25 พ.ย. 2020 เวลา 13:50 • ท่องเที่ยว
“🍀กลางสัปดาห์พาเที่ยวไทย”🍀
🌼สุพรรณบุรี🌼
✨เมืองยุทธหัตถี วรรณคดีขึ้นชื่อ
เลื่องลือพระเครื่อง รุ่งเรืองเกษตรกรรม
สูงล้ำประวัติศาสตร์ แหล่งปราชญ์ศิลปิน ภาษาถิ่นชวนฟัง✨
🌱สุพรรณบุรี เมืองที่เป็นฉากหลังของวรรณคดีเรื่อง ขุนช้างขุนแผน บทเสภารักสามเส้าที่ขับขานต่อเนื่องมาอย่างยาวนานนับร้อยปี (อ่านขุนช้างขุนแผน ฉบับอ่านเอง ได้ที่ลิ้งค์นี้ค่ะhttps://www.blockdit.com/series/5f6bd35636420c058ea63093 )
🌱สุพรรณบุรี ...แหล่งโบราณคดี สมัยทวารวดีที่เก่าแก่ที่สุด และเป็น เมืองหน้าด่านในสมัยอยุธยา
🌱สุพรรณบุรี ...แหล่งรวมปลาน้ำจืดหลากหลายพันธุ์ และกุ้งแม่น้ำที่รสชาติอร่อยสุดๆ
🌱สุพรรณบุรี ...ทุ่งนาสีเขียวอ่อน กลางแดดจ้า ผ่านสายตาไปแปลงแล้วแปลงเล่า ข้าวสะบัดรวง พลิ้วไปกับสายลม ไล้ใบเรียว
🌾นี่คือแหล่งปลูกข้าวเลี้ยงเรามานานแสนนาน
แต่เราแทบจะไม่เคยรู้เลยว่าชาวนาเขาปลูกข้าวกันอย่างไร เอาเมล็ดพันธ์มาจากไหน ?
ตามพี่เขียนมาค่ะ ไปชมแปลงนาสาธิตแล้วไปชมฝูงปลากัน😀
แปลงปลูกข้าวรูปแผนที่ประเทศไทย ที่ นาเฮียใช้ สุพรรณบุรี
วันเสาร์ที่ผ่านมาพี่เขียนได้ไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนๆ โดยขับรถจากกรุงเทพชั่วโมงกว่าๆก็ถึงแล้วค่ะ ระยะทาง 107 กิโลเมตร ตามถนนสาย 340 ออกจากแถบตลิ่งชัน 8 โมงเช้า 9โมงกว่า ก็ถึงอำเภอเมือง สุพรรณแล้วค่ะ
🙏แวะไปไหว้พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ กันก่อนค่ะ🙏
พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ (หลวงพ่ออู่ทอง)เป็นพระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาหิน ปางโปรดพุทธมารดา ในอิริยาบถประทับนั่งขัดสมาธิ พระหัตถ์ซ้ายวางหงายบนพระเพลา (ตัก) พระหัตถ์ขวายกขึ้นเสมอพระอุระ (อก) จีบนิ้วพระหัตถ์
ตั้งอยู่ใกล้วัดเขาทำเทียม ที่หน้าผามังกรบิน ณ พุทธมหาสถานเมืองโบราณอู่ทอง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี
องค์หลวงพ่ออู่ทอง มีความสูง 108 เมตร ฐานกว้าง 88 เมตร หน้าตักกว้าง 65 เมตร เป็นพระพุทธรูป แกะสลักหน้าผาใหญ่ที่สุดในโลก
พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ :พระพุทธรูป ปางโปรดพุทธมารดา
บริเวณนี้แต่ก่อนเป็นเขตสัมปทานระเบิดภูเขาทำโรงโม่หินเมื่อปี 2514-2534 ต่อมาไม่มีการต่อสัญญาจึงกลายเป็นเหมืองร้าง
พระธรรมพุทธิมงคล (สอิ้ง สิรินันโท) เจ้าอาวาสวัดป่าเลไลย์วรวิหาร ได้เข้ามาพัฒนาก่อสร้างพุทธมณฑลประจำจังหวัด โดยขออนุญาตดำเนินการจากกรมป่าไม้อย่างถูกต้อง โดยกรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้อนุญาตให้ใช้พื้นที่บริเวณนี้ประมาณ 100 ไร่
บริเวณรอบองค์พระเป็นภูเขาหิน ยังไม่มีต้นไม้ใหญ่ที่ให้ร่มเงา มีบ่อน้ำที่มีน้ำน้อย เดินกันเหงื่อตกเลยค่ะ😅 เพราะร้อนมาก🌞
แนะนำให้มาเช้าๆหน่อย ทาครีมกันแดดเยอะๆ แว่นตาดำ ร่ม เตรียมพร้อมสู้แดด!
