24 พ.ย. 2020 เวลา 06:18 • ข่าว
#15ปีของอังเกล่า_มาร์เคิล
#ผู้นำหญิงเหล็กแห่งเยอรมันที่แกร่งที่สุดในยุโรป
เดือนพฤศจิกายน ปีนี้ 2020 อังเกล่า มาร์เคิล จะอยู่ตำแหน่งผู้นำแห่งเยอรมันครบ 15 ปีพอดี และกำลังจะครบวาระสมัยที่ 4 ในปีหน้าแล้ว นับเป็นผู้นำหญิง ในโลกเสรีตะวันตก ที่อยู่ในตำแหน่งมานานมาก นานพอที่จะได้พบเจอกับประธานาธิบดีสหรัฐถึง 4 คน
การดำรงตำแหน่งได้นานถึงขนาดนี้ เป็นเรื่องที่เกินความคาดหมายของนักการเมืองเยอรมันหลายคน ที่เคยออกมาวิพากษ์วิจารณ์ตอนที่ อังเกลา มาร์เคิล เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งในปีแรกว่า คุณแม่ไม่น่าจะอยู่ได้นานเกินสมัย เพราะการเมืองเยอรมันมีความกดดันเกินกว่าผู้หญิงลุคเนิร์ดๆ ที่เติบโตมากับโลกสังคมนิยมในฝั่งเยอรมันตะวันออกจะเอาอยู่
แต่กลายเป็นว่า คุณแม่มาร์เคิล ก็ประกาศในโลกรู้ว่า "แม่ก็คือแม่" และสามารถรักษาคะแนนความนิยม และเสียงสนับสนุนในสภาเยอรมัน จนผ่านมาได้ถึง 4 สมัย อยู่ในช่วงสถานการณ์สำคัญมากมาย แต่ยังคงแข็งแกร่งชนิดที่ทำเอานักการเมือง อกสามศอกหลายคนยังต้องอายก็แล้วกัน
แต่ทั้งนี้ ก็มีข่าวว่าการดำรงตำแหน่งสมัยนี้ อาจจะเป็นสมัยสุดท้ายแล้ว คุณแม่มาร์เคิลก็จะได้ลาตำแหน่งประมุขแดนอินทรีเหล็กเสียที เพราะช่วงหลังๆก็เริ่มมีข่าวว่าคุณแม่ก็สุขภาพไม่ค่อยจะดี แต่ก็ยังมีกระแสข่าวว่า คุณแม่มาร์เคิลยังคิดถึงเรื่องการลงชิงตำแหน่งผู้นำสมัยหน้า ไม่ได้คิดจะลาเสียทีเดียว
อ้าวๆ มีลุ้นๆ ต่อจากนี้อีกหนึ่งปี ยังมีเวลาให้คุณแม่มาร์เคิลตัดสินใจ แต่วันนี้เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 15 ปีในการดำรงตำแหน่งผู้นำของ คุณแม่ อังเกล่า มาร์เคิล ก็จะขอถือโอกาสรวบรวมวาระพิเศษ ที่คุณแม่ได้มีส่วนร่วมในเหตุการณ์ที่น่าจดจำ จากวันแรก ถึงวันนี้ ว่าเยอรมัน ภายใต้การนำของผู้นำหญิงที่ได้รับการจัดอันดับว่าสุภาพสตรีที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกคนนี้กัน ว่าได้ผ่านเรื่องราวอะไรมาบ้าง
1
2005 ผู้นำแห่งประวัติศาสตร์เยอรมัน
 
ปีแรกของการเข้ารับตำแหน่งผู้นำเยอรมันเป็นครั้งแรก ในสังกับพรรค CDU (Christian Democratic Union) ด้วยการชนะเลือกตั้งได้ที่นั่งในสภาแบบฉิวเฉียด ถึงพรรคจะได้เสียงข้างมากก็จริง แต่ก็ผลคะแนนที่แย่ที่สุดของพรรค ได้ที่นั่งลดลงกว่าเดิมถึง 22 ที่นั่ง
และผลจากการเลือกตั้งครั้งนี้ ทำให้เยอรมัน ได้ผู้นำคนใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ของประเทศ เพราะเป็นครั้งแรกที่ได้ผู้หญิงเป็นนายกฯ และเป็นครั้งแรกที่ได้นายกฯ เป็นคนจากฝั่งเยอรมันตะวันออก ที่เคยถูกแยกเป็นประเทศในโลกสังคมนิยมมาก่อน นอกจากนี้ มาร์เคิลยังเป็นนักการเมืองสายวิชาการ (คุณแม่จบปริญญาเอกด้าย เคมี ควอนตัม) ที่หายากมากที่จะก้าวขึ้นมาถึงระดับนี้ได้ ด้วยวัย 51 ปี ถึงจะไม่ใช่ผู้นำที่อายุน้อยที่สุดในโลก แต่ก็อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองเยอรมัน
งานสาบานตนเข้ารับตำแหน่งสมัยแรก ปี 2005
2006 งานแรกที่ Davos
หลังจากเพิ่งตั้งรัฐบาลใหม่แค่เดือนกว่าๆ คุณแม่มาร์เคิล ก็ต้องเดินสายพบปะ พูดคุยผู้นำต่างประเทศในเวทีโลก และเวทีแรกที่เหมือนเป็นการเปิดตัวผู้นำเยอรมันคนใหม่ก็คือ งาน World Economic Forum 2006 ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิสเซอร์แลนด์
1
ในงานที่ดาวอส มีอยู่ช่วงหนึ่งที่คุณแม่มาร์เคิลประกาศว่า จะพาเยอรมันกลับมาเป็นเสาหลักของ EU ให้ได้ และตั้งเป้าหมายที่แก้ปัญหาการว่างงานที่ในประเทศให้ได้
และสิ่งที่อังเกล่า มาร์เคิล ประกาศในวันนั้นก็ประสบความสำเร็จ ตลอดระยะเวลา 15 ปีในตำแหน่ง ไม่มีใครปฏิเสธได้เลยว่า เยอรมันคือหนึ่งในเสาหลักของ EU จริงๆ และปัญหาการว่างงานในประเทศที่เคยสูงเกิน 10% ก็ลดลงอย่างต่อเนื่องจนเหลือเพียง 3% ในปัจจุบันเท่านั้น
2007 โดนปูตินรับน้องแรง
อังเกลา มาร์เคิล เกิด และเติบโตในฝั่งเยอรมันตะวันออก ที่เคยเป็นดินแดนสังคมนิยม และมีความใกล้ชิดกับรัสเซียพอสมควร และก่อนที่คุณแม่มาร์เคิล จะขึ้นมาเป็นผู้นำเยอรมัน ก็เคยเจอกับท่านป๋า วลาดิมีร์ ปูติน มาก่อน และป๋าปูตินก็รู้ด้วยว่าคุณแม่มาร์เคิลกลัวสุนัขตัวใหญ่
ในปีนั้น คุณแม่มาร์เคิลไปเยือนปูตินถึงรัสเซีย ระหว่างคุยกัน ป๋าปูตินก็เรียกสุนัขตัวใหญ่ที่เลี้ยงไว้ชื่อ โคดี้ เข้ามาในห้อง เล่นเอาคุณแม่นั่งตัวแข็งอยู่พักนึง เพราะไม่นึกว่าป๋าปูตินจะเล่นแรง แต่พอหลังจากกลับจากรัสเซีย คุณแม่ก็ให้สัมภาษณ์ออกสื่อว่า ปูตินก็แค่โชว์ป๋า เพื่อกลบเกลื่อนข้อด้อยของตัวเอง ที่ไม่มีอะไรเทียบเยอรมันได้สักอย่าง ไม่ว่าจะเรื่องการเมืองหรือเศรษฐกิจ! อูยย..แรงมากค่ะแม่ จนต้องรีบเปิดแฮชแท็ก #แม่มีไว้กราบ กันเลยทีเดียว
2008 การพบกันครั้งแรกของ มาร์เคิล และ โอบาม่า
ในปี 2008 ที่สหรัฐเพิ่งได้ บารัค โอบาม่า ประธานาธิบดีผิวสีคนแรกมาเป็นเจ้าเมืองมะกัน โอบาม่า เคยพูดถึงคุณแม่มาร์เคิล ไว้ในหนังสือ A Promised Land งานเขียนเล่มล่าสุดของตัวเองว่า ความประทับใจครั้งแรกที่ได้พบกับอังเกลา มาร์เคิล คือ ความเป็นคนที่พึ่งพาได้ มีความจริงใจ และก็ฉลาดรอบรู้ เพียงแต่ดูเหมือนคุณแม่ยังดูกังขาในตัวผม แต่พอได้ทำงานร่วมกัน เราก็ไว้ใจกันมากขึ้น
สิ่งที่โอบาม่ากล่าวถึง ผู้นำหญิงเหล็กคนนี้ก็ใกล้เคียงความจริงอยู่ ยกเว้นประโยคสุดท้าย ที่โอบาม่าอาจจะคิดไปเองก็ได้ 🤣
2009 มาร์เคิล เทอม 2
ด้วยผลงานหลายๆอย่าง และความ Strong ของคุณแม่มาร์เคิล ทำให้ผลการเลือกตั้งคราวนี้ เรียกคะแนนฐานเสียงเก่าของพรรค CDU กลับมาได้อย่างท่วมท้น ได้คะแนนเสียงข้างมากขาดลอย และได้เป็นผู้นำเยอรมันเทอม 2 นอนมาเห็นๆ ลบคำสบประมาทได้อย่างสะอาดหมดจดทีเดียว
1
2010 จุดยืนในวิกฤติยูเครน
ภาพวิคเตอร์ ยานูโควิช มาเยือนเยอรมันหลังชนะเลือกตั้ง คุณแม่อังเกลา มาร์เคิล เคยเตือนถึงเรื่องประเด็นการจำกัดเสรีภาพสื่อ และบทบาทของยูเครนที่โปร-รัสเซียมากเกินไป ที่อาจกลายเป็นเรื่องที่สร้างความยุ่งยากให้ในภายหลัง ซึ่งต่อมาก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เมื่อเขาถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง จนต้องลี้ภัยไปรัสเซียในอีก 4 ปีต่อมา
2011 ผู้นำทันเหตุการณ์
ในปี 2011 เกิดเหตุภัยธรรมชาติที่เป็นข่าวดังไปทั่วโลก นั่นก็คือ แผ่นดินไหวและ ทสึนามิที่เมืองเซนได ประเทศญี่ปุ่น ผลพวงจากภัยธรรมชาติครั้งนั้นทำให้เตาปฏิกรณ์ในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่เมืองฟุกุชิมะระเบิด สร้างปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมมากมายจนถึงปัจจุบัน
คุณแม่มาร์เคิล จึงจัดการสั่งปิดเตาปฏิกรณ์โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ในเยอรมันทันที 8 แห่ง ส่วนโรงงานที่เหลือ จะค่อยๆ ลดกำลังผลิตจนปิดถาวรภายในปี 2022 ตามหลักปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่าหายนะทีหลัง
2012 เฉียบขาดฝ่าวิกฤติค่าเงินยูโร
ในช่วงปีนี้ ประเทศใน EU วุ่นวายกับวิกฤติค่าเงิน และมีหลายประเทศที่ประสบปัญหาหนักมากถึงขึ้นจะล้มละลายกันเลย หนึ่งในนั้นคือประเทศกรีซ
เยอรมันจึงกลายเป็นหนึ่งเสาหลักที่จะต้องค้ำยันเศรษฐกิจใน EU ก่อนที่จะพังกันทั้งหมด
แล้วก็ใช้ไม้แข็งกับกรีซ วางกรอบการเงิน ให้รัดเข็มขัด จัดระเบียบเงินกู้ จนชาวกรีซออกมาโวย ด่าทอว่า อังเกลา มาร์เคิลเป็นแม่มดนาซีทีเดียว
2013 สายโทรศัพท์ร้อนฉ่าที่ทำเนียบขาว
ในปีนั้น เอ็ดเวิร์ด สโนเดน อดีตเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคของหน่วยความมั่นคงสหรัฐหรือ NSA ได้นำเอกสารมาแฉว่า สหรัฐดักฟังโทรศัพท์ส่วนตัวของผู้นำประเทศทั่วโลก รวมถึงของคุณแม่มาร์เคิลด้วย
1
คุณแม่เลยไม่รอช้า คว้าหูโทรศัพท์ ต่อสายตรงถึงโอบาม่า จัดชุดใหญ่ ด่ายับตับแล่บ กรรมการนับแต้มแทบไม่ทัน ที่หลายชาติก็ร่วมแตะหลังฝากคุณแม่ไปกรวดน้ำกับหลวงพี่โอบาม่ากันอย่างล้นหลาม
2014 ปีแห่งเยอรมัน โอเล่ โอเล๊ โอเหล่..
หลายคนอาจไม่ทราบว่า คุณแม่อังเกลา มาร์เคิล ก็ชื่นชอบดูกีฬาฟุตบอล หากเป็นนัดสำคัญที่ทีมชาติเยอรมันลงแข่ง คุณแม่แกเชียร์สุดใจ
โดยเฉพาะงานฟุตบอลโลกปี 2014 ที่เยอรมันได้แชมป์เป็นสมัยที่ 4 คุณแม่ลุ้นหนักมาก เชียร์แทบนั่งไม่ติดเก้าอี้ ชนิดยาดมไม่ต้อง ขอถ้วยแชมป์เท่านั้น
2015 บุคคลแห่งปี
หลังจากที่ดำรงตำแหน่งมาจนครบ 10 ปี นิตยสาร Time Magazine ก็ได้ยกตำแหน่งบุคคลแห่งปีให้แก่คุณแม่อังเกล่า มาร์เคิล ที่ไม่ใช่เป็นแค่ผู้นำของเยอรมัน แต่ถือว่าเป็นผู้นำที่ทรงอิทธิพลคนหนึ่งของโลก เป็นภาพลักษณ์ของความแข็งแกร่ง ใจถึง พึ่งได้ เป็นที่ยอมรับในระดับโลก
2016 วิกฤติผู้ลี้ภัยกับคะแนนนิยม
ช่วงปี 2016 เป็นต้นมา ประเทศในยุโรปประสบปัญหาวิกฤติผู้ลี้ภัยสงครามจากประเทศตะวันออกกลาง และอาฟริกาเป็นจำนวนมหาศาล ที่หลายชาติในยุโรปก็ไม่ค่อยจะเต็มใจต้อนรับ แต่คุณแม่มาร์เคิลกลับทำในสิ่งตรงกันข้ามด้วยการเพิ่มโควต้ารับผู้ลี้ภัยต่างชาติเข้าเยอรมันได้นับล้านคน สร้างความไม่พอใจอย่างมากให้กับชาวเยอรมันบางส่วน จนคะแนนความนิยมลดฮวบลงทีเดียว ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องทำใจเพราะในโลกของเรา หลายครั้งความถูกต้องก็ไม่เท่ากับความถูกใจนะคะ
2017 กำเนิดเพื่อนร่วมอุดมการณ์ มาครง-มาร์เคิล
ในปี 2017 ฝรั่งเศสก็ได้ผู้นำคนใหม่ ที่อายุน้อยที่สุดของประเทศอีกคน คือ เอมานูเอล มาครง ที่ต่อมากลายเป็นพันธมิตรที่เข้าขากันดีอย่างไม่น่าเชื่อ
2018 ทรัมพ์-มาร์เคิล ฟาดหนักที่งาน G-7
ความโฉ่งฉ่างของประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ ป้ายแดงอย่างท่านเสี่ย โดนัลด์ ทรัมพ์ ช่างเผ็ดแซ่บตั้งแต่วันแรกที่เข้าทำเนียบ แม้แต่เวทีงานประชุมสำคัญระดับโลก อย่างงานประชุมสุดยอดผู้นำ G-7 ประจำปี 2018 ที่แคนาดาก็ไม่มีข้อยกเว้น เมื่อท่านเสี่ยก็ป่วนงานได้ใจ บ่นนั่น บ่นนี่ มีแต่คนเก่าน่าเบื่อ ได้งานไม่ต่างจากนัดรวมก๊วนตีกอล์ฟ เสียเวลาผมจริงๆ
ความป่วนของทรัมพ์ในงาน ทำให้เกิดภาพ Meme ล้อเลียนระดับตำนาน ที่กลายเป็นไวรัลไปทั่วโลก ที่เห็นคุณแม่อังเกลา มาร์เคิล เท้าโต๊ะท้าทายทรัมพ์ที่นั่งทำหน้ากวนๆ no สน no แคร์ ท่ามกลางสายตาของผู้นำของชาติมหาอำนาจมากมาย ทั้งญี่ปุ่น ฝรั่งเศส อังกฤษ ที่ล้อกันได้ชั่วลูก ชั่วหลาน
2019 แสดงจุดยืนอันแข็งแกร่งแก้ไขภาวะโลกร้อน
อังเกล่า มาร์เคิล คือหนึ่งในผู้นำยุโรป ที่ประกาศจุดยืนชัดเจนด้านสิ่งแวดล้อม และตั้งเป้าหมายที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนให้ได้ถึง 95% ภายในปี 2050 แม้ว่าโดนัลด์ ทรัมพ์ จะประกาศถอนตัวจากข้อตกลงปารีส ว่าด้วยเรื่องสิ่งแวดล้อมไปแล้ว มาร์เคิลจึงประกาศจุดยืนสนับสนุนเอมานูเอล มาครง ให้เป็นผู้นำด้านสิ่งแวดล้อมโลก โดยไม่แคร์ว่าจะมีสหรัฐอเมริกาอยู่ร่วมหรือไม่
2020 ปีแห่ง Covid-19
สำหรับอังเกล่า มาร์เคิล ที่ถือคติด้านความถูกต้อง แม้จะไม่ถูกใจชาวเยอรมันบางกลุ่ม แต่หากจำเป็นต้องทำ ก็คือทำทันที เช่นเดียวกับวิกฤติ Covid-19 ที่เยอรมันก็มีการระบาดที่หนักหนาสาหัสเหมือนกัน และคุณแม่มาร์เคิลก็ไม่ลังเล ที่จะใช้มาตรการล็อคดาวน์ เว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก เมื่อเห็นว่าการระบาดเกินรับมือ จึงทำให้ชาวเยอรมันฝ่ายขวาจัดไม่ชอบ และออกมาประท้วงหลายพันคนก็ตาม
และก็เป็นคุณแม่มาร์เคิล อีกเหมือนกันที่ออกมาพูดเรื่องการแบ่งปันวัคซีน Covid-19 อย่างเท่าเทียมกันทั่วโลก เมื่อเห็นว่าชาติมหาอำนาจต่างสั่งจองวัคซีนที่เริ่มผลิตได้ ยาวข้ามปีไปแล้ว เพราะมีกำลังทุนที่มากกว่า ที่จะทำให้ประเทศในโลกที่ 3 จะไม่ได้โอกาสได้วัคซีนเลย และต้องรอคิวยาวอีกหลายปี กว่าจะได้
และนี่ก็คือบทบาทส่วนหนึ่งของคุณแม่อังเกลา มาร์เคิล ตลอดระยะเวลาในตำแหน่งแม่เมืองเยอรมันยาวนานถึง 15 ปี 4 สมัย ที่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะลงต่อในสมัยหน้า ในการเลือกตั้งทั่วไปในเยอรมัน ปลายปี 2021 หรือไม่
ก็ต้องยอมรับเลยว่า อังเกลา มาร์เคิล คือผู้นำหญิงระดับตำนานคนหนึ่ง ที่คอข่าวต่างประเทศรู้จักทุกคน จนหลายคนก็ติดตามจนเป็นแฟนคลับยาวๆก็มี ซึ่งถ้าคุณแม่จะต่ออีกสัก 4 ปี ก็ยังตามไหวนะคะ
โฆษณา