1 ธ.ค. 2020 เวลา 16:39 • ไลฟ์สไตล์
ทริปพิเศษ ทดสอบยาง บริดจสโตนS22
สวัสดีครับสมาชิกบล้อกดิท นี่เป็นกระทู้แรกของผมที่จะมาเขียนเล่าเรื่องเกี่ยวกับการขี่รถในเว็บไซส์นี้
ก่อนอื่นขอแนะนำตัวโดนสังเขป ผมชื่อหน่อย เกิดพ.ศ 2531 8ปีก่อนผมเป็น รปภ.ที่ตามฝันชีวิตไบเกอร์ขี่บิ้กไบค์
จึงได้พัฒนาตัวเองเพื่อให้มีชิวิตที่มีรายได้และประสบการณ์มากพอจะทำตามฝัน ไต่ccมาเรื่อยจาก sonic125 cbr150 cbr500 cbr650 gsxr1000 ทางด้านประสบการณ์ก็มีมีประสบการณ์การแข่งรถมาบ้าง แต่ชื่นชอบการแข่งจิมคาน่ามากกว่าการขี่เซอร์กิจ ปัจจุบันยังมีเป้าหมายที่จะเป็นแชมป์การแข่งจิมคาน่าของHONDA อยู่
ปัจจุบันผมทำอาชีพออกแบบของแต่งบิ้กไบค์ เอกลักษณ์ชัดเจนจำง่ายๆ เพราะสินค้าผมออกแบบเองก็ไม่ซ้ำในตลาด
เช่นชิลด์หน้า แฟริ่งแต่ง ตัวต่อพักเท้า ท้ายสั้นพับได้ไม่ใช้แม่เหล็ก เป็นต้น
หลายๆคนอาจจำผมได้ในชื่อหน่อยโซ่ตึง เจ้าของแบรนด์NST Designed part
หรือบางคนอาจจะรู้จักผมทางหน้าเฟส ติดตามไลฟ์สไตล์หรือตามอ่านบทความของผม
ผลงานล่าสุดครับ ชุดแต่ง cbr650rr-sp Project และกำลังจะทำชุดแต่ง Forza350
ประสบการณ์การขี่รถของผมก็ตอนนี้ยอดรวมเลขไมล์รถทุกคันรวมกันก็เกิน 4แสนกิโลเมตรไปแล้วล่ะครับ ใกล้ 5แสนกิโลเมตรแล้วครับ
ชื่นชอบการเล่นโค้งเป็นชีวิตจิตใจ ชอบไปป่าไปเขา ไม่ได้ไปแบบเน้นเที่ยวนะ ไปเน้นเล่นโค้งล้วนๆ5555+
เรื่องที่จะมาเล่าวันนี้มันเริ่มจากวันนึงก็มีโทรศัพท์เข้ามา
- ฮัลโหลๆ พี่เองนะหน่อย หมีโอมพันทิป
ครับพี่โอม มีอะไรให้น้องช่วย จะชวนไปขึ้นเวทีเซ็นทรัลเวิร์ดอีกรึ
- เปล่าๆ พี่มีงานต้องการนักขี่ถนน ทดสอบยางทำรีวิว
(แล้วเขาก็เล่าเนื้อหางานมา)
ผมตอบไปว่า ถ้าคิดว่าผมเหมาะสมพี่ก็เลือกผมได้เลย เดี๋ยวผมปิดร้านไปขี่ทดสอบให้
.
หลังจากนั้นผมก็ได้รับตารางการเดินทาง วัน เวลา จุดเริ่มต้นและสิ้นสุดในแต่ล่ะวัน
ผมดูระยะทางแล้ว โหดเอาเรื่องเลยทีเดียว แถมยังกำหนดวันไปที่มีพายุพอดีอีกด้วย
โอโห....นี่มันเทสยางหรือจะเทสสกิลคนขี่กันแน่ พลาดมามีเจ็บนะครับ เพ่โอมมมม
.
ดูๆแล้วผมก็คำนวณรูปแบบการขี่แต่ล่ะ1วัน ผมก็เข้าใจได้เลยว่าจะต้องขี่ทำเวลา เพราะงั้นทุกอย่างสำคัญ
สภาพคน ช่วงล่างรถ ยางและสภาพคู่หูที่ไปด้วยกัน
ตัวผมพร้อม แต่cbr650rรถต้นแบบของผม
ช่วงล่างยังไม่พร้อม
ยางบริดจสโตน ยี่ห้อเคยผ่านโมโตจีพีไม่ต้องกังวลอยู่ล่ะ
คู่หูเราหมีโอมพันทิปก็มือไม่ธรรมดาขี่รถมา6แสนกิโล
เมื่อวางแผนเสร็จแล้วก็เตรียมการกันเลย
ก่อนอื่นทำช่วงล่าง เซ็ทโช๊คก่อนเลย เจ้าประจำครับ
จัดการถอดโช๊คส่งไปร้าน นพประชาสงเคราะห์28 เป็นผู้อาวุโสเรื่องโช๊คตัวจริงคนนึง
การเซ็ทช่วงล่างก็เพื่อให้รองรับการขี่ไฮสปีด เพราะว่าอย่างที่บอกดูจากตารางเวลาแล้วไม่ใช่ทริปหวานเย็นแน่นอน ฮ่าๆ
แล้ววันที่3 บริดจสโตนก็เรียกเข้าไปใส่ยางพร้อมกับอบรมให้ความรู้ ความเข้าใจ
ซึ่งผมก็ขอดูเอกสารอ้างอิงกำกับไปด้วยตลอดเวลา
คือผมค่อนข้างไม่เชื่อคำโฆษณาเพราะว่าเป็นคนที่ทำวิจัยเรื่องต่างๆด้วยตัวเอง (มันเป็นสันดานของผมที่ออกแบบสินค้านั้นล่ะครับ)
เพราะงั้นก็เลยอยากรู้อยากเห็นเยอะหน่อยนึง 5 5 5+
ก็โชคดีครับที่เขาไม่รำคาญที่ผมไปจุกจิกถามอะไรยิบๆย่อยๆ
ก็ด้วยความกรุณาจากคุณอาผู้จัดการฝ่ายสโตร์ให้ความรู้ ข้อมูลมาเยอะเลยครับ
ดูรอยยิ้มนั้นสิ ช่างเด็กน้อยซะเหลือเกิน 5555+ ตอนนั้นผมจำได้เลยว่าอยากให้ฟ้ามันมืดไวๆจะได้ออกเดินทางไปแม่สอดซะที ตื่นเช้ามาวันรุ่งขึ้นจะได้หวดโค้งลองยางให้สะใจ
นี่คือยางที่ผมขอมาเป็นนักทดสอบ Brigdestone battlax hyper sport S22
เรื่องข้อมูล-หลักการยางเยอะมาก ผมเองถ้าไม่ได้ติดว่าอยากเอาประสบการณ์มาเล่าผมเองก็คงไม่สามารถนั่งฟังข้อมูลได้นานเป็น 2 ชั่วโมงเหมือนกันครับ ต้องจด ต้องจำ ต้องติดตามอย่างเข้าใจ
ผมทำการบ้านหนักมากครับ สำหรับเรื่องนี้
เกี่ยวกับยางS22 มี3เรื่องหลักๆที่ผมอยากให้คนอ่านได้รู้ครับ
1.ลายยางที่เป็น 3 มิติ
2.ขอบยางที่เป็นซอฟ (ขอบนิ่ม)
3.ยางเป็นถนนกึ่งสนาม รองรับการขี่ถนนและสำหรับผู้เริ่มต้นขี่สนาม
ตัวผมเองก็ไม่ใช่ว่าจะไปทำงานให้คนอื่นได้โดยสะดวกตัวผมเองก็ต้องปิดร้านของตัวเองแล้วไปขี่รถ
ถ้าคนที่ทำงานหนักพอๆกับผมน่าจะพอนึกออกว่า มันต้องมีเหตุผลส่วนตัวแน่ๆที่จะปิดร้านไปขี่รถ #ที่ไม่ใช่การไปเที่ยวยังงี้
ครับ ผมมีเหตุผลส่วนตัวที่รับทำทดสอบยางตัวนี้  เหตุผลแรกเป็นเรื่องส่วนตัวมากๆ สมัยก่อนผมทำตัวไม่น่ารักไว้เยอะ เป็นอดีตเด็กแว๊นพอมาขี่บิ้กไบค์ก็ทำตัวแง้นๆๆๆ พอเริ่มดังจากงานที่ทำและไลฟ์สไตล์ที่เป็น ไลฟ์สไตล์ผมจะประมาณว่าผมเป็นนักซิ่งแห่งขุนเขา บ้าแบนโค้ง บ้าวนกรวย ชอบขี่รถคนเดียว
พูดจายะโสทรนงไว้หน้าเฟสบุกเยอะแยะมากมายครับ ทุกวันนี้เวลาอ่านบทความเก่าๆผมก้รู้สึกรังเกลียดตัวเองมากเลยทีเดียว 5555+ อารมณ์แบบทำไปได้ พูดออกไปได้ สรุปสั้นๆเป็นคนหลงในความดังของตัวเองนั้นล่ะครับ คำพูดคำจามันก็จะแสดงอานุภาพตามนั้น  จนมาถึงวันที่เป็นจุดเปลี่ยน วันที่ผมรู้ตัวว่าผมเป็นอะไรได้มากกว่านี้
ก็คือวันนี้ครับ
นับจากวันนั้นมาผมก็สร้างเพจเอาไว้สะสมงานเขียนของผม ผมตั้งใจจะเขียนให้ได้300บทความ ก่อนจะหมดแรงขี่รถมอเตอร์ไซต์
ถ้าคนอ่านเข้าใจผมนะครับ นี้ละคือเหตุผลที่ทำให้ผม เอาตัวเข้ามาร่วมงานนี้กับหมีโอมพันทิปครับ
ผมอยากไปหาประสบการณ์เพื่อเอาไว้ช่วยเหลือให้ความรู้แก่ทุกๆคนนี่ล่ะครับ
สำหรับผมแล้วทริปนี้ต่อให้ผมต้องปิดร้านเสียรายได้14วันผมก็ยอมครับ
มันคุ้มค่ากับประสบการณ์ที่ได้กลับมาจริงๆ
หมีโอมน่ะเขาทดสอบยางบิ้กสกุตเตอร์ ส่วนผมน่ะเทสรถกึ่งเรซของรถสปอร์ต
สไตล์ผมชัดเจนเนอะ นักซิ่งแห่งท้องถนนอ้ะใช้คำแดกดันตัวเองแบบนี้เลย 5555+
เพราะงั้นยางที่ผมต้องการคือ ยางที่ขอบนิ่มเพราะการยึดเกาะในทางโค้ง ขณะรถเอียง
แต่ก็ต้องวิ่งถนนแห้งได้ด้วยเดี๋ยวฝุ่น เดี๋ยวฝน เวลาไปเที่ยวไปทริปไม่ได้เจอแต่ถนนสะอาดๆนี่นะ
ซึ่งที่ผ่านมาผมใช้แต่ยางสนามตลอดเลย
คู่นึงใช้ได้ 5-6พันกิโล ใช้มาราวๆ8-9คู่มั้ง 4ปีที่ผ่านมาน่ะ
เฟสบุกของผม เฟสบุกของหน่อยโซ่ตึง
ทุกวันที่ตื่นเช้ามาเปิดinboxจะมีคำถามมาทุกวันเลยครับ วันล่ะ2เรื่องขั่นต่ำ
มันคงตอบไม่ยากถ้าทุกคนในโลกใบนี้มีเงินมากพอที่จะซื้อของTOPได้ทุกอย่าง
แต่ชีวิตจริงมันไม่ใช่ยังงั้นนี่นะ คนขี่บิ้กไบค์ก็มีทั้งคนพร้อมและคนไม่พร้อม คนพร้อมเราไม่ต้องไปช่วยอะไรเขาอยู่ล่ะ
แต่คนไม่พร้อม ไม่มีเหลือนี่สิเราพอจะช่วยเหลืออะไรเขาได้มั้ย
1ในคำถามยอดฮิตที่ผมได้รับคือ "ใช้ยางอะไรดี ผมขี่ทำงาน ออกทริปทุกเดือน ขี่รถเล่นบ้างคืนวันเสาร์" ทำนองนี้ครับ
แล้วตัวผมเองก็เบื่อแล้วเหมือนกันที่ต้องใส่แต่ยางสนาม ขี่รถมาเยอะๆเข้าผมก็เริ่มเบื่อในความหมดไวของมัน
บางคนอาจคิดว่ามันก็แค่เงินส่วนต่างตอนซื้อยางครั้งแรกจริงๆไม่ใช่นะครับ ถ้าขี่รถมาเยอะๆจนเกิด loop ประจำปีแบบผมจะมองคนล่ะแบบ
เช่น ยางสนามผมใช้ยันสะพานยางเลยนะ 1หมื่นกิโล 1ปีผมใช้รถ50,000กิโล รถผมเลขไมล์แสนใน2ปี = 2ปีผมใช้ยาง9คู่
ยางสนามทุกยี่ห้อ คู่ล่ะ15,000 x 9 =  135000บาท ค่าของผม2ปี
แล้วถ้าเป็นยางถนนกึ่งเรซล่ะ 1 คู่ใช้ได้ 3หมื่นกิโล ผมเอาแค่2หมื่นพอละกัน 1แสนกิโล = 5 คู่
ราคา11,000 x 5 = 55,000บาท
ส่วนต่าง 80,000 บาท ซื้อ Click150 ขี่เล่นได้คันนึงเลยนะ
เห็นมั้ยครับ ต่างกันเยอะนะ
เลือกซื้อยางให้ถูกประเภท ได้ทั้งคุณภาพและราคาคุ้มค่านะครับ
เพราะงั้นการที่ผมมีความรู้เรื่องยางนี้ ผมก็จะสามารถตอบคำถาม ช่วยเหลือคนอื่นได้
เอาล่ะครับ แนะนำตัวไปจบแล้วนะครับ
เล่าเหตุผลที่ผมตัดสินใจทำงานนี้ไปแล้ว
ก่อนจะเริ่มเล่าการเดินทางขอให้ความรู้เรื่องยางกันก่อนนะครับ คนอ่านจะได้เข้าใจว่า ทำไมผมเลือกเทสยางตัวนี้
ก่อนอื่นยางมีกี่ประเภทที่เกี่ยวข้องกับพวกเรานะ ไม่พูดทั้งหมด พวกยางวิบาก ทัวริ่ง อะไรพวกนี้ผมยังไม่มีความรู้และประสบการณ์ตรง 
1.ยางถนนล้วน เช่น คอนติโรด ยางดันลอปสปอร์ตแม๊กD214 เป็นต้น
2.ยางสนาม พวกพิรารี่สายฟ้า บริดจสโตนrs11 ดันลอปอัลบีเท็น มิชชะลินพาวเวอร์คับ เป็นต้น
3.ยางถนนกึ่งสนาม เช่น พิรารี่รอสโซ่ ดันลอปอัลฟ่า บริดจสโตนS22 คอนติแอคเท็ค เป็นต้น
ยางถนนใช้ยังไง ก็ใช้งานทั่วไปครับ ขี่ไปทำงาน ขี่ไปเที่ยว ขี่เรื่อยๆขี่หวานเย็น ขี่แบบค่อยๆทำ ค่อยๆโค้ง พอได้ เอาให้เข้าใจว่ายางถนนน่ะทำให้มามีอายุการใช้งานที่ยาวนานและราคาต่ำที่สุดเท่าที่ทำได้ เพราะงั้นก็ต้องเข้าใจและยอมรับมันว่า เราซื้อมาเพราะอะไร จะเอาไปใช้งานให้มันเกิน
มันก็จะเป็นภัยแก่ตัวเราเองนั้นล่ะครับ
สมมุติยางถนน 8000บาทใช้ได้ 40,000กิโลแล้วกันนะครับ
ยางสนาม ยางสนามจุดเด่นคือความนิ่ม เอาพูดกันแบบบ้านๆนะถ้ามีเงินเหลือก็ซื้อได้เลยไม่ต้องลังเลอะไร จุดอ่อนยางสนามบนถนนจะมีแค่3ข้อครับ
-ยางนิ่มก็จะทำให้มันเกิดแผลได้ง่ายกว่าและโครงสร้างยางอาจเสียหายได้ถ้าโดนกระแทกที่แบบรุนแรงเกินไป ต้องคิดอย่างเข้าใจนะครับในสนามมันไม่มีวิ่ง140-150แล้วตกหลุมอะไรแบบนั้น
-ยางนิ่มเลยหมดไว หมดไวจริงๆ5555+
ก็นั้นละมีเงินเหลือก็ไม่มีปัญหาแต่ถ้าเราสามารถเลือกยางให้เหมาะสมกับการใช้มันก็ดีกว่าใช่มั้ยล่ะ
-ยางสนามก็ถูกออกแบบให้ใช้ในสนาม ลายยางไม่ได้ออกแบบลายมาให้รีดน้ำรีดฝุ่นได้ดี เพราะงั้นในถนนจริงที่เราไปเจอทั้งดินแดงบนถนนอย่างทางเข้าสวนของชาวบ้านน่ะ แล้วก็พื้นเปียกอีก
ยางสนามเขาออกแบบมาแยกกัน ยางสนามแห้ง กับ ยางสนามเปียก แบบmotogpเห็นมั้ย เพราะงั้นการใช้ยางสนามแบบถนนบางทีมันก็ทำให้เราไม่มั่นใจในทุกสภาวะที่เราต้องเจอ เอาแค่ฝุ่นกับพื้นเปียกนี้ละ2เรื่องพอละ
ยางถนนกึ่งสนาม ก็ใช้ได้เหมือนยางถนนทุกประการแต่จะรองรับการขี่แบบเรสซิ่งเข้ามาด้วยราวๆ30%
หมายความว่า สำหรับคนที่ขี่รถมาสักพักแล้วเริ่มแบนโค้งเป็น เริ่มฝึกขับขี่ในสนาม จะต้องใช้ยางกึ่งเรซเป็นต้นไปแล้วนะครับ การใช้งานยางกึ่งเรซจะทำให้การขี่ถนน ยกระดับขึ้นไปอีกขั้น สามารถหวดโค้งได้ ขี่เอาจริงเอาจังได้ พวกชอบเล่นโค้งเราเข้าใจกันดี
ในส่วนนี้นะต้องบอกอย่างตรงไปตรงมาว่า พวกเพื่อนๆที่ขี่สายชิลด์ๆค่อยๆขี่ ค่อยๆเลี้ยวโค้ง ยางกึ่งเรซนี่ก็ถือว่าควรใส่นะ เพราะมันจะช่วยเซพเวลารถเลี้ยว พวกเพื่อนๆที่เป็นสายขี่ชิลด์มักคิดว่าตัวเองขี่ไม่แรงก็เลยไม่เป็นไรหรอก แต่จริงๆไม่ใช่เพราะว่าสายชิลด์เนี่ยะมักชอบแบกน้ำหนัก บรรทุกสิ่งของเยอะ เพราะงั้นยางถนนกึ่งเรซแบบ S22 ที่มีการเสริมโครงสร้างผ้าใบให้แข็งแกร่ง ก็ถือเป็นสิ่งจำเป็นนะครับ อย่ามองในแง่ว่าเราไม่ได้เล่นโค้งก็เลยไม่จำเป็น
สรุปโดยรวมผมอยากเอายางถนนกึ่งสนามไปหวดโค้งบนภูเขา ที่พร้อมเจอดินบ้าง เจอน้ำบ้าง (ปกติขี่เหนือทีไรก็ยางสนามตลอดเลย)
เพื่อหาประสบการณ์ในการเอามาเล่าครับ
เราเริ่มเดินทางกันเวลา 22.00 น. ของวันที่ 3 ต.ค. ออกได้ชั่วโมงเดียวก็โดนเลยครับ
รอผมด้วยพี่โอมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม เบิร์กแมนพี่650cc จริงป่ะเนี่ยะะะะะะะะะะะะะะะะะะะ
ที่ชวนออกดึกๆเพราะมันไม่มีรถ จะได้ขี่ยังงี้ใช่มั้ยยยยยยยยยยย
คืนแรกเราตั้งใจจะไปนอนที่ จ.ตาก เพื่อออมแรงเอาไว้ขึ้นเขาแม่สอดในวันรุ่งขึ้นครับ
ทั้งFCหมีโอม และFCหน่อยโซ่ตึง พอรู้ว่าผม2คนทำงานนี้ด้วยกันต่างก็เฝ้าดูเรื่องราวของพวกเรา2คน ไม่ได้ติดเรื่องยางนะ
เขามารอดูว่าจะหมี่เหลืองกันคืนไหน 55555+
#ชุดนอนผมครับ #ฝันไปเถอะลูกมีพ่อมีแม่เฟร้ย
เช้าวันรุ่งขึ้นพวกออกเดินทางจากที่พัก เวลา09.00 น. ถึงสามแยกแม่สอดทีไร ใจมันเต้นทุกที
รถก็พร้อม ยางก็พร้อม คนขี่ก็พร้อม หึ๊ยยยยยยยยย..........
ไปเถอะพี่โอม ถ่ายภาพอยู่นั้นละปั๊ดโถ๊ววววว
ขี่มาได้20กิโลก็ หวดโค้งยับๆเลยครับผม 55555+
ท้องฟ้ามันสวยจอดเอาภาพกันหน่อย ยะฮู๊ววววว ชอบในความเที่ยงๆบ่ายๆแต่อากาศไม่ร้อนของทางเหนือมากเลยคร้าฟผม
ผมหวดโค้งลากยาวไปจนถึงเนินพิศวงด้านบนเลยครับ
ไม่พักเลยเมามันส์กับฟิลลิ่งยางS22มาก
ในเมื่อยางมันไม่ดิ้นผมก็กดให้ยับ สงครามไม่มีคำว่าปรานี
พอถึงเนินพิศวงเท่านั้นละเมาโค้งเวียนหัวตุ๊บๆ หูนี่วิ้งเลยครับ 5555555+
เสียเชิงนักซิ่งแห่งขุนเขาหมด
บอกตรงๆผมไม่รู้เลยว่า แต่ล่ะวันแต่ล่ะคืนจะไปถึงไหนและนอนที่ไหน
ผมเคยมีประสบการณ์การขี่วันละ8-9ร้อยโลมาหลายครั้ง
ผมเลยพร้อมจะขี่เท่าไหร่ก็ได้ที่ หมีโอมเขาอยากไปทริปนี้ผมทำหน้าที่แค่ขี่ให้เต็มที่เสพฟิลลิ่งของยางให้สุดใจแล้วก็เขียนหนังสือให้คนที่ติดตามผลการเทสได้อ่าน
ทุกอย่างหมีโอมเขาจัดการหมด เป็นพี่ชายที่น่ารักดี ไม่เคยขี่ด้วยกันมาก่อนนะแมทซ์นี้แมทซ์แรกเลยครับ (แอบดันตูดกันบ่อยเลยนะ ลองของๆ)
ทำเอาผมว้าวเลยทีเดียว สกิลการขี่หมีโอมไม่ธรรมดานะ
ผีสปอร์ตอย่างผมก็ยอมแพ้เหมือนกันในบางทำเลที่รถเขาได้เปรียบ
ขี่ไปก็จอดเก็บภาพไปเรื่อยๆครับ
ดูสายตาผมสิ...... ทำหน้าแบบว่า จอดถ่ายภาพอีกละ!
หมีโอมก็บอกว่า กูก็มาทำงานนนนนนนนนนนน
ผมก็บอกว่า แต่ผมมาขี่รถถถถถถถถถถถถถถ
55555+
โดยส่วนตัวผมน่ะชอบที่นี้มากๆเลยครับ ทุกที่ที่ผมเคยไปมาผมชอบถนนของแม่ฮ่องสอนกับน่านที่สุดเลยครับ
ถนนมันขี่สนุกมากๆ
ภาพปีก่อนๆครับ
แม่ฮ่องสอน
อันนี้เหตุผลส่วนตัวน่ะครับเพราะเป็นคนชอบภูเขาอยู่แล้ว
แล้วพอมาขี่บิ้กไบค์ก็ชอบเล่นโค้งเลยกลายเป็นความชอบที่ลงตัวพอดี
กลางวัน วันที่ 4.ต.ค. เป็นขาขึ้นเขาล้วนๆ ผมก็หวดโค้งมาตลอดทางทำความคุ้นเคยกับยางS22 ไปเรื่อยๆ
ผมชอบนะ และที่สำคัญในเมื่อยางมันไม่กระดิก ไม่ออกอาการ มันทำให้ความหวาดระแวงไม่เกิดขึ้นในใจผม
ทำให้ผมสามารถขี่ได้อย่างสบายใจ ใจผมมันเคลียร์มากๆๆๆ ขี่ฟินมากครับ
เดี๋ยวช่วงท้ายกระทู้แนะนำเทคนิคการขี่ให้นะครับ
 
และแล้วความยากของการเดินทางก็เริ่มอุบัติ เอ...ข้างหน้ามันฟ้าขาวๆนะ
นั้นไงงงงงงงงงงงงงงงงงง พายุเข้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา จบแล้วการเล่นโค้งของฉันกับยางS22
ก็ดีนะ มาสิ จะได้รู้ว่ามันจะลื่นมั้ยยังไงความเร็ว70-110 แล้วแต่ระนาบพื้นถนน
ก็ปรากฏว่าไม่มีอาการนะ พอยางไม่มีอาการผมก็ขี่ชิลด์ๆได้แบบสบายใจ ไหลๆเลี้ยวโค้งไปเรื่อยๆ (ไม่แบนโค้งนะ)
ปกติแล้วผมจะมาที่นี่เฉพาะฤดูหนาว นั้นคือผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า ข้างทางมันมีน้ำตกด้วย!!!
จนมาถึงน้ำตกที่พวกสองล้อเขามาทำชาเล้น เล่นน้ำกันตรงนี้
เดินทางต่อมาอีกซักระยะหมีโอมก็พาผมเลี้ยวลงข้างทาง
โบกให้ผมจอด แล้วถามผมว่า "หน่อยเชื่อเรื่องคอมม่อนเซ็นส์มั้ย"
ผมก็มองหน้าแล้วเลิกคิ้ว อีหยั่งวะ!? คอมม่อนเซ็นส์
หมีโอมชี้ไปที่วิวกลางทุ่งนา เขาบอกว่าพี่จะพาหน่อยไปถ่ายรูปตรงนั้นนะ แล้วก็ขี่รถนำไปเลย
ลัดเลาะไปตามทางแคบๆ ผมก็ตามเขาไปอย่างว่าง่าย จนไปเจอจุดนี้
มันเป็นนาข้าวธรรมดาๆนี่ละครับ แต่พอมองไปรอบๆแล้วมันมีภูเขาล้อมรอบเหมือนกับว่า เรากำลังยืนอยู่กลางกะทะที่มีขอบกะทะเป็นภูเขา
โอโห....วิวนี้กำไรชีวิตจัดๆเลยครับผม เสร็จแล้วก็...... ย้อนครับ5555+
ไปต่อไม่ได้ต้องย้อนกลับทางเก่า
คืนแรกเรานอนกันที่แม่สะเรียง โรงแรมชื่อมิตรอารี มีบริการหมอนวดแผนไทยด้วยนะครับ
จัดสิครับ รออะไร
หมอคร๊าาาาาาฟฟ ผมโดนเบิร์กแมนรังแก ปวดขาไปหมดแย้วววว #อ้อนจัด555+ (ใครจะไปนอนที่นี้ก็บอกนะผมมีไลน์หมอคนนี้อยู่)
โปรแกรมเช้าวันที่ 5 คือขี่ไปเรื่อยๆเหนื่อยก็พัก เพราะระยะทางจากแม่สะเรียงไปปางอุ๋ง มันไม่เท่าไหร่ 200กิโลหน่อยๆ ชิลด์ๆ
ก็ขี่ไปเรื่อยๆจริงๆนะ ขี่ๆจอดๆไปเรื่อยเลยครับวันนี้ อากาศดี แดดไม่ร้อน อากาศไม่หนาวเกินไป เย็นนิดหน่อยแต่ชุดที่ใส่ก็ทำให้มันอุ่นพอดีๆ
โอ้ย อยากจะอยู่ตรงนี้ตลอดไปไม่ต้องกลับบ้านไปทำงานทำอะไรอีกแล้วววว #เริ่มงอแง555
และนี่คือจุดชมวิวประจำของผมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม
ไม่ว่าจะมาปีล่ะกี่รอบก็จะนั่งอยู่ตรงนานเป็นชั่วโมงๆๆๆทุกครั้งเลยคร้าฟ
ผมชอบจุดนี้มากๆ จุดชมวิวแม่ลาหลวง
ผมยังไม่ใช่คนเขียนกระทู้รีวิวการท่องเที่ยวที่ดีและไม่เคยคิดทำแนวนี้เลย ผมเป็นสายขี่ให้พูดเรื่องรถพูดได้ทั้งวัน ให้พูดเรื่องที่พักที่ชมวิวไม่ถนัดเลย แหะๆ ก็ต้องบอกกันตามตรงนะครับว่านี่เป็นครั้งแรก ที่ผ่านมาผมฝึกเขียนแต่เรื่องเทคนิคการขี่รถน่ะครับ
ยังไงก็ต้องขออภัยคนอ่านด้วยนะครับ
จากจุดชมวิวนี้ไปต่ออีกสักพักก็มาถึงแม่ฮ่องสอนจุดรับสติ้กเกอร์ ผู้พิชิต1864โค้ง
ตอนแรกว่าจะไม่แปะแล้วละ แต่คิดว่าถ้าแปะแอบๆไว้แล้วมีคนรู้จักมาเห็นคงทำให้เขาตื่นเต้นดี
เฮ้ย!นั้น logo พี่หน่อยโซ่ตึงนี่หว่า ไรงี้
ขี่รถมาอีกหน่อยก็ถึงทางเข้าปางอุ๋ง
ทางขึ้นปางอุ๋ง ก็ชันไม่แพ้พวกทางขึ้นภูทับเบิก ผมมาหลายรอบแล้วก็แน่นอนว่าโครตพร้อมจะขี่แบบไม่ธรรมดา 55555+
ธรรมดามันไม่เร้าใจโผมมมมมม ขี่ขึ้นมือเดียวเลยจ้ะ
ที่ทำยังงี้ไม่ได้ทำเอาเท่ หรือ ทำเอาบ้าพลังนะ
ที่ทำยังงี้เพราะต้องการ เค้นยางให้มันแบกรับภาระในการเลี้ยวแบบใช้ขอบยางเลี้ยว
คือยังงี้นะครับ ปกติการขี่ทางโค้งเราก็คุมแฮนด์ด้วย2มือและช่วยร่างกายในการช่วยเลี้ยว หรือจะนั่งตัวตรงก็แล้วแต่
เราทำสิ่งนี้โดยธรรมชาติแบบไม่รู้ตัวและไม่เคยแยกจังหวะของการกระทำนี้
ลองปล่อยมือดูครับ เดี๋ยวรู้เลยว่า โอโห...มันคนล่ะมิติเลยนะ
การขี่มือเดียวทำให้ล้อหน้าแกว่งง่ายมาก
ทำให้รถโยกทั้งคัน เพราะล้อหน้าโยกไปๆมาๆ ตามแรงการกระทำ
เบรคหน้าก็ทำให้รถส่าย
เชนเกียร์ก็ทำให้รถส่าย
ปกติเราจับแฮนด์สองมือน้ำหนักมันบาลานซ์ อาการพวกนี้เลยไม่เคยออก
*หมายเหตุ ผมเคยฝึกการขี่แบบนี้มาเยอะมากแล้ว ระวังอย่าไปเลียนแบบโดยไม่ผ่านการฝึกนะครับ
ตัวผมเคยฝึกเพื่อลงแข่งจิมคาน่ากับHonda ก็เคยฝึกบาลานซ์ด้วยการวนกรวยมือเดียวมาแล้ว
การขี่มือเดียวนั้นการเลี้ยวจะต้องพึ่งพาหน้ายางขอบยาง ต้องเชื่อใจยางมากๆถึงมากที่สุด เพราะไม่สามารถใช้องค์ประกอบอื่นๆช่วยในการพารถเลี้ยวได้แบบปกติ ซึ่งคลิปนี้ยาว8นาที ขี่จนหมดทางชันที่สุดไปแล้วก็เลิกถ่าย การขี่นี้ทำให้ผมหมดความสงสัยในตัวยางS22 ล่ะ (ในโหมดพื้นถนนแห้ง ผมพอใจละในการเทสล่ะ พรุ่งนี้ขาลงผมพร้อมหวดแน่นอน)
ปางอุ๋งเป็นอีกทีที่ผมชอบ ผมชอบกลิ่นน้ำ กลิ่นหญ้า กลิ่นความชื้นของที่นี่มากๆ
มันก็คล้ายๆภูทับเบิก ภูเรือ ภูกระดึง หรือดอยอื่นๆนั้นละ
ผมก็ชอบหมดแหละ ฮ่าๆ
แรกๆผมมีโมเม้นว่า บรรยากาศและวิวต่างๆน่ะมันคือรางวัลของความเหน็ดเหนื่อยที่ดันด้นขี่รถมาจนถึงที่นี่
แต่พอไปบ่อยๆเข้า ฟิลลิ่งวิว= รางวัลมันก็หายไป
จนนำไปสู่คำถามว่า หน่อยไปที่เดิมๆไม่เบื่อบ้างเหรอ เห็นไปเรื่อยเลย
ผมก็ตอบไม่ได้ ผมตอบได้แต่ว่าผมชอบอ้ะ ผมชอบระหว่างการเดินทางมากกว่าปลายทาง
และแน่นอนที่สุดมาปางอุ๋งสิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือ หมูกระทะ 5555555555555555+
ตื่นเช้ามา ฝนตกจ้ะ ฝนตกพร่ำๆ ไม่หยุดตั้งแต่เมื่อคืน
ในระหว่างที่กำลังตัดสินใจกับหมีโอมว่าจะเอาอย่างไรจะรอฝนหยุดมั้ยหรือจะไปเลย
ดูนาฬิกาก็10.00น.เข้าไปแล้วระหว่างที่กำลังตัดสินใจก็ขอจัดหนักกับหมั่นโถวก่อนละกัน
หมั่นโถวของที่นี้กับที่หยุนไหล ผมชอบที่สุดล่ะ อร่อยดี
ผมเป็นมาแชลส์ของน้องๆ นำกลุ่มวิ่งมานานหลายปี ผมมองสีหน้าหมีโอมแค่แว๊บเดียวผมก็รู้ใจเขาทันที
เพราะทริปนี้เขาเป็นเจ้าของงาน ผมจึงได้ออกปากไปว่า
พี่โอมฟังนะ...เรา2คนไม่รู้จักกันดีนัก เรา2คนไม่ได้รู้สกิลการขี่รถกันเพราะเพิ่งวิ่งกันครั้งแรก
ผมจะบอกพี่ว่า พี่ผมใช้อัตตาในการขี่รถ ไม่ใช้อารมณ์ ไม่ได้มีความอยากแสดงออกให้รุ่นพี่ยอมรับจนต้องทำอะไรโง่ๆควายๆเป็นภัยแก่ชีวิตตัวเอง
จงอย่างเกรงใจผมเพราะฝนตก จงทำและตัดสินใจในสิ่งที่จะดีต่องานที่สุด ผมพร้อมที่จะขี่ตามพี่ในทุกสภาพ แม้แต่จะต้องลงเขาในสภาพน้ำไหลยังงี้ก็แล้วแต่ ผมเอาตัวรอดได้สบายมาก
ถ้าผมไม่ไหว เดี๋ยวผมจอดเอง แต่พี่เชื่อเถอะ สบายๆ
พูดไปยังงั้นหมีโอมก็ตัดสินใจได้ทันทีสั่งซื้อชุดกันฝน อ้าว...เอาจริงเลยหรอ
เดี๋ยวๆๆน้องปากดีไปเท่ๆงั้นเองนะ 55555+
เอ้า!! เอาก็เอาวะลุยโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย จะมาเสียเวลาเพราะเกรงใจกันไม่ได้ เรามันมืออาชีพ หมีโอมมมมมมมมมมมมมมมมม
