29 พ.ย. 2020 เวลา 02:22 • กีฬา
รู้หรือไม่ว่าฉายาจริงๆของมาราโดน่า ไม่ใช่ "เสือเตี้ย" 10 เรื่องของดีเอโก้ มาราโดน่า ที่คุณอาจไม่รู้มีอะไรบ้าง วิเคราะห์บอลจริงจังรวบรวมมาให้แล้ว
1) ฉายาจริงๆของมาราโดน่า ไม่ใช่ "เสือเตี้ย"
ที่ไทยอาจจะเรียกว่าเสือเตี้ยก็จริง ตามส่วนสูงของมาราโดน่า ที่น้อยกว่านักบอลอาชีพคนอื่น แต่จริงๆฉายาแต่แรกเกิดคือ "เปลู" ในภาษาสเปน แปลเป็นไทยคือ ไอ้หัวฟู คือเกิดมาผมก็ฟูฟ่อง พ่อแม่ของมาราโดน่าก็เลยเรียกชื่อนั้นมาตลอด ส่วนเสือเตี้ย เป็นฉายาที่คนไทยตั้งขึ้นเอง
4
มีอีกฉายานึงที่มาราโดน่าโดนเรียก คือ "ว่าวปีศาจ" เหมือนว่าวที่ลอยบนฟ้า จับยังไงก็จับไม่อยู่ เพราะมาราโดน่าเลี้ยงบอลเร็วมาก
2) บ้านมาราโดน่ายากจน แต่พ่อแม่สู้เต็มที่
1
มาราโดน่ามีพี่น้องทั้งหมด 8 คน เขาเป็นคนที่ 5 คุณพ่อทำงาน 2 อาชีพ คือช่างก่อสร้างตอนเช้า และพนักงานโรงงานตอนบ่าย ออกจากบ้านตั้งแต่ตี 4 ทำงานจันทร์ถึงอาทิตย์ ส่วนแม่ เป็นแม่บ้านคอยจัดการดูแลลูกๆทั้ง 8 คน
1
ด้วยความที่รู้ว่าพ่อลำบาก ทำให้มาราโดน่าเกรงใจพ่อ ไม่กล้าจะขออะไร ครั้งหนึ่ง ที่เมืองข้าง มีคัดตัวนักเตะเยาวชน ซึ่งมาราโดน่าอยากไป แต่ไม่กล้าขอเงินขึ้นรถทัวร์จากพ่อ เพราะกลัวว่ามันสิ้นเปลือง แต่สุดท้ายพี่สาวเอาเรื่องนี้ไปบอกพ่อ ซึ่งพ่อก็ลางานและพามาราโดน่าไปคัดตัว ด้วยตัวเอง จะเห็นว่าที่บ้านอาจจะยากจน แต่มาราโดน่าโตมาในครอบครัวที่อบอุ่นพอสมควร
3) เป็นนักเตะคนเดียวในโลกที่ มีค่าตัวทำลายสถิติโลก 2 ครั้ง
นักเตะโดยทั่วไป มีค่าตัวทำลายสถิติโลกได้ก็ถือว่าสุดยอดแล้ว แต่มาราโดน่าทำได้สองครั้ง คือในปี 1982 ย้ายจากโบค่า จูเนียร์ ไปอยู่บาร์เซโลน่าด้วยค่าตัว 5 ล้านปอนด์ จากนั้นในปี 1984 ย้ายจากบาร์เซโลน่า ไปนาโปลี ด้วยค่าตัว 6.9 ล้านปอนด์
4) เป็นนักเตะบาร์เซโลน่าคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่แฟนเรอัล มาดริดปรบมือให้
ถ้าคนดูฟุตบอลจะรู้ดีว่า สองทีมในสเปน บาร์เซโลน่ากับเรอัล มาดริด เกลียดกันเข้าไส้ สองทีมนี้ไม่มีทางเผาผีกัน นักเตะของทีมคู่แข่งจะโดนโห่ โดนตะโกนด่าตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม กับเคส มาราโดน่า เป็นข้อยกเว้น ในปี 1983 เกมที่มาดริด กับบาร์ซ่าเสมอกัน 2-2 มาราโดน่าโชว์การยิงประตูที่เหนือชั้น ล็อกหลบโกล์ เหลือแต่หน้าโกล์โล่งๆ แต่แทนที่เขาจะยิง กลับรอกองหลังของเรอัล มาดริด ที่พุ่งมาสไลด์ แล้วโยกหลบอีกที ก่อนยิงเข้าประตูไปแบบเหนือสุดๆ
1
จบเกมนั้น แฟนมาดริดลุกขึ้นปรบมือให้มาราโดน่าทั้งสนาม และเป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์ของบาร์ซ่า ที่แฟนมาดริดลุกขึ้นปรบมือให้ด้วย
5) เงินหมดเพราะผู้จัดการส่วนตัว
ปี 1984 มาราโดน่า จากที่เป็นนักบอลที่รวยมาก ไม่เหลือเงินเลยสักดอลลาร์เดียว สาเหตุเพราะเวลามาราโดน่าได้ค่าจ้าง หรือถ่ายโฆษณาได้เงินมา จะฝากเงินไว้กับผู้จัดการส่วนตัวชื่อ ฮอร์เก้ คือคนเป็นนักบอล ก็อยากเตะบอลอย่างเดียว ไม่อยากเสียสมาธิเรื่องอื่น
แต่ปรากฎว่า ฮอร์เก้ ได้เอาเงินที่มาราโดน่าฝากไว้ ไปลงทุนในธุรกิจต่างๆทั่วอเมริกาใต้ ปรากฏว่า เจ๊งระนาว ทำให้มาราโดน่าไม่เหลือเงินติดตัวเลย
นี่เป็นบทเรียนสำคัญให้วงการฟุตบอลได้รู้ด้วยว่า นักกีฬาก็ต้องมีความรู้ เรื่องสัญญา เรื่องค่าจ้าง เรื่องการเงินให้ดี เพราะไม่อย่างนั้น อาจโดนผู้จัดการส่วนตัว หลอกเอาเงินไปทำอะไรก็ไม่รู้ อย่างกรณีของมาราโดน่าก็ได้
2
6) มาราโดน่ามีรอยสัก 5 แห่ง
แขนซ้าย สักว่า "ดัลม่า" ลูกสาวคนโต แขนขวาสักว่า "จิอันนิน่า" ลูกสาวคนเล็ก ขาซ้ายสักมังกร กับใบหน้าของฟิเดล คาสโตร ผู้นำของคิวบา ส่วน หัวไหล่ขวาสักเช กูวารา นักปฏิวัติคนดังชาวอาร์เจนติน่า
7) แฮนด์ออฟก๊อด
มาราโดน่าพาอาร์เจนติน่าได้แชมป์ฟุตบอลโลก ปี 1986 โดยไฮไลท์ที่คนพูดถึงกันมากที่สุดคือ เกมรอบ 8 ทีมสุดท้ายกับอังกฤษ ที่มาราโดน่า ใช้มือซ้ายตบบอลเข้าประตู แต่กรรมการมองไม่ทัน จึงไม่ได้เป่าฟาวล์ เรารู้จักกันในชื่อหัตถ์พระเจ้า หรือ Hand of God
แต่มาราโดน่าไม่ได้สำนึกผิดเลยแม้แต่น้อย เขาบอกว่า ก็ผู้ตัดสินไม่เห็นเอง ก็ช่วยไม่ได้ โดยในเวลาต่อมา มีนักข่าวไปถามเขาว่า มีอะไรที่มาราโดน่าเสียใจในการเล่นฟุตบอลหรือไม่ มาราโดน่าตอบว่า เสียใจที่ยิงอังกฤษน้อยไปหน่อย เขาอยากยิงอังกฤษให้ได้อีกสักลูก คราวนี้จะใช้มือขวาในการทำประตูบ้าง!
