25 พ.ย. 2020 เวลา 15:34 • การศึกษา
เด็กจบใหม่.. ควรจะรู้อะไรบ้างเมื่อเข้าสู่โลกแห่งการทำงาน
ก่อนอื่นผมขอบอกว่า ผมเป็นคนนึงที่เคยผ่านคำว่า "เด็กจบใหม่" มาเหมือนกัน
หลายๆคนที่เรียนจบมาใหม่ๆ ส่วนใหญ่มักจะตั้งคำถามตัวเองเสมอ
ว่าเมื่อไหร่ จะได้งานทำ เห็นเพื่อนๆหลายๆคนมีงานทำ ได้งานทำกันแล้ว แล้วเราละ
ต้องมานอนเฉยๆ อยู่ที่บ้าน นั้นเหรอ
ผมก็เป็นเช่นนั้นนะ ตอนที่ผมจบมาใหม่ๆ รู้สึกเหมือนกับว่า
เห้ย! ไม่ต้องแหกขี้ตาตื่นไปเรียนแต่เช้าแล้วนะ
เห้ย! ไม่ต้องคอยถามเพื่อนแล้วนะว่าอาจารย์เช็คชื่อไหม
เห้ย! ไม่ต้องมาเครียดมากังวลแล้วนะ ว่าจะสอบยังไงให้ผ่าน ไม่ให้ติด F
แต่หารู้ไม่ว่า หลังจากนี้ ทุกอย่างมันจะดูเหมือนเคว้งไปหมด
จากที่เคยนัดเจอเพื่อนๆกันทุกวัน ทุกเย็น คงไม่มีแล้ว
เพราะเพื่อนๆเราก็ต่างไปหางานทำ ไปเจอสังคมใหม่กัน
ตอนที่ผมจบมาใหม่ๆ ผมมองเห็นเพื่อนๆได้งานทำกันแล้ว ส่วนผมก็ทิ้งประวัติไว้ใน
เว็ปไซต์จัดหางาน บางวันก็ไป Walk in ถึงที่บริษัท ผมใช้เวลา 2 เดือนเต็มๆในการ
ได้งานทำที่แรก ซึ่งมันเป็นงานที่ผมไป Walk in สมัครถึงที่บริษัทเลยทีเดียว
งานแรกที่ผมได้ทำ เป็นงานในบริษัทค่อนข้างใหญ่ คือระดับ มหาชน นะครับ
ตอนนั้นผมดีใจมาก เพราะผมตั้งใจมากในการที่จะอยากเข้าบริษัทแห่งนี้
ด้วยเรื่องของชื่อเสียง รายได้ การเติบโต แต่ก็ต้องแลกกับการทำงานไกลบ้าน
ต้องไปหาห้องเช่าอยู่ ผมตัดสินใจยอมเช่าหออยู่คนเดียว เพื่อให้ใกล้กับที่ทำงาน
แต่ก็นะ บริษัทใหญ่ ไม่ใช่ว่าจะดีเสมอไป
ช่วงที่ผมทำงานอยู่ที่นั่น ผมรู้สึกไม่โอเคเป็นอย่างมาก ผมโดนกดดันตลอด
ผมพยายามปรึกษาหัวหน้าเขาก็ไม่ยอมที่จะรับฟัง จนผมทำได้ 3 เดือน เลยตัดสินใจลาออกเลย แต่ ณ ตอนนั้นผมก็ได้งานใหม่แล้วนะครับ วันที่ผมแจ้งลาออก
(ผมแจ้งลาล่วงหน้าไว้ 1 เดือน) หลังจากนั้นผมรีบหางานใหม่ให้เร็วที่สุด ตอนนั้นคิดไว้ว่า ถ้าไม่ได้ภายใน 1 เดือนก็ไม่เป็นไร กลับมาอยู่บ้านก่อน ตอนนั้นผมรู้สึกว่า
ตัวผมอ่อนแอมาก ผมโดนคนในที่ทำงาน รวมทั้งหัวหน้าว่า เป็นเด็กจบใหม่ที่ไม่สู้กับงานเลย
ตอนนั้นคิดไว้ว่า ผมจะต้องออกจากที่นี่ให้ได้ เพราะมันไม่ใช่ที่ของผม
ผมอยากได้งานใหม่ ตอนนั้นเล็งเป้าหมายก็คือ เอาใกล้บ้านมาก่อน เงินน้อยกว่าไม่เป็นไร ก่อนวันที่ผมทำงานวันสุดท้าย 2 วัน โชคเข้าข้าง ผมได้งานทำใกล้บ้านผม
สามารถเดินทางไปกลับบ้านได้ ผมรู้สึกแฮปปี้กับงานใหม่มาก สังคมดีมากๆ
งานก็ช่วยกันทำ ผมทำมาจนถึงปัจจุบัน ได้ 2 ปีแล้วครับ
จากเด็กไม่สู้งานคนนึงสู่ความหวังในการเป็นหัวหน้าในอนาคตครับ
ในแต่ละปี มีเด็กจบใหม่เพื่อเข้าสู่ตลาดแรงงานมากมาย
แต่นั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้น เพราะชีวิตจริง คุณต้องเข้าไปสู่โลกในการทำงาน ที่ต้อง
แข่งขัน เรื่องศักยภาพ ความสามารถ การปรับตัว และอื่นๆอีกมากมาย
จากประสบกาณ์ 2 ปีในโลกของการทำงาน ผมจะมาแบ่งปันและแนะนำนะครับว่า
22 ข้อของเด็กจบใหม่ก่อนที่จะเข้าสู่โลกแห่งการทำงาน
ควรจะทำยังไงและรู้อะไรบ้าง มาดูกันแต่ละข้อเลยครับ
1. ถ้าบ้านของคุณ ไม่ได้ขัดสนเรื่องเงินแต่อย่างใด คุณควรไปพักผ่อนให้เต็มที่
ชาร์จพลังให้มากที่สุด ก่อนที่เริ่มหางาน เพราะวัยทำงาน ไม่เหมือนกับวัยเรียน
ที่ว่าวัยเรียน มีเวลาพักผ่อนในช่วงปิดเทอม แต่วัยทำงาน ไม่มีปิดเทอมนะครับ
2. ถ้าสาขาที่คุณจบ ต้องมีสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ หรือคุณอยากจะสอบวัดความรู้ทางภาษาอังกฤษ คุณควรไปสอบก่อน ไม่นั้นช่วงเวลาที่คุณทำงาน
คุณจะไม่ค่อยได้มีเวลาเตรียมตัว
3. ช่วงเวลาที่คนหางานกันมากที่สุด คือช่วง เมษายน ถึง มิถุนายน เพราะเป็นช่วงที่
เด็กจบใหม่ออกมาเป็นจำนวนมาก และช่วง ธันวาคม ถึง กุมภาพันธ์ เป็นช่วงที่คนจะ
ลาออกกันมาที่สุด เพราะเป็นช่วงที่บริษัทจะจ่ายเงินโบนัสให้พนักงาน
และบริษัทต้องเข้ามาแทนเป็นจำนวนมาก
4. เป็นเรื่องปกติที่บริษัทเขาจะอยากได้มีคนมีประสบการณ์มากกว่าเด็กจบใหม่
แต่ไม่ใช่ทุกที่เสมอไป บางบริษัท เขาก็อยากได้เด็กจบใหม่ไฟแรงที่ใจพร้อมอยาก
จะทำงานด้วยเช่นกัน
5. บริษัทเล็ก ไม่ใช่ว่าจะไม่ดี เช่นเดียวกัน บริษัทใหญ่ ไม่ใช่ว่าจะดีเสมอไป
ของพวกนี้ขึ้นอยู่กับวัฒนธรรมองค์กรล้วนๆ
6. ช่วงที่จบใหม่ ควรจะมองประสบการณ์ มากกว่าเงินเดือน เพราะเงินเดือน
จะขึ้นตามประสบการณ์ บริษัทเขาจะมีการตั้งเรทเงินเดือนสำหรับเด็กจบใหม่อยู่แล้ว
อย่าต่อรองเงินเดือนมากจนเกินไป แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะเลือกที่อื่นที่ดีกว่าไม่ได้
7. จากข้อ 6 ถ้าในใบสมัครให้กรอกเงินเดือนที่ต้องการ ให้คุณระบุไปว่า
ตามโครงสร้างบริษัท จะดีที่สุด
8. อย่าเลือกงานจนมากเกินไป ต่อให้คุณได้งานที่ไม่ตรงสายกับที่คุณเรียนมา ให้ถือว่า เป็นประสบการณ์
9. การที่คุณอยากจะรับราชการเพราะมันเป็นงานสบาย ทำแบบเช้าชามเย็นชามนั้น
คุณคิดผิด
10. ก่อนนัดสัมภาษณ์งาน คุณควรเตรียมตัวให้พร้อม ทั้งด้านเอกสาร
และเตรียมคำพูดที่จะตอบคำถามผู้สัมภาษณ์ให้ดีที่สุด (เดี๋ยวผมจะเขียนในบทความต่อไปนะครับกับคำถามยอดฮิตในการสัมภาษณ์งานและการตอบคำถามที่ดี)
11. ช่วงทดลองงาน หากไม่จำเป็น อย่าลางาน อย่ามาสายเด็ดขาด
เพราะมีผลต่อการประเมินคะแนนการผ่านการทดลองงาน
12. คนที่เขาเติบโตในหน้าที่การงาน ไม่ใช่เพราะเขาขยันทำงานเดิมๆ แต่เป็นเพราะ
เขารู้จักเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
13. เป็นเรื่องปกติที่คุณจะต้องเจอสังคมที่แปลกใหม่ ซึ่งไม่เหมือนกับสังคมในสมัยที่คุณเรียน สมัยเรียนนั้นคุณคบเพื่อนอายุเท่ากัน
ถ้าคุณมาทำงาน คุณจะคบเพื่อนที่เป็นรุ่นพี่ ไม่ก็รุ่นน้อง ถ้าอายุเขามากกว่าคุณ
ไม่มาก ถ้าคนๆนั้นไม่ถือมากเขาก็มองคุณเป็นเพื่อนได้
14. มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี คนที่ประสบความสำเร็จไม่ใช่มีแต่ความรู้เท่านั้น
แต่ต้องทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ดีด้วย บริษัทหลายแห่งคัดเลือกแต่คนเก่งๆ
เข้าไปทำงาน แต่เมื่อคนเก่งๆ อยู่ร่วมกันและไม่มีใครยอมเข้าหาใครก่อน
ก็จะเกิดบรรยากาศการทำงานแบบตัวใครตัวมัน กลายเป็นความแตกแยกในองค์กร
แต่หากคุณเป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี การทำงานร่วมกับผู้อื่นก็จะง่ายขึ้น
15. resume ควรมีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ แต่ถ้าคุณเรียนภาษาที่ 3 มาแล้วคุณต้องการจะสมัครงานโดยที่ต้องใช้ภาษาที่ 3 ควรจะมีภาษาที่ 3 ด้วย
16. รู้จักประหยัดอดออม
17. รับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด อย่าให้คนร่วมงานมาตามว่าทีหลัง
18. อย่าใช้อารมณ์ในการแก้ปัญหาเด็ดขาด ต่อให้คุณจะโมโหมากแค่ไหน
ควรใจเย็นและมีสติ เพราะถ้าคุณใช้อารมณ์ เพื่อนร่วมงานจะมองคุณในแง่ลบทันที
19. ทักษะสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญมาก ถ้าในตัวคุณ มี 100% ควรจะแบ่งเป็น ทำงานเก่ง 50% สื่อสารเก่ง 50%
20. การเปลี่ยนงานบ่อย ไม่ใช่ว่าจะดี ยิ่งเปลี่ยนมาก โอกาสหางานใหม่ในอนาคตก็
ยิ่งยาก
21. ถ้าคุณมีแฟน แล้วแฟนของคุณหรือคุณ ทำงานสายที่ต้องออกต่างจังหวัด
ต่างประเทศ แนะนำ อย่าเพิ่งรีบแต่งงาน เพราะมีผลต่อการหาทำงานนะครับ
ยกตัวอย่างเช่น มีนาย A และ นาย B เป็นเด็กจบใหม่มาสมัครตำแหน่ง
วิศวกรภาคสนาม 2 คนนี้เป็นคนกรุงเทพทั้งคู่ และจบใหม่ทั้งคู่ แต่บริษัทต้องการ
1ตำแหน่งให้ไปประจำอยู่ที่ไซต์งานที่ภูเก็ต นาย A แต่งงานแล้ว ส่วนนาย B โสด
แน่นอนว่าบริษัทจะรับนาย B มากกว่านาย A
22. ควรรู้จักการเข้าสังคม หลังเลิกงาน ถ้าเพื่อนร่วมงานชวนไปสังสรรค์ ควรมีบ้าง
เพื่อจะได้สนิทสนมกันมากขึ้น
จากที่กล่าวมานั้น แน่นอนครับว่า ควรเตรียมตัวให้พร้อมและแสดงความสามารถให้
เต็มที่ ทำให้ดีที่สุด ผมเชื่อนะครับว่าการเตรียมตัวที่ดีจะนำไปสู่ความสำเร็จได้อย่าง
แน่นอน
เป็นกำลังใจให้เด็กที่จบใหม่และคนที่กำลังจะหางานทำทุกคนครับ
สามารถอ่านบทความเพิ่มเติมของผมได้ที่นี่
ฝากติดตามและเป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ
โฆษณา