พอไหว้พระที่นี่เสร็จแล้ว ให้ไปต่อที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อู่ทอง ที่อยู่ไม่ไกลเท่าไร ...ที่สำคัญคือ มีแอร์ค่ะ 😄 ไปเดินเย็นๆ หลังจากเป็นปลาแดดเดียวมาแล้วนี่..มีความสุขที่สุดเลย😍 (ไว้เขียนเรื่องประวัติศาสตร์ทีหลังนะคะ)
พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ
ดูพิพิธภัณฑ์เสร็จ กินอาหารกลางวันที่ร้านโปรดของเพื่อนชาวสุพรรณ”ครัวแกงป่า”ค่ะ
อาหารอร่อยทุกอย่าง แนะนำให้สั่งปลาสลิดไร้ก้างทอดน้ำปลา พวกเราถึงกับต้องสั่งเบิ้ลกันเลยค่ะ (ลืมถ่ายรูปอีกต่างหาก..หิวจัด😄) เมนูอื่นที่สั่งคือ กุ้งหลน ต้มข่าปลาหมอไร้ก้าง
กินปลาร้านนี้ไม่ต้องกลัวก้างติดคอ เขาแกะแต่เนื้อมาให้รับประทานสะดวกค่ะ
กุ้งหลน ร้านครัวแกงป่า
รับประทานอิ่มแล้วก็ไปที่ “ศูนย์เรียนรู้วิถีชีวิตและจิตวิญญาณชาวนาไทย “(นาเฮียใช้) ที่ครอบครัวเจริญธรรมรักษา ได้เริ่มสร้างในปี 2553 -54โดยการรวบรวมเรือนไทยโบราณภาคกลางที่มีอายุประมาณ 100 ปี และอุปกรณ์ เครื่องใช้ในชีวิตประจำวันของคนไทยในอดีต
การก่อสร้างเสร็จในปี 2558 และได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เสด็จมาเป็นองค์ประธานในพิธีเปิด “ศูนย์เรียนรู้วิถีชีวิต และจิตวิญญาณชาวนาไทย” เมื่อ 12 ตุลาคม 2558
เรือนไทยใน ศูนย์เรียนรู้วิถีชีวิตและจิตวิญญาณชาวนาไทย
“เรือนศูนย์รวมดวงใจไทยทั้งชาติ “ เรือนที่บ่งถึงความตั้งใจในการแสดงความจงรักภักดีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9 พ่อหลวงของแผ่นดิน
เรือนหลังนี้มีความโดดเด่นงดงามเป็นพิเศษ ภายในมีการจัดแสดงพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครั้งเสด็จขึ้นครองสิริราชสมบัติ พระบรมฉายาลักษณ์ในพระราชกรณียกิจต่างๆ จัดแสดงพระบรมรูป และพระบรม สาทิสลักษณ์ราชวงศ์จักรี ตั้งแต่รัชกาลที่ 1 ถึงรัชกาลที่ 9
ภาพโดย เขียนตามใจ
เราได้นั่งรถที่ทางศูนย์พานำชมกระบวนการผลิตเมล็ดพันธ์ุข้าว และ ดูการจัดการเกษตรเกษตรทฤษฎีใหม่
