Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ดร.ธีร์รัฐ บุนนาค
•
ติดตาม
24 พ.ย. 2020 เวลา 08:51 • ครอบครัว & เด็ก
"ใครผิด.. ?”
เด็กสาวคนหนึ่งถูกพ่อแม่ไล่ออกจากบ้าน...
"ถ้าเธอจะเลือกอ้ายผู้ชายคนนี้.. ไม่เชื่อชั้น.. เธอก็ออกจากบ้านชั้นไปอยู่กับมันเลย!"
แล้วเธอก็เลือกที่จะไปอยู่กับผู้ชายคนนั้น..
หลังจากนั้นเพียง 1 ปี.. เธอก็ถูกไล่ออกจากบ้านผู้ชายคนนั้น.. เพราะแม่ของผู้ชายคนนั้นบอกกับลูกชายเค้าว่า...
"เลือกเอาระหว่างแม่กับเมีย..ถ้าแม่อยู่.. เมียแกต้องไป..
ถ้าแกเลือกเมีย...แม่จะไปเอง"
เด็กสาว.. ขาวใส ตัวเล็กๆ ไว้ผมบ๊อบสั้น สไตล์ขิกขุ เหมือนเด็กญี่ปุ่นที่นั่งตรงหน้าคนนี้ อายุเพียง 19 ปี..
เธอตกเป็นจำเลยในคดีบุกรุก ทำให้เสียทรัพย์..
"รู้จักกับเจ้าของบ้านมั้ย... เป็นแฟนกันรึเปล่า?"
ศาลถามรวบรัด เพราะดูลักษณะความผิดกับจำเลยแล้วส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องแบบนี้..
"ค่ะ! บ้านแฟนหนูเอง" ..
เด็กสาวยิ้มน่ารัก แบบชิวๆ
"แล้วมีเรื่องอะไรกันครับ.. ทำไมรุนแรงขนาดนี้..
ทุบประตูรั้วเหล็กพัง.. แล้วบุกรุกเข้าไปทุบประตูบ้าน ทุบหน้าต่าง ..
แล้วยังทุบกระจกรถแตกเสียหายไปอีก 2 คัน?"
ศาลถาม ให้จำเลยสาวเล่า..
"พ่อแม่แฟนหนู เค้าไม่ยอมให้หนูเข้าบ้าน.. ทั้งที่หนูก็อยู่บ้านนั้นนะ..
แต่แม่แฟนเค้าไล่ออกมา.. หนูก็ออกมาแล้ว..
วันนั้น.. หนูแค่จะเข้าไปเอาเสื้อผ้า.. แต่เค้าไม่ยอมเปิดประตู.. แกล้งบอกว่าหากุญแจไม่เจอ.. หนูก็เลยอาละวาด.."
เด็กสาวอธิบายเหตุผล..
"แล้วพ่อแม่เราหล่ะ.. อยู่ด้วยกันมั้ย? แล้วหนูทำงานรึยัง?"
ศาลถามหาข้อมูลเพิ่มเติม..
"พ่อแม่เค้าไม่เอาหนู.. ปล่อยให้หนูอยู่กับย่าที่หนองคายตั้งแต่เล็กๆ..
นานๆจะให้หนูไปอยู่ด้วยทีนึง.. หนูรักย่า ...รู้สึกสนิทกับย่ามากกว่าแม่หนูซะอีก ...
เด็กสาวหัวเราะร่วน..
“หนูจนค่ะ.. เลยเดินทางเข้ามาหางานทำในกรุงเทพตั้งแต่เด็กๆ.. หางานเพื่อส่งตัวเองเรียน.. เลี้ยงตัวเองอยู่คนเดียวมาตลอดค่ะ"
"ก่อนเกิดเหตุ ทำงานอะไรครับ?"
ศาลถามกระชับเข้ามา..
"หนูเป็นผู้ช่วยทันตแพทย์.. รายได้ก็หมื่นกว่าบาทค่ะ..."
จำเลยตอบ ยิ้มหวาน..