8) เทคนิคพิเศษของมาราโดน่า
แกรี่ ลินิเกอร์ กองหน้าทีมชาติอังกฤษ เคยเล่าให้ฟังว่ามาราโดน่าเก่งยังไง ทั้งคู่เคยเล่นฟุตบอลการกุศลร่วมกัน ในช่วงวอร์มอัพก่อนเกม มาราโดน่าเดาะบอล แล้วเตะเปรี้ยงขึ้นไปบนฟ้า สูงเป็นสิบเมตร จากนั้นพอบอลร่วงกำลังจะตกพื้น มาราโดน่าก็หวดเปรี้ยงขึ้นฟ้าไปอีก
1
ทำแบบนี้ 13 ครั้งติดต่อกัน ซึ่งฟังดูเหมือนง่าย แต่นักบอลระดับโลกคนอื่นลองทำเลียนแบบ ไม่มีใครเตะได้ติดต่อกันเกิน 3 ครั้ง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงคุณภาพฝีเท้าของมาราโดน่าว่าเกินธรรมดามากๆ
1
9) ตกต่ำเพราะติดยา
ความตกต่ำของมาราโดน่าเริ่มขึ้น หลังจากที่เขาหันมาเสพโคเคน คือตามปกติ นักฟุตบอลจะมีการตรวจปัสสาวะกันตลอด เพื่อเช็กว่าใครมีสารเสพติดในร่างกายบ้าง ซึ่งมาราโดน่านั้น ถ้าตรวจปั๊บก็เจอแน่นอน ว่าเขาเสพโคเคน และจะส่งผลให้โดนทั้งปรับ และแบนระยะยาว
มาราโดน่า แอบเอาปัสสาวะคนอื่น พกใส่ถุงมาด้วย แล้วพอจะตรวจ ก็เอาปัสสาวะที่เก็บมา ส่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจ ทำให้รอดการตรวจสารกระตุ้นมาได้ตลอด
จนเขาไปพลาด ในปี 1991 เมื่อมาราโดน่าโดนตำรวจบุกค้นบ้าน และเจอโคเคนในการครอบครอง พร้อมจับตรวจร่างกายทันที ก็มีโคเคนจริง สุดท้ายมาราโดน่าโดนแบนไป 14 เดือน
10) ลดน้ำหนัก 58 กิโล ใน 1 ปี
มาราโดน่าเลิกเล่นฟุตบอลอย่างเป็นทางการในปี 1997 จากนั้น เขาก็มีปัญหาเรื่องน้ำหนัก เพราะจากคนที่ออกกำลังกายมาตลอด พอหยุดออกกำลังปั๊บ น้ำหนักก็พุ่งทันที โดยมาราโดน่าเคยหนักสูงสุดที่ 128 กิโลกรัม จนสุดท้ายเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดเย็บกระเพาะให้เล็กลง พร้อมออกกำลังกายอย่างจริงจัง ทำให้น้ำหนักลดลงไปเหลือ 70 กิโลกรัม
ในช่วงก่อนเสียชีวิต มาราโดน่าลดน้ำหนักลงเหลือ ราวๆ 70-80 กิโลกรัม ซึ่งถือเป็นการตั้งใจจริงๆที่จะรักษาสุขภาพ เพือจะได้มีชีวิตไปนานๆ แต่น่าเสียดายที่อาการป่วย มีโรคแทรกซ้อนหลายอย่าง จนมาราโดน่าหัวใจล้มเหลวและเสียชีวิตในที่สุด
[ สุดท้าย คำอำลาบนหน้าหลุมศพ ]
เมื่อปี 2005 มาราโดน่าถ่ายทำสารคดี โดยในสารคดีมีคำถามว่า "ถ้าจะให้เลือกประโยคที่ประทับใจที่สุด ที่เขาจะเขียนบันทึกไว้หน้าหลุมศพของตัวเอง" มาราโดน่าจะเขียนคำว่าอะไร?
1
มาราโดน่า ตอบว่าอยากเขียนคำว่า "ขอบคุณลูกบอล"
5
เพราะลูกบอลทำให้เขามีชีวิตที่เต็มไปด้วยสีสันแบบนี้ ซึ่งก็เชื่อว่า คนในครอบครัวจะทำตามเจตจำนงที่มาราโดน่าตั้งใจไว้แน่นอน
โฆษณา