ก่อนตัดสินใจทำน้ำหมักเอนไซม์ด้วยตนเอง
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผู้เขียนได้ให้ความสนใจเกี่ยวกับยาอายุวัฒนะตัวหนึ่ง คือ กล้วยน้ำว้าดองน้ำผึ้ง ซึ่งก็มีข้อปลีกย่อยในการดองที่แตกต่างกันบ้างเล็กน้อย ผู้เขียนเลือกการดองแบบหั่นกล้วยสุกเป็นแว่นๆ ใช้ขวดแก้วแบบมีตัวล็อกฝาและซีนยาง ระยะเวลา 3 เดือน ในช่วงแรกๆต้องหมั่นดูแลอย่าให้เกิดราดำ ถ้าเกิดมีราดำต้องรีบตักออก ครบ 3 เดือน กรองเอาแต่น้ำใส่ขวดแช่เย็นไว้ดื่ม 1 ช้อนโต๊ะก่อนนอน รสชาดหวานอมเปรี้ยว
ต่อมาภายหลังเห็นว่าสูตรการดองกล้วยน้ำว้าเดิม มีรสหวานมากเพราะใช้น้ำผึ้งท่วมกล้วย จึงเกิดความคิดใหม่ว่า ควรลดปริมาณน้ำผึ้งลงเหลือ 2 ใน 3 ของกล้วยในขวดโหล ซึ่งก็ช่วยให้มีความหวานน้อยลง
ถัดมาอีกระยะหนึ่ง ได้ทดลองดองผลไม้อื่นเพิ่มเติมอีกหลายอย่าง เช่น หมากเม่า พิลังกาสา สับปะรด กระท้อน มะขามป้อม มะนาวโห่ ฯ
พิลังกาสา
สับปะรด
กระท้อน
มะขามป้อม
มะนาวโห่
ผลการทดลองในผลไม้ต่างๆข้างต้น พบว่า มีผลไม้ที่ดองแล้วรสชาดดีที่สุด คือ
1. มะขามป้อม
2. กล้วยน้ำว้า
3. มะนาวโห่
4. หมากเม่า หรือมะเม่า
5. พิลังกาสา
6. กระท้อน
7. สับปะรด
จากผลของการได้ดื่มน้ำผลไม้ดองน้ำผึ้งในหลายปีที่ผ่านมามีข้อที่น่าสนใจ สรุปได้ คือ
1. การดองผลไม้ด้วยน้ำผึ้งมีความใกล้เคียงกับการหมักน้ำเอนไซม์จากผลไม้ ต่างกันเพียงส่วนผสมเท่านั้น (การดองน้ำผึ้ง = ผลไม้+น้ำผึ้ง.....การหมักน้ำเอนไซม์ = ผลไม้+น้ำผึ้ง+น้ำ)
2. แม้จะพิสูจน์ได้ไม่ชัดเจนในทางวิทยาศาสตร์ แต่ครอบครัวของผู้เขียนมีความเห็นตรงกันว่า ช่วยให้ร่างกายสดชื่น ทำอะไรไม่เหนื่อยง่าย
3. นอกจากการดื่มน้ำมะนาวโห่แล้ว ครอบครัวของผู้เขียนยังรับประทานผลมะนาวโห่สดๆ ช่วงที่มะนาวโห่มีผล วันละ 3-5 ผล ซึ่งทำให้พวกเรา 3 คนไม่เป็นหวัดต่อเนื่องกันมาหลายปีมาก
สีของมะนาวโห่แดงม่วง..แสดงว่าแก่กำลังดี รับประทานผลสดตอนนี้ดีที่สุด
การจะมีสุขภาพที่ดีไม่จำเป็นต้องซื้อหาเพียงอย่างเดียว หากสามารถทำได้ด้วยตนเองบ้าง ก็อาจพบกับสิ่งที่เกินความคาดหมาย และสิ่งนั้นจะเป็นพลังแห่งความสุขที่แท้จริง พบกันอีกในครั้งต่อๆไปนะครับ...สวัสดี
Cr. ภาพบางภาพจาก InTernet
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
