21 พ.ย. 2020 เวลา 13:30 • ปรัชญา
เมื่อความตายมาเชื้อเชิญ*ด้วยความงาม...
ภาพจาก Pinterest
...เชื้อเชิญ* ในพจนานุกรมไทย หมายถึง เชิญด้วยความสุขภาพ อ่อนน้อม...
วันนี้ ได้ดูข่าวจากรายการทีวีถึงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในช่วงวันหยุดยาว ที่เป็นข่าวดังน่าจะเป็นข่าวนายก
เล็ก(นายกเทศมนตรี)ประสบอุบัติเหตุรถแหกโค้งบนดอยอินทนนท์ในขณะที่กำลังจะไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เสียชีวิตรวม 5 ศพ
อีกหนึ่งข่าวเสี่ยหนุ่มอายุยังน้อย อดีตสามีเจ้มหาเศรษฐีที่ถูกสลากกินแบ่งรัฐบาล มูลค่า 90 ล้าน เสียชีวิตแล้วด้วยโรคไวรัสตับอักเสบบี
แม้จะเขียนบทความเรื่อง "เมื่อความตายกลายเป็นเรื่องคุ้นชิน"...แต่พอได้ดู ได้ฟัง ได้รับรู้ เรื่องราวเกี่ยวกับความตาย แม้จะคุ้นชิน แต่ก็อดนึกสังเวชใจไม่ได้ว่า กรรม อันหมายถึง การกระทำอันใดหนอ ที่ทำให้คนเรามาตายในรูปแบบที่แตกต่างกันไป
ความตายเป็นสิ่งเที่ยงแท้แน่นอน ดังพุทธองค์ตรัสไว้
ไม่เลือกเพศ ผิวพรรณ ชนชั้น รวย จน ดี เลว...เหมือนดังที่เคยเขียนไว้ในบทความก่อน อิชั้นย้ำเตือนตัวเองอยู่เสมอ เพื่อจะได้ไม่ตั้งอยู่ในความประมาท
1
อิชั้นอยากจะเล่าประสบการณ์ตรง เกี่ยวกับความตาย ให้ฟัง...
เรื่องนี้เหมาะกับทุกเพศทุกวัย (ที่เริ่มอ่านหนังสือได้แล้ว) และโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน...555...แต่ก็เป็นเรื่องจริงที่เคยเกิดกับตัวเองค่ะ
ขออนุญาตแทนสรรพนามในเรื่องนี้ว่า "ฉัน" แทน
"อิชั้น" ในบทความนี้ เพื่อให้เหมาะสมกับวัย ณ ขณะนั้น...คริคริ...ตอนนี้เป็นสาวใหญ่แล้วเลยใช้ "อิชั้น"
ย้อนไปเมื่อ 20 กว่าปีก่อน...ย้อนไปยาวเลยค่ะ...ตอนฉันเรียนจบใหม่ๆอายุเพียง 20 ปี เข้าสอบ ก.พ.ได้และบรรจุเป็นข้าราชการ ไปทำงานต่างจังหวัด ที่โรงพยาบาลชุมชน ในอำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี ทั้งๆที่เป็นลูกสาวคนเดียว แม่ร้องไห้ฟูมฟาย แต่พ่อกลับให้กำลังใจ และบอกกับแม่ว่าลูกตัองเติบโตและเรียนรู้โลกกว้าง
ไม่ใช่แต่แม่เท่านั้นที่เป็นห่วง เพื่อนๆต่างก็คัดค้าน แต่สาวน้อยน่ารัก แก่นเปรี้ยว เซี้ยวซน อย่างฉัน มีหรือจะกลัว แต่จริงๆความคิดในตอนนั้น...คิดว่าพ่อกับแม่อายุมากแล้ว การสอบเข้ารับราชการได้ ไม่ใช่เรื่องง่าย อีกทั้งความคิดที่ฝังหัวว่า อาชีพรับราชการเป็นอาชีพที่มั่นคง จึงตัดสินใจลงใต้ โดยมีพ่อไปส่ง
พ่อฝากฝังฉันไว้กับผู้อำนวยการโรงพยาบาล สูงขาวสมาร์ท...555...ดวงชะตาถูกกะหมอขาวๆสูงๆเสียจริง แต่ท่านมีภรรยาเป็นคุณหมอด้วยกันแล้วค่ะ แต่ที่นับเป็นโชค คือ คุณหมอผู้อำนวยการและคุณหมอภรรยาเป็นคนกรุงเทพฯ เหมือนกันกับฉัน
ถ้ามีโอากาส และขยันๆจะมาเล่าเรื่องราวคราวอยู่ใต้ให้ฟังนะคะ แต่วันนี้ตั้งใจจะเล่าเรื่อง เฉียดตาย ให้ฟังก่อนค่ะ
ในปีที่ 2 ของการทำงาน ฉันป่วยเป็นโรคไทฟอยด์ (Enteric fever) เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย
ซึ่งอาการของผู้ป่วยจะมีไข้ และปวดท้อง เป็นหลัก ความสำคัญ คือ ถ้าไม่ได้รับการวินิจฉัย และไม่ได้ยาปฏิชีวนะ สำหรับรักษา จะมีโอกาสเสียชีวิตได้
ฉันโชคดีที่คุณหมอผู้อำนวยการท่านเก่งมาก ท่านวินิจฉัยโรคของฉันอย่างถูกต้อง รวดเร็ว และให้ยาปฏิชีวนะในการรักษา
แต่อนิจจาในความโชคดี กลับมีความโชคร้ายตามมาด้วย ฉันแพ้ยาปฏิชีวนะที่รักษา มีอาการผื่นแพ้ที่ผิวหนัง ลุกลามและเพิ่มจำนวนขึ้น ผิวหนังชั้นนอกหลุดลอก เห็นด้านในลักษณะคล้ายผิวใหม้ ภายหลังจึงได้รู้ว่า ฉันแพ้ยาที่จัดว่าเป็นการแพ้ยาแบบที่อยู่ในกลุ่มสตีเว่นส์จอห์นสัน(Stevens-Johnson Syndrom) ที่เมื่อแพ้จะมีอาการรุนแรง...อย่าเพิ่งมึนกับศัพท์แสงทางวิชาการแพทย์เลยนะคะ...
1
ฉันถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ที่หาดใหญ่โดยด่วน และถูกนำตัวเข้าห้องไอซียู อยู่ในนั้นซะ 5 วัน
ใน 5 วัน 5 คืน นั้น ฉันไม่รู้เป็นกลางวันหรือกลางคืน ฉันฝัน...ฝันที่เหมือนจริงมาก...ฉันฝันเห็นเหมือนผู้ทรงศีล นุ่งขาวห่มขาว เหมือนชีปะขาว ที่เคยเห็นรูปในหนังสือ มากล่าวเชิญชวนให้ไปอยู่ด้วย แล้วชี้ให้เห็นทางเดินแสนงดงามที่อยู่ไม่ไกลจากที่ชายชรายืนอยู่
ภาพจาก Pinterest
ขอบคุณภาพจาก allposters.com
ฉัน...ก้าวตามชายชราชุดขาวที่หน้าตาเปี่ยมไปด้วยเมตตาผู้นั้นไป จนเห็นทางเดินที่สองข้างทางเต็มไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ มันจะทอดยาวไปถึง ณ ที่แห่งใดนะ..
ทันใดนั้น...ฉันได้ยินเสียงเรียกปนสะอื้น ดังขึ้นเบื้องหลัง... "เหน่ง...กลับมาหาแม่...อย่าไป"...เสียงกล่าวซ้ำๆอยู่หลายครั้ง...เสียงคุ้นหูจัง...เสียงคล้ายแม่
ฉันลังเล...แต่ชายชราท่าทางใจดีคนนั้น ก็ยังเชิญชวนด้วยเสียงอ่อนนุ่ม..."ไปกับฉันเถอะแม่หนู"...พร้อมกับยื่นมือมาหา "ที่สุดปลายทางนี้ แม่หนูจะได้เจออุทยานแสนสวย มีเหล่าเทพธิดา รอต้อนรับแม่หนูอยู่นะ"
"อย่าไปเหน่ง อยู่กับแม่"...ในฝันนั้นเสียงแม่แน่แล้ว...ชัดเจนเหลือเกิน...คราวนี้...ฉันตัดสินใจ...หันหลังกลับ วิ่งไปตามหาเสียงของแม่ แม่รออยู่ตรงข้ามกับชายชราในชุดขาวไกลออกไป ฉันออกวิ่งโดยที่ชายผู้นั้นก็มิได้ตามมา ฉันโผเข้าหาอ้อมกอดของแม่...
ภาพจาก Pinterest
พอออกจากห้องไอซียู มาอยู่ห้องพิเศษ ภาพจำแรกของฉัน เมื่อลืมตาตื่นฟื้นจากพิษไข้ คือ "หน้าของแม่" ที่ถึงแม้จะอิดโรย แต่ก็ยิ้มและหัวเราะออกมาอย่างยินดี พ่อลุกขึ้นมาโอบแม่พร้อมกับกุมมือแม่ที่กุมมือฉันไว้อีกที
พ่อกับแม่ผลัดกันเล่าว่า ได้รับโทรเลขจากพี่แป๋ว หัวหน้าพยาบาล โรงพยาบาลที่ฉันปฏิบัติงานอยู่ ตอนนี้พี่แป๋วเกษียณฯไปหลายปีแล้ว แต่ยังคงติดต่อกันเสมอมา รักและเคารพพี่คนนี้มาก
...ตอนนั้นที่บ้านยังไม่มีโทรศัพท์นะคะ หลังจากได้รับโทรเลข พ่อกับแม่ก็รีบหาตั๋วนั่งรถทัวร์มาร่วม 12 ชั่วโมง โรงแรมมีแต่ไกลโรงพยาบาล จึงขอพักวัด
โคกนาว ที่อยู่ใกล้โรงพยาบาลและทำบุญบริจาคค่าน้ำค่าไฟให้ทางวัด
มาถึงโรงพยาบาลก็พอดีกับที่ฉันได้เข้า ICU ไปได้ 1 คืนแล้ว...
แม่บอกสวดมนต์กับพ่อทุกวัน ช่วงฉันอยู่ในไอซียู ได้รับอนุญาตให้เข้าเยี่ยมเป็นเวลา แม่บอก "หนูเหมือนคนนอนหลับไปเฉยๆ" แต่วันที่สามมีอาการเพ้อเหมือนเรียกให้ใครรอด้วย แม่เลยคอยเรียกหนูอยู่ตลอดเวลา
1
ฉันเล่าความฝันให้แม่ฟัง พอฟังจบแม่ถึงกับยกมือไหว้เจ้าที่เจ้าทางไปตามความเชื่อของท่าน
เมื่อหายดีกลับมาทำงาน ก็กินเวลาเกือบเดือน ผิวหนังยุบ แต่เป็นรอยดำๆ คุณหมอบอกห้ามคุ้ย แคะ แกะ เกา ไม่งั้นจะเป็นรอยแผลเป็น
ได้ซึ้งน้ำใจของคนใต้อย่างมากมาย แล้วค่อยเล่าวันหลังนะคะ เดี๋ยวจะจบกันไม่ลง...คริคริ...😊
สำหรับฉันแล้ว เมื่อหวนระลึกถึงเรื่องนี้เมื่อไหร่ ทำให้คิดได้ว่า ความตาย มาถึงเราได้หลายรูปแบบ มาแบบปุ๊บปั๊บไม่ทันตั้งตัว มาแบบคลืบคลานช้าๆทรมานด้วยอาการป่วยเป็นเดือน เป็นปี มาแบบละมุนละไมอ่อนโยน...แต่ไม่ว่าเป็นความตายแบบไหน...ความตายยังคงเป็นมิตรแท้ เป็นเพื่อนที่ดีของเราเสมอ เมื่อถึงเวลาความตายจะมายืนอยู่เคียงคู่เราแลท่านแน่นอน ความตายเป็นนิรันดร์อยู่คู่มนุษย์ไปตลอดกาล...
2
อย่าตั้งอยู่ในความประมาท ก่อนตายทำความดีอะไรไว้บ้าง ไม่ตัองทำดีแบบใหญ่โตมโหฬาร อะไรหรอกค่ะ
1
เริ่มต้นที่ คนที่พ่อ แม่ ยังอยู่ ได้ทำหน้าที่เป็นลูกกตัญญูหรือยัง คนที่เป็นพ่อคน แม่คน แล้วได้อบรมลูก ให้เป็นกุลบุตร กุลธิดา หรือไม่ ถ้าพอมีกำลังทั้งฐานะ เงินทอง ได้ให้อะไรดีๆกับสังคมที่คุณอยู่ร่วมไหม ใหญ่ขึ้นมาอีกได้ตอบแทนพระคุณแผ่นดินเกิดหรือยัง
2
อ้าวๆ ! ชักไปกันใหญ่เพิ่งบอกไปว่าไม่ต้องทำใหญ่โตมโหฬาร...นี่ชวนทำดีระดับชาติซะแล้ว งั้นอิชั้นจบแค่นี้นะ...เจ้าคะ...หลับฝันดี...ราตรีสวัสดิ์...คร้า
โฆษณา