เด็กนักเรียนเข้าเรียนรู้การดำนา ภายในนาเฮียใช้ ภาพจาก ศูนย์เรียนรู้วิถีชีวิตและจิตวิญญาณชาวนาไทย
ต้นกล้าของที่นี่จะเพาะใส่ในถาดสี่เหลี่ยม ซึ่งจะใส่วัสดุเพาะกล้าที่เตรียมไว้ ผ่านเครื่องโรยเมล็ดพันธ์ุตามสัดส่วน แล้วจึงนำไปเพาะในแปลงนา
การเตรียมวัสดุเพาะกล้า
1.ใช้ดิน ที่เป็นหน้าดิน มาตากให้แห้ง บดให้ละเอียด
2.แกลบดิน ที่เก่าจนเริ่มผุ
3.ขี้เถ้าดำ ต้องไม่มีความเป็นด่าง
รากของต้นกล้า ด้านล่างของถาดเพาะกล้า
นำส่วนผสมทั้งหมดมาคลุกเคล้ากัน แล้วนำมาใส่ถาดเพื่อเพาะต้นกล้า โดยใช้เครื่องเพาะกล้าเทคโนโลยีจากไต้หวัน ผลิตได้ชั่วโมงละ 1,500 ถาด
เครื่องโรยข้าวเปลือกลงถาดเพาะต้นกล้า
บ่มเพาะกล้า 24 ชั่วโมง แล้ววางลงสู่แปลงเพาะกล้า
รดน้ำต้นกล้าแบบฉีดน้ำละอองฝอยด้านบน โดยเครื่องจักร รากไม่แช่น้ำ รากกล้าจึงมีความแข็งแรง
เครื่องรดน้ำต้นกล้าแบบ ละอองฝอย
ปรับแต่งพื้นนาให้สม่ำเสมอ และปักดำโดยรถปักดำ ชนิดเดินตาม และนั่งขับ
เมื่อต้นกล้างอก ต้องมีการถอน คัดพันธุ์ที่ปนออกไปคือ เมื่อต้นกล้าอายุ 20-30 วัน ถอนข้าวนอกแถวออก
คัดพันธุ์ข้าวปน ระยะตั้งท้อง และตัดข้าวระยะโน้มรวง หรือก่อนเก็บเกี่ยว ประมาณ10 วัน
ต้นกล้าในถาด
เมื่อตัดข้าวปนออกไปแล้ว มีการตรวจแปลงนาเป็นระยะๆ ถึงระยะเก็บเกี่ยว ใช้เครื่องนวดข้าว และต่อด้วย การลดความชื้นด้วยการตาก หรือใช้เครื่องอบเมล็ดข้าว
แยกข้าวที่ไม่แข็งแรงออกด้วยเครื่องแยกตามความถ่วงจำเพาะ ให้เหลือแต่ข้าวเต็มเมล็ด ใส่บรรจุภัณฑ์ส่งจำหน่าย
ได้เห็นพัฒนาการของการปลูกข้าวในยุคปัจจุบันนี้แล้ว ยิ่งตระหนักถึงคุณค่าของข้าวทุกเมล็ดที่ชาวนาปลูกมาให้เรารับประทานกันค่ะ
ใครผ่านมาแถบนี้แวะชมได้ เข้าชมฟรีค่ะ
(ถ้านั่งรถเที่ยวชมแปลงนามีค่าใช้จ่ายเล็กน้อยค่ะ)
บ่อเลี้ยงปลา รอบๆเลี้ยงเป็ด และนกกระทา เอามูลล้างลงบ่อปลา
โพสต์หน้าค่อยไปดูปลาที่บึงฉวากกันนะคะ
ดูภาพตัวอย่างไปก่อน😀☺️😀ค่ะ
ปลาทะเลสีสันสวยงาม ที่ บึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา