22 พ.ย. 2020 เวลา 05:37 • การเมือง
ปอมเปโอไปโกลันและเวสต์แบงก์ทำไม?
โดย
นิติภูมิธณัฐ
มิ่งรุจิราลัย
https://english.alaraby.co.uk/english/news/2020/11/19/pompeo-says-will-make-unprecedented-visit-to-israeli-occupied-golan
เสาร์ 28 พฤศจิกายน 2563 เวลา 15.00-20.00 น. นักเปียโนรัสเซีย นักร้องจากรัสเซียและจีน นักข่าวอาวุโสชาวรัสเซียจะพูดถึงโอกาสการค้าและการศึกษาในรัสเซีย ผมจะเล่าชีวิตในรัสเซียเมื่อเกือบ 30 ปีที่แล้ว ที่ร้านครัวที่ 2 หมู่บ้านสัมมากร ซอยรามคำแหง 112 กรุงเทพฯ ค่าบัตร 1,000 บาทต่อท่าน (ไม่รวมค่าอาหาร ใครทานก็จ่ายกับร้านเองครับ) ค่าบัตรทุกใบไม่หักค่าใช้จ่ายใช้เป็นค่ารักษาสัตว์จรจัดเจ็บป่วยพิการที่กำลังผ่าตัดอยู่ในโรงพยาบาลสัตว์ ติดต่อไลน์ไอดี @ntp59 หรือโทร. 080-559-2426
แม้ว่าใกล้จะหมดวาระ แต่ทรัมป์และรัฐมนตรีหลายคนก็ทำเรื่องที่ไม่ควร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นายไมค์ ปอมเปโอ ผู้เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐคนแรกที่เดินทางไปเยือนที่ราบสูงโกลันในภูมิภาคตะวันออกกลาง
1
กลับมาแล้วก็มีเสียงจากโลกอิสลามด่ากันอื้ออึงตึงตัง ถือว่าแกทำเรื่องท้าทาย ยั่วยุ อย่างที่ไม่เคยมีใครกล้าทำมาก่อน
www.timeofisrael.com
นายปอมเปโอยังไปเจอนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูของอิสราเอล นายเนทันยาฮูขอบคุณรัฐบาลทรัมป์ที่รับรองสถานะของเยรูซาเล็มให้เป็นเมืองหลวงของอิสราเอลอย่างเป็นทางการ และสหรัฐเป็นประเทศแรกที่ย้ายสถานเอกอัครราชทูตของตนจากเทลอาวีฟไปยังเยรูซาเล็ม
1
แผลเป็นที่ทรัมป์ทำไว้เมื่อเดือนมีนาคม 2562 คือการที่แกออกประกาศยอมรับว่าอธิปไตยทั้งหมดบนที่ราบสูงโกลันเป็นของอิสราเอลแต่เพียงประเทศเดียว
ซึ่งเรื่องนี้ฝ่ายอาหรับไม่ยอม เพราะมติหมายเลข 242 ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2510 อ้างตามกฎบัตรมาตรา 6 ของสหประชาชาติให้ที่ราบสูงโกลันเป็นพื้นที่สันติภายใต้การดูแลของกองกำลังรักษาสันติภาพแห่งสหประชาชาติ และห้ามการอ้างกรรมสิทธิเหนือดินแดนแห่งนี้ เพื่อไม่ให้กระทบต่อสันติภาพในภูมิภาคตะวันออกกลาง
ปอมเปโอเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศที่มีมาตรฐานต่ำที่สุดในโลกที่ผมเคยได้ยินได้ฟังมา ไม่ยอมรับกติกาสากลใดๆ  ทำเอาตามใจของทรัมป์และของตนเองเพียงอย่างเดียว
ไปที่ราบสูงโกลันยังไม่พอ ศุกร์ 20 พฤศจิกายน 2563 ปอมเปโอยังไปเขตเวสต์แบงก์อีก และก็เป็นรัฐมนตรีสหรัฐคนแรกที่ไปปรากฏตัวในเวสต์แบงก์ซึ่งอยู่ภายใต้การยึดครองของอิสราเอล
เวสต์แบงก์เป็นดินแดนที่ตั้งอยู่บนฝั่งด้านตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดน มีชื่อเรียกมาตั้งแต่โบราณว่ายูเดียและซามาเรีย หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 และก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 เวสต์แบงก์เป็นส่วนหนึ่งของดินแดนในอาณัติของอังกฤษตามข้อกำหนดของสหประชาชาติ และเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนตะวันออกกลาง โดยมหาอำนาจตะวันตกได้ตกลงกันว่าจะมีการตั้งประเทศเอกราชใหม่ขึ้นมาประเทศหนึ่ง ที่มีทั้งชาวยิวและชาวปาเลสไตน์อยู่ร่วมกัน
แต่พอชาวยิวตั้งรัฐอิสราเอลเมื่อ พ.ศ.2491 ก็ได้แสดงอาการรังเกียจเดียดฉันท์และต่อต้านการที่จะให้ชาวปาเลสไตน์มาอยู่ร่วมประเทศกับตัวเอง หลังจากนั้นคนยิวจึงบังคับซื้อที่ดินจากชาวปาเลสไตน์ (เพราะชาวปาเลสไตน์อยู่ในแผ่นดินนี้มาดั้งเดิมก่อนจะตั้งประเทศอิสราเอล) ยิวบางกลุ่มก็มีการกระทำรุนแรงไล่ชาวปาเลสไตน์ออกจากอิสราเอลประเทศที่ตัวเองเพิ่งตั้ง
การที่กลุ่มรัฐอาหรับต่อต้านการตั้งรัฐอิสราเอล และไม่ชอบที่คนยิวไล่ชาวปาเลสไตน์ออกจากแผ่นดิน ทำให้เกิดสงคราม ดินแดนเวสต์แบงก์จึงถูกแยกออกจากอิสราเอล และถูกประกาศให้เป็นส่วนหนึ่งของประเทศจอร์แดนเมื่อ พ.ศ.2493
ประชากรส่วนใหญ่ในเวสต์แบงก์เป็นชาวปาเลสไตน์ ทั้งที่ตามกฎหมายจอร์แดนมีกรรมสิทธิเหนือเวสต์แบงก์ แต่อิสราเอลก็ทำสงคราม พ.ศ.2510 และตีเอาเวสต์แบงก์กลับคืนมา
ถ้าจะให้ถูกต้องยุติธรรม สหรัฐควรจะส่งเสริมให้ปาเลสไตน์ได้ตั้งรัฐอธิปไตยของตนเองอย่างมั่นคง ยิวก็ได้ตั้งประเทศอิสราเอลของตนเองแล้ว แผ่นดินนี้ก็ควรจะแบ่งให้เป็นประเทศปาเลสไตน์ เวสต์แบงก์มีคนปาเลสไตน์ 2.7 ล้านคน รัฐบาลอิสราเอลพยายามส่งคนยิวเข้าไปลงหลักปักฐานแต่ก็มีประชากรยิวในเวสต์แบงก์ไม่ถึง 4 แสน
โลกไม่สงบสุขก็เพราะคนอย่างทรัมป์และปอมเปโอนี่ละครับ.
1
โฆษณา