Joe เคยบอกด้วยว่าตัวเองเข้าร่วมรบในสงครามเวียตนามด้วย แต่ไม่มีข้อมูลยืนยันว่าจริงไหม และทุกคนคิดว่าเป็นแค่คำกล่าวอ้างของ Joe) อย่างไรก็ตามในช่วงที่ Joe เข้าร่วมเป็นทหารนี่เอง เป็นจุดที่ Joe เริ่มติดยาอย่างหนัก เขาใช้ยาและเหล้าอยู่บ่อยครั้งและส่วนมากแล้วพอติดยาติดเหล้า Joe ก็จะไม่สามารถไปทำงานได้ จึงทำให้ตกงานและไม่มีงานทำ Joe จึงไปอยู่อาศัยอยู่ตามชุมชนของ Homeless ต่างๆ และรับจ้างทำงานเล็กๆน้อยๆเลี้ยงชีพ คนในชุมชนมักจะบอกว่า Joe นั้นถึงจะตัวใหญ่และรูปร่างน่ากลัว แต่ก็เป็นคนนิสัยดี สุภาพ พึ่งพาได้ (Joe สูง 6 ฟุต 1 และหนักเกือบ 500 ปอนด์)
ในช่วงปี 1990 Joe ยังคงอยู่อาศัยอยู่กับชุมชน Homeless (แถวๆใต้สะพานในย่าน South Baltimore) แต่ได้ทำงานเป็นคนขับรถ fork lift ซึ่งพอได้เงินมา Joe ก็จะใช้ไปกับการซื้อเหล้าในบาร์ และซื้อยาเสพติดมาใช้ วนไปวนมาแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่นานหลังจากนั้น Joe ได้พบกับผู้หญิงคนนึง ทั้งสองคนตกลงแต่งงานและมีลูกด้วยกันคนนึง ในตอนนี้ Joe มีงานทำ และพอมีเงินอยู่บ้าง จึงพาครอบครัวไปเช่า Apartment และเลี้ยงดูลูกชายด้วยกัน
แต่สิ่งที่ดูเหมือนจะดีในชีวิต Joe ก็ดูเหมือนจะอยู่กับ Joe ได้ไม่นาน วันนึงของเดือนกรกฎาคม ปี 1994 Joe ซึ่งในขณะนั้นมีอาชีพเป็นคนขับรถบรรทุกแล้วกลับบ้านมาในตอนเย็นเหมือนกับทุกๆวัน แต่ในวันนั้นเมื่อเปิดประตูเข้าบ้านมา บ้านของ Joe นั้นกลับว่างเปล่า ไม่เพียงแค่ภรรยากับลูกชายจะหายตัวไป แต่ของในบ้านของ Joe ก็หายไปด้วย ภรรยาของ Joe (ซึ่งก็เป็นคนติดยา ติดเหล้าเหมือนกัน) ออกจากบ้านไปพร้อมกับลูกชายวัย 6 ขวบ ของทั้งคู่และยังเอาข้าวของเครื่องใช้ในบ้านไปอีก Joe นั้นเสียใจมากที่ลูกชายของตัวเองหายไป เขาไม่รู้จะไปตามตัวลูกชายได้ที่ไหน
*************************************************************
ความแค้นกลายมาเป็นความบ้าคลั่ง:
หกเดือนต่อมา Joe ได้คุยกับคนรู้จัก และได้ข้อมูลมาจากคนรู้จักว่า ภรรยาเก่าของ Joe นั้น มีแฟนใหม่แล้ว และก็หวนกลับเข้าสู่วงการยาเสพติดเหมือนเดิม มิหนำซ้ำแล้ว ยังเข้าสู่วงการโสเภนี พูดง่ายๆเลยคือ เอาตัวเข้าแลกเพื่อหาเงินมาเสพยานั้นเอง และพอเป็นแบบนี้แล้วก็ไม่สามารถดูแลลูกชายต่อไปได้ ลูกชายของ Joe ถูกเจ้าหน้าที่ส่งตัวเข้าระบบ และพอเข้าระบบก็จะถูกหาพ่อแม่อุปถัมป์ หรือพ่อแม่บุญธรรมต่อไป เมื่อ Joe ได้ยินแบบนั้นเขาโกรธมาก สาเหตุเพราะว่า Joe คิดว่า เขาไม่สามารถไปรับลูกมาเลี้ยงดูได้ เพราะตัวเองก็มีประวัติเรื่องยาเสพติด (และอาชญากรรมอื่นๆ) ยาวเป็นหางว่าว เขาโทษภรรยาเก่าและแฟนใหม่ว่าเป็นเหตุให้ตัวเองเสียลูกไป ก่อนที่จะเดินทางไปยัง “Tent City” แหล่งชุมชนชาว Homeless ใต้สะพานแถว South Baltimore เพราะมีคนบอกว่า ภรรยาเก่าและแฟนใหม่นั้นอาศัยอยู่ที่นี้
1
เมื่อ Joe มาถึงที่ Tent City เขาพบกับ Randall Brewer และ Randy Piker ชายชาว Homeless สองคน Joe ถามหาภรรยาเก่าของตัวเอง เมื่อ Randall กับ Randy ปฏิเสธว่าไม่เห็นและไม่รู้จัก แทนที่ Joe จะเดินกลับออกไปหาภรรยาเก่าตัวเองที่อื่น ในสมองของ Joe (ซึ่งน่าจะมีรูปแบบความคิดไม่เป็นหลักแหล่ง เพราะติดยาอย่างหนัก) ดันไปคิดว่า ทั้ง Randall และ Randy นั้นมีส่วนในการซื้อขายยาให้กับภรรยาเก่าตัวเอง และยังน่าจะซื้อบริการจากภรรยาเก่าตัวเองอีกด้วย ทำให้ Joe เกิดโมโหเป็นอย่างมาก……...เลยหยิบเอาขวานที่วางอยู่แถวนั้น มาจามหัวและสับ Randall กับ Randy ที่นอนหลับอยู่บนฟูกที่นอนเก่าๆ ใต้สะพานนั้นเอง (😰😨😱)
1
หลังจากนั้น Joe ก็ไม่ได้มีความพยายามที่จะกลบเกลื่อนความผิดตัวเองเลย Joe ทิ้งศพ Randall กับ Randy ที่โดนสับเละไว้อย่างนั้น แล้วก็ออกไปหาตัวภรรยาเก่าต่อ และในคืนนั้นก็ไม่ได้มีเพียง Randall กับ Randy ที่เป็นเหยื่อของ Joe
🪓 Joe ออกไปตระเวนหาภรรยาเก่าในย่านหญิงขายบริการ และไปเจอกับหญิงขายบริการคนที่ 1 ก่อนจะชวนหญิงขายบริการคนเดิมมาแถวใต้สะพานแถบๆ Tent City Joe แบ่งยาเสพติดให้หญิงบริการคนนี้ ก่อนที่จะพยายามถามเกี่ยวกับที่อยู่ของภรรยาเก่า เมื่อหญิงขายบริการปฏิเสธว่าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับภรรยาเก่าเขาเลย Joe โกรธและคิดว่าหญิงบริการคนนี้โกหก Joe ทั้งตบตี ข่มขืน และฆ่าหญิงบริการคนนี้ทิ้ง แล้วเอาศพเธอซ่อนไว้ในพุ่มไม้แถวๆนั้น
🪓 Joe ทำแบบเดิมอีกกับหญิงขายบริการคนที่ 2 เหมือนกับคนที่ 1 ทุกอย่าง เมื่อหญิงขายบริการคนที่ 2 ปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับภรรยาเก่าของ Joe แต่มันดันเหมือนกับเอ่ยปากให้มีคำพิพากษาปลิดชีวิตตัวเองไปด้วย Joe ฆ่าหญิงบริการรายที่ 2 ในทันที ก่อนที่จะพยายามเอาศพไปแอบไว้ในพุ่มไม้เหมือนกัน
🪓 ในขณะที่ Joe กำลังซ่อนศพอยู่นี่เอง Joe เหลือบไปเห็นชายชราคนนึงกำลังนั่งตกปลาอยู่ ไม่ไกลจากสถานที่เกิดเหตุ Joe ไม่แน่ใจว่าชายชราคนนี้เห็นเหตุการณ์หรือไม่ หรือเคยเห็น Joe ตอน Joe เดินเข้ามาแถวนี้หรือเปล่า Joe ตัดสินใจไม่เสี่ยงและคว้าเอาท่อเหล็กเก่าๆที่วางอยู่แถวนั้น ก่อนจะปรี่เข้าไปข้างหลังชายชราและกระหน่ำฟาดชายเคาะห์ร้ายจนเสียชีวิต