"แล้วเรื่องเรากับแฟนอ่ะ.. มันเป็นยังไงครับ?"
ศาลวกเข้าประเด็น..
เด็กสาว.. นิ่งสักพัก สีหน้า แววตาเริ่มเปลี่ยนไป..
"หนูชอบเค้า.. เรามีอะไรกัน.. ตอนนั้นหนูอายุยังไม่ถึง 18 เลย..
พอพ่อแม่หนูรู้.. เขาก็แจ้งความจับแฟนหนู ข้อหาพรากผู้เยาว์..
หนูรู้ว่า จริงๆแล้ว..เค้าอยากได้ตังค์มากกว่าเพราะเค้าไม่เคยมาดูแลหนูอยู่แล้ว..
แฟนหนูเครียดมาก พ่อแม่แฟนเค้ารักลูกมาก.. "
เด็กสาวรำพึง..
"ต่อมา.. แม่แฟนเค้ามาขอร้องให้หนูช่วยคุยกับที่บ้านหนูว่า อย่าเอาเรื่องแฟนหนูเลย"
เด็กสาวหยุดคิดนิด.. เอียงคอหน่อย.. ก่อนเล่าต่อ..
"หนูอ่ะ..เรื่องเนี่ย.. ทำให้หนูทะเลาะกับพ่อแม่เลยนะ..
เพราะหนูห้ามไม่ให้เค้าเอาเรื่องแฟนหนู.. ในที่สุด เค้าก็เลยบอกว่า..
ถ้าเธอเลือกอ้ายผู้ชายคนนี้.. เธอก็ออกจากบ้านชั้นไปอยู่กับมันเลย!..
แล้วเค้าก็ไล่หนูออก.. ไม่ยอมให้เข้าบ้านอีกเลย"
เด็กสาวย้อนอดีต.. สาเหตุที่ถูกพ่อแม่ตัวเองไล่ออกจากบ้าน..
"เราก็เลยมาอยู่บ้านแฟน?"
ศาลสรุปให้..
"ใช่ค่ะ.. หนูพยายามปรับตัวทุกอย่าง ให้พ่อแม่แฟนเค้ายอมรับหนู..
เป็นปีเลยนะที่หนูทน.. ทนทำงานบ้านทุกอย่าง..
แต่ถึงที่สุดแล้ว.. ก็เข้ากับแม่เค้าไม่ได้"
ศาลหยุดซักถามชั่วคราว.. เพราะนิติกรมาแจ้งว่า ผู้เสียหายมาถึงศาลแล้ว.. ให้นั่งรออยู่อีกห้องหนึ่ง..
ศาลผละลุกออกจากเก้าอี้.. บอกเด็กสาวว่า ขอตัวไปคุยกับฝ่ายผู้เสียหายบ้าง..
ฝ่ายผู้เสียหายมากัน 3 คน.. ลูกชายรูปร่างสูงคมเข้มมาในเครื่องแบบทหาร.. กับ คุณพ่อซึ่งเป็นผู้เสียหาย และคุณแม่อายุเลยวัยเกษียณ..
ผมสอบถามเรื่องราว.. คุณพ่อเป็นคนตอบเสียเป็นส่วนใหญ่..
ทำให้ทราบว่า พ่อแม่คู่นี้รักลูกมาก เพราะเป็นลูกชายคนที่หวังว่าจะได้ฝากผีฝากไข้ก่อนตาย..
ส่วนแม่นั่งมองออกนอกหน้าต่าง ไม่พูดไม่จา...เหมือนพยายามเก็บอารมณ์.. เธอทนฟังศาลคุยกับพ่อได้ไม่นาน...ในที่สุด เธอก็ทนไม่ไหว.. พูดแทรกขึ้นมาว่า..
"เด็กอะไร.. ขี้เกียจตัวเป็นขน.. ไม่มีสัมมาคาราวะ.. ไม่รู้จักเด็กผู้ใหญ่.. ไม่มีความเรียบร้อย...
