27 พ.ย. 2020 เวลา 15:17 • ยานยนต์
เป็นไปได้แค่ไหน!? รัฐส่งเทียบเชิญ Tesla มาผลิตไทย (คิดเอาเอง)
เดี๋ยววันนี้ผมจะมาเล่าให้ฟัง
เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ที่ผ่านมานะครับ ได้มีข่าวใหญ่ที่สะเทือนรถไฟฟ้าบ้านเรา
นั่นก็คือ ทางรัฐบาลมีการพลักดันรถยนต์ไฟฟ้า หรือ รถEv
พยายามดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้มาลงทุนในบ้านเราให้ได้นะครับ
ซึ่งต้องบอกว่าก่อนหน้านี้ก็มีการทำออกมาแล้วบางส่วนนะครับ
ซึ่งนำโดยทีมเศรษฐกิจนะครับ จะทำให้รถยนต์ไฟฟ้ามาผลิตบ้านเราให้ได้
เพราะบ้านเราเป็นฐานการผลิตยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นะครับ
ซึ่งถ้าวันนี้เราพยายามที่จะผลักดันฐานการผลิตของรถยนต์ไฟฟ้าให้เกิด
อีกหน่อยไทยอาจจะศูนย์เสียการผลิตไปเลยก็ได้นะครับ
ล่าสุดทีมBoi เองก็ได้ประชุมทำแพคเกจออกมาโดยมีทางลุงตู่ของเรา
ก็ได้นั่งเป็นประธานนะครับ ซึ่งถ้าวันนี้จะดึงนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนได้
ต้องอัดโปรแรงนะครับ
1
ซึ่งรายละเอียดแพคเกจก็คือ
ค่ายไหนที่มาลงทุนผลิต BEV มากกว่า 5000ล้านบาทขึ้นไป
จะได้การยกเว้นภาษีนิติบุคคล ถึง 8 ปีเลยทีเดียวนะครับ
แต่ถ้าต่ำกว่าจะยกเว้นนิติบุคคลแค่ 3 ปี เท่านั้นนะครับ
แล้วถ้าเป็นรถ PHEV ก็จะได้สิทธิ์ยกเว้น 3 ปีเช่นกันนะครับ
แต่มีข้อแม้ว่าต้องผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้าอย่างน้อย 3 ชิ้นนะครับ
ถึงจะได้สิทธิพิเศษนี้นะครับ
ซึ่งพอเปิดแพคเกจนี้ออกไปก็มีคนสนเข้ามาระดับนึงเลยนะครับ
ซึ่งหลักๆก็มีอย่างGreat wall ที่เข้ามาช่วงต่อแพคเกจนี้เช่นกันนะครับ
แต่Great wall ก็มีทั้งสันดาปและ PHEV นะครับ
แล้วก็ยังมีรถยนต์ไฟฟ้าอย่างพวก Aura ด้วยนะครับ
 
แล้วก็ล่าสุดที่น่าตกใจก็จะมีอย่าง AAT หรือบริษัท Ford Mazda นี่เองก็เข้ามาขอยื่นแพคเกจด้วยนะครับ
และมีแผนการผลิต PHEV ประมาณ5000คันค่อปี และBEV 1000 คันต่อปี
นอกเหนือจากข่าวใหญ่ที่รัฐบาลทำรถยนต์ไฟฟ้าหรือรถEVนะครับ
ก็มีอีกข่าวที่น่าตื้นเต้นไม่แพ้กัน
นั่นก็คือทางBoi เทียบเชิญไปหาบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Tesla นั่นเองครับ
ซึ่งTesla เรียกได้ว่ามีฐานการผลิตอยู่ทั่วโลกเลยทีเดียวนะครับ
อย่างที่จีนเองก็เป็นGiga Factoryที่ใหญ่มากทีเดียวนะครับ
ลงทุนไปถึง 2000 ล้านดอลล่าร์กันเลยทีเดียวนะครับ
อย่างตอนนี้ที่จีนก็มีข้อสนับสนุนหลายอย่างเลยนะครับ ทำให้Tesla อยากมาผลิตที่จีน
อย่างแรกเลยก็เพราะว่าจีนมีเหมืองแร่ลิเทียมเอามาใช้ผลิตแบตเตอรี่ค่อนข้างเยอะนะครับ
Tesla ก็เลยสนใจ+กับที่จีนเองเนี่ยรัฐบาลเขาส่งเสริมด้วย ลายอย่างเลยนะครับ
ทั้งสิทธิภาษีต่างๆ ช่วยเยอะมากนะครับ แทบจะได้กำไรเต็มๆ เหมือจีนเอาแค่ Know-How เก็บไว้นะครับ
เพราะว่าในตอนนี้จีนยังมีในเรื่องของAi ที่จีนยังตามTesla ไม่ทันนะครับ
จึงยอมให้Teslaเข้ามาผลิตที่จีนนะครับ
ที่นี้มาดูกันในเรื่องของยอดขายกันนะครับ
ยอดขายTesla ทั่วโลก 376.500 คัน
ยอดขาย Tesla ในจีน 10,160 คัน
แต่ตอนนี้ที่จีนก็มีเรื่องสนับสนุนของราคานะครับ
ให้คนสามารถเข้าถึงได้นะครับ
จีนเลยตัดสินใจช่วยจ่ายเงินชดเชยให้กับคนที่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้านะครับ
ตอนนี้รถยนต์ไฟฟ้าที่จีนก็เลยประสบความสำเร็จมากๆนะครับ
ทีนี้เค้าก็มองหานะครับว่าโซนเอเชียจะผลิตที่ไหนดี
ซึ่งเราก็ได้ยินข่าวกันมามากมายนะครับ
แต่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เราก็มีคู่แข่งที่น่ากลัวอย่างอินโดนีเซียนะครับ
ซึ่งอินโดเองว่าจะเป็นศูนย์กลางในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า
เราก็ต้องมาดูกันนะครับว่าไทยกับอินโด เนี่ย Tesla จะสนใจที่ไหนมากกว่ากันนะครับ
เพราะว่าอินโดก็มีเหมืองแร่นิกเกิลขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นส่วนประกแบสำคัญในการผลิตแบตสำหรับรถยนต์ไฟฟ้านะครับ
แต่ถ้าเทียบกับในไทยเอง ไทยก็จะได้เปรียบในเรื่องของชัยภูมินะครับ ซึ่งก็สามารถกระจายไปได้หลายๆประเทศนะครับ
ทั้งฝั่งอเมริกา ฝั่งแอฟริกา ฝั่งอินเดีย ฝั่งออสเตรเลีย มันก็สามารถกระจายไปได้หมดเลยนะครับ
พูดถึงประชากรในไทยมี70ล้านคน แต่ถ้าประชากรในจีนจะมี250ล้านคนนะครับ
ส่วนการส่งออกประเทศไทยส่งออกรถถึง50% กันเลยทีเดียวและใช้ในประเทศ50%เช่นกัน
ถ้าเทียบกับอินโดใช้ในประเทศ80% และส่งออกแค่20%เท่านั้นครับ
ซึ่งรถที่ออกมาขายก็จะมีอย่าง TOYOTA SHENTA MITSUBISHI XEANDER นะครับ
ก็เข้ามาขายลบ้านเราซึ่งเป็นของอินโดหมดเลยนะครับ
ผมคิดว่านะครับถ้าวันนี้เราอยากจะให้ค่ายรถยนต์อย่างTesla เข้ามามาผลิตในบ้านเราได้นะครับ
ในเรื่องของBOI ผมว่าถือว่ายังส่งเสริมไม่มากพอนะครับ อาจจะได้ใช้อย่างในเคสของGreat wall motor นะครับ
เพราะสำหรับอย่างรถยนต์เครื่องสันดาปต่างๆยังมีความต้องการมันเยอะมากๆนะครับ
ถ้าเทียบกับรถยนต์ไฟฟ้าเองความต้องการมันน้อยมากๆนะครับ
เพราะว่าตอนนี้คนใช้รถยนต์ไฟฟ้าแทบจะนับคันได้เลยนะครับ รถไฟฟ้าจดทะเบียน ไม่ถึง 5000 คัน
ทั้งๆที่บ้านเราทั้งหมดใช้รถยนต์กว่า 40 ล้านคันนะครับ
1.หมายความว่าตอนนี้คนยังไม่เชื่อมั่นว่านโยบายภาครัฐจะสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มที่นะครับ
2.เรื่องของInfasugger หรือระบบการชาร์จไฟ จุดชาร์จ เรายังมีน้อยมากๆนะครับ
ฉะนั้นถ้าวันนี้ยังไม่ส่งเสริมเรื่องจุดชาร์จ ก็คงไม่มีใครอยากซื้อ และใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันนะครับ
3.เรทค่าไฟ เรทค่าไฟที่จะชาร์จรถยนต์เนี้ย จะคิดเท่าไหร่กันแน่
ซึ่งเมื่อก่อนจะคิดเป็นเรทของ On Peak กับ Off Peak นะครับ
On Peak จะอยู่ที่ 7บ.ต่อยูนิต แต่ถ้า Off Peak จะอยู่ที่ 4บ.ต่อหน่วยนะครับ
ซึ่งเราก็ต้องมาดูกันนะครับว่าTesla สนใจจะตั้งฐานการผลิตที่ไหนกันแน่
ใครคิดเห็นยังไงก็มาพูดคุยกันได้นะครับ ถ้าชอบฝากกดไลค์ กดแชร์ คอมเม้นต์กันด้วยนะครับ
โฆษณา