🪓 Joe นำศพหญิงขายบริการสองคนและศพชายชรามัดกับหินที่อยู่แถวนั้น แล้วโยนลงน้ำ ก่อนจะเดินจากมาในที่สุด…..ในช่วงเวลา 7 ชั่วโมง Joe ฆ่าคนไปถึง 5 คน แบบไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย (😱)
2 อาทิตย์ต่อมา Joe ก็ถูกจับในคดีฆาตกรรม Randall กับ Randy โดย Joe เข้าไปอยู่ในคุกรอการพิจารณาคดีถึง 18 เดือนด้วยกัน ก่อนที่คดีของ Joe จะถูกยกฟ้อง เพราะไม่มีหลักฐานมากพอ (ในระหว่างนี้ Joe ไม่ได้ปริปากบอกใครเกี่ยวกับเรื่องที่เขาฆาตกรรมหญิงขายบริการกับชายชราอีกสามศพด้วยกัน)
*************************************************************
จากความบ้าคลั่งกลายมาเป็นความนิยมชมชอบ:
หลังจากที่ Joe ออกจากคุกมา Joe ไม่ได้เรียนรู้หรือสำนึกผิดอะไรเลย กลับกัน Joe กับพึ่งรู้ว่า ตัวเองนั้นชอบที่จะได้ “ฆ่า” และทนไม่ไหวที่จะทำอีกครั้ง หลังจากออกจากคุก Joe ขอกลับเข้าไปทำงานกับเจ้านายเก่าของตัวเองที่บริษัททำ pallet (อธิบายไม่ถูก เหมือนไม้ที่เป็นแผ่นๆหรือเอามาต่อกันทำเป็นที่วางของ) และที่ตั้งของบริษัท อยู่ในที่เปลี่ยว มีรั้วเหล็กล้อมรอบ สุดถนนเป็นทางตัน และในพื้นที่ยังมีรถ trailer เล็กๆ Joe จึงขออาศัยอยู่ใน trailer ดังกล่าว แลกกับการดูแลพื้นที่ให้ ซึ่งเจ้านายของ Joe ตอบตกลง
เมื่อย้ายเข้ามาอยู่อาศัยที่บริษัทแล้ว Joe ก็เริ่มดำเนินการทำตามแผนและความตั้งใจของตัวเอง
1
สถานที่เกิดเหตุ
🔪ในปี 1994 Joe ลวงเอาหญิงที่ชื่อว่า Cathy Ann Magaziner อายุ 45 ปี ซึ่งทำงานเป็น sex worker มาที่ trailer ของตัวเอง ก่อนจะรัดคอ ข่มขืนและเอามีดแทง Cathy จนเสียชีวิต
🔪ในเดือนพฤศจิกายน ปี 1996 Joe ทำเหมือนเดิมคือล่อลวง Kimberly Spicer มาที่ trailer ก่อนจะทำร้ายและฆ่า Kimberly
Signature ของ Joe คือการล่อล่วงเอาหญิงสาวที่กำลังอยู่ในสภาวะลำบาก ติดยา และต้องเอาตัวเข้าแลกเพื่อหาเงินไปซื้อยาเสพติด ก่อนที่จะฆ่า ชำแหละเนื้อออก Joe เอาเนื้อส่วนที่ดีเก็บไว้ในกล่องเก็บอาหารและเอาไปแช่ไว้ในตู้แช่แข็ง ส่วนกระดูกหรือเศษเนื้อที่ไม่ใช้ Joe เอาไปฝังไว้ในป่าที่อยู่ข้างหลังบริษัท หรือรถ Trailer นั้นเอง (Joe เก็บเนื้อของ Cathy ไว้นานถึงสองปี)
แล้ว Joe เก็บเนื้อของเหยื่อไว้ทำไม………
Well well…...ไม่กี่อาทิตย์หลังจากที่ฆาตกรรม Kimberly Joe เปิด Food Stand เล็กๆ (เหมือนขายอาหาร แต่อาจจะเป็นแค่ grab and go ไม่มีที่ให้นั่งกิน) โดยขายพวกเบอร์เกอร์ แซนวิช หรือเนื้ออบ อาหารกินง่าย กินคล่อง ไม่ต้องมีพิธีรีตรองอะไรมาก จากคำสารภาพของ Joe >>>>Joe เอาเนื้อของเหยื่อที่เก็บไว้ในช่องแช่แข็งมาบดผสมกับเนื้อวัวและเนื้อหมู และลองเอาไปทำอาหารดู พอ Joe ชิมแล้วก็คิดว่า เนื้อของเหยื่อที่ผสมไว้นั้นไม่ได้มีรสชาติแตกต่างจากเนื้ออื่นๆที่เขาใช้เลย Joe เลยตัดสินใจเอาเนื้อที่ผสมกันนั้นแหละ ….เอาออกมาขาย ซึ่งคนที่ขับรถบรรทุก หรือคนที่อาศัยอยู่ในเมืองนั้นแหละ แวะเวียนมาใช้บริการและซื้ออาหารจาก Joe อยู่บ่อยครั้ง 🤮🤮🤮🤮🤮🤮 (ขอตัวไปอ็อกก่อน)