พ่อแม่นั่งกินข้าวอยู่.. มีหมามาถ่ายใกล้ๆ.. เราก็บอกให้สะใภ้ไปเก็บซะ..
มันกลับบอกว่า.. เดี๋ยว กำลังซักผ้าอยู่.. รอให้เสร็จก่อน.. ตอนเอาผ้าไปตาก ค่อยเก็บ..
ดู.. ดู้.. มันจะปล่อยให้พ่อนั่งทานข้าวใกล้กับกองถ่ายสุนัข! ..
ชั้นบอกลูกชายให้เก็บแทนเมีย.. ลูกชายมันก็บอกว่า เป็นงานของผู้หญิง มันไม่ทำ"
ผู้เป็นแม่ของฝ่ายชาย พรั่งพรูความในใจออกมา..
"อิพ่อมันก็เหมือนกัน.. รอจะให้ลูกชายลงมากินข้าวพร้อมกัน.. ลูกไม่ลงมา ก็ไม่ยอมกิน..
ไอ้ลูกชายมันก็จะรอแต่ผู้หญิง.. จะกินพร้อมเค้า..
อ้ายผู้หญิงมันก็ตื่นสาย ตะวันโด่งแล้วยังไม่ตื่น..
ตกลงพ่อมันก็ไม่ได้กินข้าว"
เธอยังมีเรื่องเล่าอีก..
"นี่ บ้านนี้แม่ทำทุกอย่างนะ.. ทั้งดูแลสะใภ้เหมือนเป็นลูกของแม่...
แต่มันกลับเอาแม่ไปด่าในเฟสบุ๊ค.. ให้เพื่อนๆมันมองแม่ว่าไม่ดี.. แม่เป็นฝ่ายผิด.. พอจับได้มันก็ไปลบเฟสบุ๊คออก"
ผู้เป็นแม่ระบายความในใจหลายชุด.. จนน้ำตาแห่งความน้อยใจนองหน้า..
ส่วนคุณพ่อ กับคุณลูกชายได้แต่นั่งฟังทำตาปริบๆ..
"ลูกชายมันเอาแต่ผู้หญิง.. มันไม่เอาแม่.. มันเลือกจะไปอยู่กับเค้า.. มันทิ้งพ่อแม่แก่ๆอยู่บ้าน..
ยังไม่เท่าไหร่.. นี่ลูกติดเมียคนเก่าของมันนะ.. ลูกมันเองแท้ๆ.. มันยังปล่อยให้แม่เลี้ยง..
ไม่เคยเลย.. ไม่เคยออกตังค์ช่วยสักบาท..
ท่านเชื่อมั้ย.. นี่ฉันต้องจ่ายเงินจ้างมันให้อยู่กับลูกบ้าง.. จ้างให้มันพาลูกมันไปเที่ยวบ้าง..พ่อลูกมันจะได้ผูกพันกัน!"
พอได้พูดแล้ว คุณแม่หยุดไม่อยู่..
"ฉันทนไม่ได้.. ก็เลยบอกลูกชายว่า ถ้ามันเลือกเมีย.. แม่จะไปเอง.. ถ้าเมียมันไม่ออกไป.. แม่จะออกไปเอง!"
ผู้เป็นแม่พูดไป.. ก็ค้อนลูกชายไป.. พูดประชดพ่อไป.. ร้องไห้ เช็ดน้ำตาไปด้วย..ดูๆก็น่าเห็นใจ..
"คุณพ่อว่าไงครับ.. เรื่องคดีนี้ พอจะคุยกันได้มั้ย ?"..
ศาลเปลี่ยนเป้ามาที่ผู้เสียหายบ้าง..
"ก็.. แม่เค้าบอกไม่ให้ยอมความ.. ก็ให้คนทำผิดเค้าชดใช้ค่าเสียหายมา 30,000 บาทล่ะกัน.. ถ้ามีไม่พอ.. ก็ให้ผ่อนจ่ายมา"
ผู้เป็นเจ้าของบ้านตอบ แล้วหันไปทางลูกชาย..
