26 พ.ย. 2020 เวลา 13:21 • หุ้น & เศรษฐกิจ
งบประมาณใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลกจะถูกใช้ในปีหน้า
วิกฤต covid-19 ทำให้ทั่วโลก อัดฉีดสภาพคล่อง สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ … และถัดไปอาจจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งได้มีบางประเทศ ผ่านงบออกมาแล้ว เช่น มาเลเซีย
มาเริ่มกันที่สหรัฐประเทศที่มีหน้าตักใหญ่ที่สุด Biden มองภาพชัดตั้งแต่หาเสียงแล้วว่าปีหน้าต้องตั้งงบลงทุนขนาดใหญ่เท่านั้นเพื่อให้การจ้างงาน และเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นฟูสำเร็จ ซึ่งการแต่งตั้ง Janet Yellen อดีตประธาน Fed ขึ้นเป็นขุนคลัง ยิ่งเป็นการส่งสัญญานว่ารัฐบาลของเขาจะผลักดันงบประมาณขนาดใหญ่ให้รัฐใช้จ่ายลงทุน ควบคู่กับการใช้นโยบายการเงินจาก Fed สนับสนุน
Biden ประกาศเตรียมเงิน 1.3 ล้านล้านดอลลาร์ลงทุนในระบบโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน รถไฟ หรือระบบสื่อสาร และเรื่องที่จะพลาดไม่ได้คือเร่งติดตั้งระบบ 5G ที่ปัจจุบันล่าช้ามาเกือบ 2 ปีแล้ว (เสียเวลาช่วงแบน Huawei ไป แต่ตัวเองทำไม่ได้จ้า)
2
ขณะที่นโยบายที่คนจับตามากที่สุดคือพลังงานสะอาด Biden ตั้งเป้าให้สหรัฐเป็นประเทศปลอดก๊าซเรือนกระจกภายในปี 2050
1
ซึ่งเรืองนี้เป็นข่าวดีกับหุ้นเช่น Tesla แต่ประเด็นอยู่ที่ “ปี 2050” มันไกลมากเมื่อเทียบกับเป้าหมายของประเทศอื่น จึงอาจมองได้ว่า Biden จะไม่เน้นเรื่องนี้เท่าไร (อย่างน้อยก็ในสมัยแรก)
ถัดมาคือจีน รัฐบาลอาศัยโอกาสที่ต้องกระตุ้นเศรษฐกิจหลังโควิด ปั้นแผน Localization เต็มตัว ผลักงบประมาณและตั้งกองทุนสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีในประเทศเพื่อให้แข่งขันได้และลดการพึ่งพาโลกตะวันตก
1
ข้อแตกต่างกับสหรัฐคือ ระบบโครงสร้างพื้นฐานในจีนยังใหม่สุดๆ ถนน รถไฟอยู่ในสภาพดีมาก รัฐบาลจึงจะเน้นลงทุนในอุตสาหกรรมไฮเทคแทน และแกนกลางของเทคโนโลยีซึ่งจีนให้ความสำคัญมากก็คือระบบ 5G ซึ่งจนถึงปัจจุบันลงทุนนำหน้าทั้งสหรัฐและยุโรปไปไกลมาก และแน่นอนมันจะไม่หยุดแค่นั้น 3 เครือข่ายมือถือหลักในประเทศ (เปรียบเหมือน AIS, DTAC, True) อย่าง China Mobile (HKG: 0941), China Unicom (HKG: 0762), China Telecom (HKG: 0728) ประกาศเร่งลงทุนให้คนจีนมี 5G ใช้ครอบคลุมมากที่สุดเร็วๆ นี้ !
นอกจากนี้รัฐบาลจีนยังจะเร่งลงทุนในพลังงานสะอาดโดยเฉพาะการผลักดันบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าให้ขึ้นมาเป็นเบอร์ 1 ของโลก (เหมือนที่ญี่ปุ่นมี Toyota, Honda) ซึ่งก็เป็นสาเหตุให้หุ้นของ Xpeng, Nio, BYD ขึ้นมาแรงมากในช่วงนี้
เมื่อมาดูที่กลุ่ม EU ภาพก็ยังเป็นแบบเดิมคือทั้งรัฐบาลฝรั่งเศสและเยอรมนีเห็นตรงกันว่าปีหน้าจะต้องเข็นงบประมาณมหาศาลเพื่อให้เศรษฐกิจฟื้น
เรามีโอกาสสูงมากที่จะได้เห็นงบประมาณที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลกทุ่มลงทุนเพื่อให้เศรษฐกิจของประเทศต่างๆ กลับมาเดินได้ปกติในยุคหลังโควิด และนี้ก็เป็นสาเหตุให้หุ้นกลุ่ม Cyclical หรือกลุ่มที่ถูกผลกระทบจากโควิด วิ่งแรงในช่วงไม่กี่วันนี้ กับความคาดหวังว่ากิจกรรมเศรษฐกิจทั้งหมดจะกลับมาเป็นปกติในปีหน้า…
1
ถ้าคุณเชื่อเหมือนกัน มันอาจถึงเวลาเก็บหุ้น Brick & Mortar หรือหุ้นอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบจาก Covid-19 แล้วน่ะครับ !! (แต่ระวังตัวที่จะไปไม่รอดนะครับ) หุ้นกลุ่มนี้บางตัวเด้งแรงมา 20-30% กันแล้ว แต่ยังห่างไกล กว่าจะกลับสู่ระดับก่อน Covid-19
ถ้าชอบโพสต์นี้แชร์ให้เพื่อนคุณอ่านด้วย 🧐🧐🧐
1
แอดมินแนท
BottomLiner
โฆษณา