1
*************************************************************
เหยื่อรายสุดท้าย:
ในวันที่ 8 ธันวาคม ปี 1996 (ห่างจาก Kimberly แค่เดือนเดียว) Joe ทำเหมือนเดิมคือชวน Rita Kamper มาที่ Trailer ของตัวเองเพื่อเสพยาด้วยกัน หลังจากเคลิ้มได้ที่ Rita ปฏิเสธที่จะมีเพศสัมพันธ์กับ Joe แต่ไม่มีปัญหาหรอกนะ เพราะทำไม Joe ต้องขออนุญาต Rita ด้วยละ? Joe เริ่มพยายามถอดเสื้อผ้า Rita ออก และ Rita เริ่มกรีดร้อง Joe ได้แต่หัวเราะเยาะ Rita และบอกให้ร้องไปเหอะ ไม่มีใครได้ยินหรอก Joe เอาของแข็ง (ไม่แน่ใจว่าอะไร) และฟาดเข้าไปที่หัวของ Rita อย่างจัง Rita โงนเงนและเซล้มลง
Joe หันหลังให้ Rita เพียงแค่เสี้ยววินาที และนี่แหละเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ของ Joe ในช่วงเสี้ยววินาทีนั้น Rita ดันลุกขึ้นมาได้และเริ่มวิ่งหนีไปยังประตู พร้อมกับตะโกนร้องขอความช่วยเหลือไปด้วย Joe นั้นก็ได้แต่ยิ้มเยาะ เพราะจะวิ่งไปไหนเหรอ? รอบๆบริษัทนั้นมีแต่รั้วเหล็กที่สูงถึง 8 ฟุต และบนรั้วยังมีรั้วรวดหนามพันไว้รอบเพื่อกันคนปีนนี่แหละ ตัว Joe เองยังปีนไม่ได้เลย แล้ว Rita จะปีนเข้าไปได้ยังไง???
แต่ในตอนที่ Joe เหลือบไปเห็นอีกที Rita กำลังปีนขึ้นตัว Palett ที่วางไว้ข้างๆรั้วนั้นแหละค่ะ โดย Palett นั้นวางกองตั้งไว้สูงพอสมควร ทำให้ Rita ปีนและข้ามรั้วมาได้สบายๆ และเดชะมหาบุญของ Rita อีก ที่พอลงจากรั้วและมี Joe วิ่งตามมานั้น ดันมีรถกระบะผ่านมาในทางที่เปลี่ยวแถวนั้นพอดี รถคันดังกล่าวจอด และรับเอาตัว Rita ขึ้นรถ ก่อนที่จะพากันไปที่ปั้มน้ำมันที่ใกล้ที่สุดเพื่อโทรแจ้งตำรวจ
พอ Joe เห็นดังนั้นเขาก็รู้ชะตากรรมในทันทีว่าตำรวจน่าจะมาถึงที่บริษัทในไม่ช้า Joe ไปรวบรวมเสื้อผ้าของ Rita ก่อนจะคว้ากุญแจไปไขประตูรั้วเพื่อเปิดรอตำรวจ
หลังจากนั้น Joe ก็ถูกนำตัวไปที่สถานที่ตำรวจ และโดนเค้นสอบปากคำ เพราะ Rita ให้การว่า Joe พยายามจะฆ่าเธอ และบอกว่าจะเอาศพ Rita ไปโยนทิ้งไว้ในป่า “เหมือนกับคนอื่น” Joe ก็บอกว่าเป็นความจริงและสารภาพถึงการฆาตกรรมที่เกิดขึ้นที่ Tent City และการฆาตกรรม Cathy กับ Kimberly ด้วย