"แกก็ช่วยกันออกเงินละกัน.. ออกไปอยู่กับเค้าแล้วนี่..
ผ่อนมาเดือนละ 3,000 ก็ได้"
ศาลพอเห็นที่มา และความต้องการของทุกฝ่ายแล้ว.. บอกขอตัวกลับออกไปคุยกับจำเลยอีกครั้ง..
"ผมว่า.. พ่อแม่แฟนเราเค้าดีนะ.. เค้ารักลูกมากเลย..
ถ้าเราทำตัวดี.. ทำให้เค้าเมตตา.. เค้าก็น่าจะรักเราเหมือนลูกเค้าเองนะ. "
ศาลนำเสนอแนวทาง..
"คราวหน้า คุณต้องใจเย็นกว่านี้นะ.. ได้ฟังแม่เค้าบ่นว่า.. ก็ให้คิดซะว่า กำลังฟังพระสวด..
ให้พนมมือ.. ตั้งสติ.. ยิ้มรับนะ...
แล้วยอมรับด้วยว่า.. ที่เราถูกเขาฟ้องคดีนี้เพราะเราทำเกินเลยไปมาก..”
เด็กสาว มองหน้าศาล.. แววตาฉายความสำนึกผิดชัดเจน..
"หนูรู้ว่าหนูผิด.. แต่หนูก็พยายามทำดีมาตลอด.. "
เสียงเธอเริ่มสะอึกสะอื้น..
"หนูทน.. ทนจนคิดว่า ไม่เคยต้องอดทนอะไรมามากขนาดนี้มาก่อนในชีวิต..
แต่วันนั้น .. ที่หนูโกรธ ก็เพราะหนูรักเค้า.. เหมือนเค้าเป็นพ่อแม่หนู.."
เด็กสาวเริ่มร้องไห้.. เช็ดน้ำตาไปพูดไป..
"หนูแค่คิดว่า.. เพราะหนูเคยช่วยลูกชายเค้าไว้ไม่ให้ถูกดำเนินคดีพรากผู้เยาว์ฯ..
จนทำให้แม่ไล่หนูออกจากบ้าน.. จนหนูไม่มีที่จะอยู่..
แต่พอไปอยู่กับเค้า.. ทั้งที่หนูเคยช่วยลูกชายเค้าไว้ไม่ให้ติดคุก.. แต่เค้ากลับไล่หนูออกมา..”
เด็กสาวร้องไห้หนัก..
"เค้าเคยคิดบ้างมั้ย.. ว่าถ้าหนูออกจากบ้านไปแล้ว.. หนูจะไปอยู่ที่ไหน.. เค้าคิดบ้างมั้ย?.."
"เค้ารู้มั้ย..วันที่เค้าไล่หนูออกไป .. คืนนั้น หนูต้องนอนกับพื้น..
คืนต่อๆมา.. หนูต้องไปขอนอนที่ร้านที่หนูทำงาน.. เพราะหนูไม่มีที่ไป... ไม่มีใครเอาหนูแล้ว..
ทำไมเค้าถึงทำกับหนูแบบนี้...."
จำเลยร่ำไห้.. ฟูมฟาย.. น้ำตาใสๆ ไหลอาบแก้ม..
จำเลยคดีนี้ เธอรับสารภาพ.. ศาลจึงเลื่อนคดีไปให้พนักงานคุมประพฤติสืบเสาะก่อนนัดฟังคำพิพากษาเดือนหน้า..
เรื่องนี้คล้ายกับละครหลังข่าวนะครับ..
หวังว่า เรื่องนี้คงจะเป็นประโยชน์ เป็นข้อคิดให้กับพ่อแม่ที่มีลูกสะใภ้เข้ามาอยู่ในบ้าน..
เป็นคติให้ลูกชายที่ต้องเลือกระหว่าง "แม่" กับ "เมีย".. ได้นำไปพิจารณา..
และได้สะท้อนมุมมองของการเลือกคู่ครอง..
“ที่ไม่มีคำตอบสุดท้ายว่า.. ใครถูก..ใครผิด.. “
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย