ไม่ง่ายเลย!! กว่าจะได้น้ำหมักเอนไซม์ผลไม้และสมุนไพรที่พร้อมดื่ม..ต้องใช้เวลานานเป็นปีๆ รีบทำไว้เสียแต่วันนี้เลยครับ
การทำน้ำหมักเอนไซม์ผลไม้และสมุนไพร
สำหรับกระบวนการทำน้ำหมักเอนไซม์ผลไม้และสมุนไพรนี้ จะขอนำเอาประสบการณ์ที่ได้ปฏิบัติจริงในแต่ละขั้นตอน ตลอดจนเคล็ดลับที่ประยุกต์ใช้ต่างๆ ทำให้ประสบผลสำเร็จในระดับหนึ่ง ซึ่งยังต้องเรียนรู้และปฏิบัติกันต่อไปอีก กระบวนการทำน้ำหมักเอนไซม์ผลไม้และสมุนไพร แบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอนด้วยกัน ดังนี้
1. การทำหัวเชื้อน้ำเอนไซม์ 1 ปี (Enzyme)
1.1 การหมักผลไม้หรือสมุนไพร 3 ส่วน + น้ำผึ้ง 1 ส่วน + น้ำ 10 ส่วน หมักไว้เป็นเวลา 3 เดือน จะได้น้ำใส 3 เดือน (Ionic plasma) ขั้นตอนนี้ จะมีภาระงานมากหน่อย ต้องเตรียมวัสดุอุปกรณ์ให้พร้อม ได้แก่
- ผลไม้แก่/สุก ต้องล้างให้สะอาดมากที่สุด ก่อนหั่นเป็นชิ้นๆไม่ปอกเปลือก
- น้ำผึ้ง เป็นน้ำผึ้งป่าหรือน้ำผึ้งฟาร์ม
- น้ำสะอาด ควรเป็นน้ำบรรจุขวด/ถัง
- มีดหั่น ไม้คน ป้ายระบุ
ผู้เขียนใช้ขวดน้ำดื่มขนาด 6 ลิตร (เทน้ำออก) แบ่งขวดออกเป็น 10 ส่วนตามแนวตั้ง ใส่น้ำผึ้งลงในส่วนที่ 1 เติมน้ำเล็กน้อย(แค่ส่วนที่ 2) เขย่าให้พอเข้ากัน ใส่ผลไม้ลงไปจนเต็มส่วนที่ 3 แล้วเติมน้ำสะอาด(น้ำดื่ม) จนเต็มส่วนที่ 10....เป็นการประยุกต์ จะใช้น้ำสะอาดประมาณ 7-8 ส่วนเท่านั้น
ตัวอย่าง..กระเทียม
ตัวอย่าง...สมอพิเภก
1.2 ดูดเอาน้ำใส 3 เดือนออกมาขยายต่ออีก 3 เดือน ในอัตราส่วน น้ำใส 3 เดือน 1 ส่วน + น้ำผึ้ง 1 ส่วน + น้ำสะอาด 10 ส่วน จะได้น้ำใส 6 เดือน
แบ่งขวดเป็น 10 ส่วน... 1 = น้ำใส , 2 = น้ำผึ้ง , น้ำสะอาดอีก 8 ส่วน = 10
สายยางสำหรับดูดแบบกาลักน้ำ.สั่งซื้อทาง net (ใช้แล้วต้องล้างทำความสะอาดทุกครั้ง)
ตัวอย่าง..กระชายดำ ดูดเอาน้ำใส 3 เดือนมาขยายต่อ...ส่วนขวดกระชายดำเก่าให้นำไปหมักต่อได้อีก (เติมน้ำผึ้ง+น้ำสะอาด เริ่มกระบวนการทำใหม่)
1.3 ดูดเอาน้ำใส 6 เดือนออกมาขยายต่ออีก 3 เดือน ในอัตราส่วน น้ำใส 3 เดือน 1 ส่วน + น้ำผึ้ง 1 ส่วน + น้ำสะอาด 10 ส่วน จะได้น้ำใส 9 เดือน (ขวดที่นำมาขยายต่อควรใช้ขวดใหม่จะมั่นใจมากกว่าเรื่องความสะอาด)