ระหว่างที่ Joe อยู่ในคุก เขาได้ออกมาข้างนอกหลายต่อหลายครั้งเพื่อชี้จุดที่ฝังศพต่างๆไว้ โดยเฉพาะศพของ Cathy กับ Kimberly นั้น เขาไม่ได้โยนลงไปในหลุมเดียว แต่กระจายแยกไปถึง 7 หลุมด้วยกัน
Joe ขณะออกมาชี้จุดฝังศพให้กับเจ้าหน้าที่
**เจ้าหน้าที่หาศพหญิงขายบริการสองคนกับชายชราที่ Tent City ไม่เจอ เลยไม่รู้ว่า เพราะเวลาผ่านไป กระแสน้ำก็พัดพาศพหายไปด้วย หรือจริงๆแล้ว Joe นั้นโกหกกันแน่
*************************************************************
การพิจารณาคดีและคำพิพากษา:
Joe ถูกพิพากษาให้รับโทษ จำคุกในคดีลักพาตัวและพยายามประทุษร้ายทางเพศต่อ Rita เป็นเวลา 50 ปีด้วยกัน ก่อนจะถูกพิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิตในคดีของ Cathy กับ Kimberly (ในตอนแรกนั้นเป็นโทษประหารชีวิตแต่มีการกลับคำพิพากษาลดหย่อนให้จำคุกตลอดชีวิตแทน) Joe นั้นไม่ได้ให้เหตุผลว่าทำไปทำไม หรือฆ่าคนเหล่านั้นเพื่ออะไร เขาเพียงแค่บอกว่า เขาแค่ “enjoyed it” และไม่มีข้อแก้ตัวอย่างอื่น (โห ไรเนี่ย)
แม้ว่า Joe จะขอร้องให้ คณะลูกขุนลงโทษประหารชีวิตเขาเสียเหอะ ในตอนนึง Joe ถึงกับกล่าวกับคณะลูกขุนว่า "The words `I'm sorry' will never come out, for they would be a lie. I am more than willing to give up my life for what I have done, to have God judge me and send [me] to hell for eternity." ที่ Joe เสียใจนั้นมีอย่างเดียวคือ ความแค้นที่มีให้กับภรรยาเก่ากับแฟนใหม่ ยังไม่ได้รับการชำระ (เป็นบุญของเขาที่ Joe ตามหาตัวไม่เจอ)
ในเดือนสิงหาคม ปี 2017 Joe ซึ่งมีอายุ 62 ปี ถูกพบหมดสติในคุกก่อนที่จะเสียชีวิตในที่สุด หนึ่งในคำสารภาพของ Joe ยังฝากบอกไปถึงคนที่นิยมทานอาหาร street food หรือ food stand ต่างๆว่า “Well that's my story, horrible but true. So the next time you're riding down the road and you happen to see an open pit beef stand, that you've never seen before, make sure you think about this story before you take a bite of that sandwich. Sometimes you never know who you may be eating. Ha! Ha!”
2
**คือนอกจากจะทำให้หลอน ยังมาทิ้งท้ายให้คนอื่นหลอนตาม 🤬🤬 ไม่ได้สำนึกผิดอะไรเลยทั้งสิ้น
ทางการก็ไม่สามารถหาหลักฐานมายืนยันได้นะคะว่า Joe เอาเนื้อเหยื่อผสมเนื้อสัตว์แล้วขายจริงหรือเปล่า >>>>เพราะหลักฐานน่าจะหายไปหมดแล้ว และจะไปตามหาเอาคนที่เคยกินอาหารร้าน Joe ก็ไม่รู้จะทำไง น่าจะเลยตามเลย อย่างน้อยก็น่าจะปรุงสุกแล้วแหละน่า (🤮🤮🤮)
1
EP. เก่าๆดูได้อีกทางที่นี้ค่ะ
Facebook Page:
Blockdit:
โฆษณา