ตัวอย่าง..มะนาวโห่ ดูดเอาน้ำใส 6 เดือนมาขยายต่อ และครบ 9 เดือน ใช้การเติมน้ำผึ้งหมักต่อไปให้ได้ 1 ปี
1.4 ดูดเอาน้ำใส 9 เดือนออกมาขยายต่ออีก 3 เดือน ในอัตราส่วน น้ำใส 3 เดือน 1 ส่วน + น้ำผึ้ง 1 ส่วน + น้ำสะอาด 10 ส่วน จะได้หัวเชื้อน้ำเอนไซม์ 12 เดือน หรือ 1 ปี (ขวดที่นำมาขยายต่อควรใช้ขวดใหม่จะมั่นใจมากกว่าเรื่องความสะอาด)
ตัวอย่าง..ลูกยอ ครบ 9 เดือน ไม่ดูดน้ำใส ใช้การเติมน้ำผึ้งหมักต่อไปให้ได้ 1 ปี
ข้อสังเกตุ!! ช่วงที่สำคัญที่สุด คือ ช่วง 3 เดือนแรก เพื่อให้ได้น้ำใสที่มีคุณภาพ ในช่วงสัปดาห์ที่ 1-3 ต้องเอาใจใส่ เปิดฝาระบายแก๊ส ดมกลิ่น ดูความผิดปกติ เช่น มีเชื้อราดำหรือไม่ หลังจาก 3 เดือนแล้ว จะดูแลง่ายขึ้นตามลำดับ ขวดที่นำมาขยายควรเป็นขวดใหม่เสมอ
1.2 การขยายน้ำหมักเอนไซม์ผลไม้และสมุนไพร
เมื่อได้หัวเชื้อน้ำหมักเอนไซม์ผลไม้และสมุนไพร อายุ 1 ปี แต่ละชนิดแล้ว ผู้เขียนจะทำ 2 อย่าง คือ
1) ขยายน้ำหมักเอนไซม์ผลไม้และสมุนไพรแบบปกติ วิธีการหมัก ก็คือ ดูดหัวเชื้อน้ำเอนไซม์แต่ละชนิด ออกจากถังหมัก/ถังแม่ ใส่ถังขยาย จำนวน 3 ลิตร เติมน้ำผึ้งลงไป 1 ลิตร(1 ขวดใหญ่) และเติมน้ำดื่มสะอาดลงไปอีก 7 ลิตร จะได้ความจุที่ 11 ลิตร เพื่อให้มีความเข้มข้นมากขึ้น พร้อมติดป้ายบอกอายุ
ตัวอย่าง..ถังขยายขนาด 12 ลิตร (หัวเชื้อ 3 ลิตร + น้ำผึ้ง 1 ลิตร + น้ำ 7 ลิตร)
ซึ่งน้ำดื่มสะอาดนี้ ดร.รสสุคนธ์ พุ่มพันธุ์วงศ์ ชี้แนะว่า " สามารถเลือกใช้ น้ำแร่ น้ำพลังแม่เหล็ก หรือน้ำอื่น ๆ ที่ช่วยเพิ่มคุณค่าของ น้ำหมักเอนไซม์ ตามความต้องการของผู้ผลิต หมักนานต่อไปอีก 6 เดือน หรือ 1 ปี หรือตามชอบ โดยก็จะนับอายุของเอนไซม์ที่ได้ต่อไปเรื่อย ๆ เริ่มต้นที่เอนไซม์อายุการหมัก 1 ปี "
2) ขยายน้ำหมักเอนไซม์ผลไม้และสมุนไพรแบบครอบจักรวาล วิธีการหมัก คือ ดูดหัวเชื้อน้ำเอนไซม์ออกจากถังหมัก/ถังแม่ หลายๆชนิดมาผสมรวมกันในถังขยาย ในปริมาณเท่าๆกันให้ได้ 3 ลิตร เติมน้ำผึ้ง 1 ลิตร และน้ำสะอาด 7 ลิตร จะได้ความจุ 11 ลิตร เช่นเดียวกันกับแบบปกติ แล้วหมักต่อไปอีก 6 เดือน หรือ 1 ปี พร้อมติดป้ายบอกอายุ
เคล็ดลับของน้ำหมักเอนไซม์ผลไม้และสมุนไพรเพื่อการบริโภค
สำหรับเคล็ดลับของการทำน้ำหมักเอนไซม์ผลไม้และสมุนไพรเพื่อการบริโภคนี้ ต้องให้เครดิตโดยตรงกับ ดร.รสสุคนธ์ พุ่มพันธุ์วงศ์ ที่ได้เขียนบอกไว้เพื่อให้ทุกคนที่สนใจอยากทำน้ำหมักเอนไซม์ผลไม้และสมุนไพรด้วยตนเอง เกิดความตระหนักในบางขั้นตอนที่สำคัญ ซึ่งผู้เขียนได้เรียบเรียงแบบย่อความให้อ่านเข้าใจได้ง่าย ดังนี้
1. การทำน้ำหมักเอนไซม์ผลไม้และสมุนไพร ประกอบด้วยผลไม้หรือสมุนไพร 1 ชนิด + น้ำผึ้งป่า หรือน้ำผึ้งฟาร์ม + น้ำดื่มสะอาด (ตามอัตรส่วน) ใช้เวลาหมัก 3 เดือน - 1 ปี จะได้น้ำใสในถังหัวเชื้อหรือถังแม่ แล้วดูดน้ำใสไปขยายต่อในถังหมักขยายต่อ
เพื่อการบริโภค ใช้อัตราส่วน หัวเชื้อ 1 ปี 3 ส่วน + น้ำผึ้ง 1 ส่วน + น้ำสะอาด 5-10ส่วน ระยะเวลาตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป
2. ในช่วงแรกๆ ต้องดูแลว่า มีเชื้อราเกิดขึ้นหรือไม่ ถ้าเป็นเชื้อราดีขาว ให้กลับด้าน พลิกให้ด้านราจมลงในน้ำหมัก หากเป็นราดำให้ตักออกทิ้ง ดมดูกลิ่น ว่ามีกลิ่นหอม หรือเหม็นเน่า ถ้าเหม็นเน่าแสดงว่า มีการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ หรือปริมาณน้ำผึ้งที่เติมไว้ไม่เพียงพอ ให้เติมน้ำผึ้งลงไปอีกครึ่งขวด แล้วหมักต่อไป จนกว่ากลิ่นเหม็นจะกลายเป็นกลิ่นหอมเปรี้ยว ๆ ของน้ำหมัก
3. น้ำใส 3 เดือนบริโภคได้ แต่หากน้ำหมักมีอายุน้อย ๆ มีรสเปรี้ยวจัด อาจเสี่ยงต่อการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ สารปนเปื้อนที่เกิดในการหมัก และแอลกอฮอล์ที่เกิดขึ้น ดังนั้น การหมักขยายให้ได้ 1 ปีขึ้น จะช่วยในการลดความเสี่ยงเหล่านี้ได้ ตลอดจนได้ น้ำเอนไซม์ที่มีคุณภาพ มีความปลอดภัยในการบริโภค
4. การหมักเอนไซม์เพื่อการบริโภค โดยใช้น้ำผึ้งดีที่สุด เพราะในน้ำผึ้งมีสารอาหาร ฮอร์โมน และเอนไซม์ที่จำเป็นต่อร่างกายหลายชนิด ทำให้น้ำหมักเอนไซม์ที่ได้มีคุณค่าทางอาหารสูง ช่วยในการฟื้นฟูสุขภาพ อีกทั้งการหมักด้วยน้ำตาล จะก่อให้เกิดปริมาณของแอลกอฮอล์ประเภทเมทิลแอลกอฮอล์ที่เป็นอันตรายต่อ ตา ตับ และไต แต่หากจำเป็นต้องหมักถังแม่ที่ใช้น้ำตาล จำเป็นอย่างยิ่งต้องนำมาหมักขยายเพื่อการบริโภคด้วยน้ำผึ้งอย่างน้อย 3 รอบ โดยอาจใช้ระยะเวลาในการหมักขยายสั้น ๆ 3 - 6 เดือน ต่อรอบ เพื่อสลายสารพิษที่เกิดจากการ.
Cr. ดร.รสสุคนธ์ พุ่มพันธุ์วงศ์
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