อือหือ...ตอนพูดก็ฮึกเหิมดีอยู่หรอก 5555+ ตอนขี่ลงปางอุ๋งไปพร้อมๆกับน้ำปริมาณมากๆที่ไหลไปตามความลาดของถนนนี้สิ
ขนลุกเลยโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ถามสิว่า เก๋าๆอย่างหน่อยโซ่ตึงกลัวมั้ย.... กลัวดิคร้าฟ 5555555555555
แต่จากการขี่ก็ปรากฏอาการไม่ออกเลยแหะ ไม่ลื่น ท้ายไม่ปัด ไม่อะไรเลย
เออ....ยางมันทำได้ดีจริงๆ เอาวะลองเพิ่มความเร็วหน่อย ก็ขี่ไหลๆลงมาเรื่อยๆทำความเร็วได้60-70เลย 90ก็มี
2อย่างที่ยางS22มี และใช้รับมือเหตุการณ์นี้
ส่วนเรื่องลุยฝนนี่โดนเกือบทุกวันตลอดทริป ผมโพสคลิปผมลงจากปางอุ๋งฝนตก ก็เป็นอะไรที่คนดูหน้าเฟสเสียวใส้ไปตามๆกันแล้ว
ปางอุ๋งนั้น เป็นโครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง) จังหวัด สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 1,200 เมตร
ถ้าใครนึกภาพไม่ออกลองเทียบความสูงกับสถานที่พวกนี้ดูนะครับ
ภูทับเบิก 1768 เมตร
เขาเขียว 1290 เมตร
ภูกระดึง 1316 เมตร
ภูเรือ 1365 เมตร
เป็นต้น
ซึ่งผมไปมาหมดแล้ว ทุกสถานที่เอาจริงผมไม่เคยไปเด็ดขาดถ้าเป็นฤดูฝน
แต่ทริปนี้คือมาเทสยางก็เลยจัดทริปมาให้โดนพายุ เต็มๆ= =a เสี่ยงชีวิตไปมั้ยนะ 5 5 5 5+
ก็ด้วยสูงระดับนี้ ทำให้ทางลดมีความลาดชันเยอะมาก แล้วน้ำฝนก็ไหลลงไปพื้นถนนเหมือนน้ำตกเลย
แล้วผมก็วิ่งลงไปกับน้ำในสภาพนั้นเลย ซึ่งยางS22มีทั้งส่วนผสม ซิลิกา(Silica)เป็นสารประกอบที่สำคัญตัวหนึ่งในเนื้อยางเลยทีเดียว ซิลิกา(Silica) เป็นสารประกอบที่สำคัญในการทำให้เกิดคุณสมบัติที่ยางที่ดีหรือเรียกว่า magic triangle เป็นนิยามที่เรียกคุณสมบัติที่พึงประสงค์ของยางรถยนต์ นั้นคือ การต้านทานการสึกหรอ ,ลดแรงต้านการหมุน ,และการเกาะถนนบนถนนเปียก ซิลิกา(Silica) เป็นคำตอบของการเพิ่มคุณสมบัติได้อย่างชัดเจน
แถมยังมีการออกแบบลายยาง 3 มิติที่ช่วยการรีดน้ำอีก
ก็ผมทำการบ้านกับผู้จัดการสโตร์ของบริดจสโตนก่อนมาตามที่โพสภาพไปรอบก่อนนั้นละ
ผมก็มีความมั่นใจแล้วประมาณนึง ว่ามันจะน่าจะทำได้นะ ขี่ลงเขาตอนน้ำไหลๆฝนตกๆเนี่ยะ
แต่ผมก็ไม่ได้มั่นหน้าขี่ไปเลยนะ ผมก็ค่อยๆขี่ไป ค่อยๆเพิ่มSTEPการขี่
โดยรวมผมใช้คำว่า ยางมันไม่ออกอาการเลยทำให้ผมไม่ระแวง พอไม่ระแวงก็สามารถขี่รถได้เรื่อยๆโดยไม่เครียดไม่หวาดระแวง ไม่เกร็ง ร่างกายก็ไม่อ่อนล้าจากการขี่
ซิลิกา กับ ลายยาง3มิติ ผมนี่ WOW! เลยครับจากที่เทสมากับตัวเอง
ลงมาถึงพื้นข้างล่างแล้วววว ขอสักภาพเป็นการบันทึกเหตุการณ์ในครั้งนี้
ถามสิว่าให้ไปทำอีกรอบเอามั้ย ไม่เอาแล้ว5555555555555+
แต่ชีวิตจริงมันหลีกเลี่ยงไม่ได้หรอกนะ ถ้าเกิดฝนจะตกตอนไหนน่ะ 5555+
ลงมาถึงข้างล่างแล้วววววว เซลฟี้กันหน่อยยยย
ออกจากปางอุ๋งก็ลองแว๊บเข้าไปดูก๋วยเตี๋ยวห้อยขาจ่าโบหน่อย เห็นว่าดินถลมปิดกิจการอยู่เปิดรึยังไม่รู้
โชคดีจังเพิ่งเปิดบริการได้3วันที่แล้วนี่เอง ก็ได้นั่งชิลด์ๆพักอารมณ์กันไป
ผมดึงเวลาตากรองเท้า ตากเสื้อผ้าด้วยละ ขนาดใส่รองเท้าPamaboที่กันน้ำได้มานะก็ยังไม่รอดเลย น้ำมันเยอะจริงๆทริปนี้ หลอกล่อให้พี่โอมแกถ่ายภาพไปเรื่อยเปื่อย อิอิ
ปกติจากปางอุ๋งก็จะไปนอนที่ปาย แต่หมีโอมสกิดว่าคืนนี้นอนที่เชียงราย....
หะ??? เดี๋ยวนะๆ เชียงรายเลยเหรอพี่
เฮ้ยย........พี่โอมมึงบ้าแล้วววววว นี่อยู่จ่าโบ13.00น.แล้วนะ
กว่าจะผ่านปาย ลงเชียงใหม่ ต่อไปเชียงรายอีก เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!
แต่ปากดีไปแล้วไงกลับลำไม่ทัน เอางานเป็นหลักไม่ต้องเกรงใจผม ก็ตามนั้น
ขนาดรีบๆนะก็ยังแวะถ่ายภาพ 555+ ใช้เวลาไปกับการถ่ายภาพแล้วพอเดินทางก็ขี่เร็ว จิ๋บหายยยเลยยยย
จนที่สุดก็มาถึงแม่สลอง เชียงรายจนได้เวลาประมาณสี่ทุ่ม
คุณจำหน้าตาโรงแรมนี้ไว้นะ มันมีน้องรีเซพชั่นคนนึงที่พูดไวมากๆเหมือนแรปเปอร์เลย
ใครไปนอนที่นั้น ลองไปนอนที่นี่ดูนะครับ
ตอนไปถึงมันมืดก็เลยไม่เห็นวิวอะไร
แต่ที่พักสวยมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ห้องแบบนี้อยู่พัทยานี่คือ2500+ เลย
ผมชอบบรรยากาศที่ทานอาหาร โรงเตี้ยมนี้มากๆๆๆๆๆ
พอฟ้าสว่าง ตื่นเช้าขึ้นมาผมนี่เหงาจับหัวจิตหัวใจขึ้นมาเลยครับ
"ภาพวิวจากหน้าต่างที่ตาเห็นมันสวยจนใจผมทรมาน"
ไม่ควรเลย ไม่ควรเลยที่จะมาสถานที่แบบนี้โดยไม่มี คู่ มาด้วย
ระหว่างกินข้าวเช้า หมีโอมชี้พิกัดว่า เราจะไปตามล่าโค้งเลข3และนอนที่ตัวเมืองน่าน
ผมก็ เฮ้อ.....เอากูมาทรมานแท้ๆเลยนะนี่นะ 5555+
ขี่มาอย่างเหงาๆ จนถึงจุดนี้ครับ
ซึ่งตรงเนี่ยะผมเคยมาแล้วเมื่อ3ปีก่อน ผมเคยมาทำอะไรประหลาดๆไว้แถวๆนี้ ผมจำโลเคชั่นได้แม่นเลย
เห็นวิว เห็นแนวภูเขาผมก็จำได้เลยว่าใช่แน่ๆ ผมเคยมาทำคลิป ดับเครื่องลงเขาไว้ตรงนี้ 55555+
*อันตรายถึงชีวิตนะครับ ดับเครื่องใส่เกียร์ว่างไหลลงเขา แหกโค้งตายเอาได้ง่ายๆเลยนะครับห้ามเลียนแบบเด็ดขาด
และแล้วก็มาถึงโลเคชั่นที่ผมดับเครื่องลงเขา ซึ่งในจังหวัดน่านในZONEนี่คือส่วนที่ถนนโค้งสวยที่สุด ดีที่สุด เล่นได้มันส์ที่สุด
นี่คือสถานที่ ที่ผมเทสยางได้เต็มที่เลย ทั้งหมดของทริปนี้ นี่คือจุดที่ทำให้ผม รักหมดใจกับยางS22ตัวนี้เลยครับ
ภาพนี้ก็อย่าเลียนแบบนะครับ ขี่จนหมดขอบเนี่ยะไม่ใช่เรื่องที่นักขี่ควรทำนะครับ แต่ผมมาเทสยางนี่นะก็ต้องหวดให้ยับเยินกันไปข้างนึงนั้นล่ะ
พูดแบบพวกบ้าโค้งเขาพูดกันก็คือว่า "สะใจ" อ้ะครับ 5555+
ในส่วนในการเทสทดสอบยางมันก็สิ้นสุดลงตรงนี้ครับ ต่อจากนี้ก็ขี่หวานเย็นเดินทางกลับบ้านล่ะครับ แต่ความมันส์ก็ยังไม่หมดไปจากใจนะ
พูดไปใครจะเชื่อขากลับผมเลี้ยวเข้าสนามไทยแลนด์ไปในสนามอี้กกกกก5555555
ทำเวลาไว้ 2.08น.
เรียกได้ว่า มาเทสยางบ้านช่องไม่กลับกันเลยทีเดียวล่ะครับ 5555+
รวมสรุปทริปนี้ 3-9 ต.ค. 2,500กว่ากิโลเมตร ได้ขี่ครบทุกสภาพที่คนใช้ถนนจะเจอในสภาพปกติ หมายถึงไม่ใช่ว่าขี่เข้าป่าด้วย ขี่ลงแก่งน้ำด้วยอะไรแบบนั้นน่ะ
ทริปนี้นะครับ
เหตุผลในการตัดสินใจไปรับงานนี้ก็คือ
1.ผมอยากได้ประสบการณ์จริงในการเอามาเล่าให้เพื่อนๆฟังเพื่อเป็นข้อมูลทำให้ชีวิตพวกเขาดีขึ้น
2.ผมมีความสงสัยส่วนตัวในเหตุผลที่คนขี่zx6rออกรถมาก็เห็นหลายๆคน เทขายติดรถทิ้งกันในราคาถูกมากๆ3000-4500บาท
การขี่ทดสอบที่ทำในทริปนี้คือ
1.วิ่งลุยฝน ขึ้น ลง เขา ครบ
2.วิ่งลุยถนนที่เปื้อนดินแดง
3.หวดโค้งถนนแห้ง
4.ขี่ถนนกึ่งแห้งกึ่งเปียก
ครบทุกสภาพจริงๆ ที่ปกติออกทริปเลย
มาสรุปข้อมูลยาง Brigdestone battlax Hyper sport S22 กันครับ
เรื่องการขี่นะครับ การขี่ขึ้นเขา
ทางขึ้นเขานั้นทั้งประเทศเหมือนกันเลยครับ ยังไงก็ต้องมีโค้งหักไปหักมา ไม่มีทางตรงยาวๆเพราะการทำถนนในถิ่นภูเขามันจะต้องทำยังงั้นครับ
ในการขี่ขาขึ้นเขานั้น ถ้าขี่ช้ามากจะล้มแปะเอาได้แบบ งงๆ เลยนะ ถ้าขี่เร็วไปก็จะคุมไลน์โค้งได้ยาก
การคุมไลน์สำคัญนะครับเพราะถ้าเลนสวน เราคุมไลน์ไม่ได้เราเสี่ยงโดนรถสวนชนเอานะครับ
เราจะต้องขี่เกียร์ กลางๆ อย่าต่ำมากและอย่าสูงมาก ความสนุกมันอยู่ตรงนี้ล่ะครับ
การคุมคันเร่งที่พอดีๆกับระยะของถนนและความลาดชันของถนน ผมบอกเลยว่า ขาขึ้นภูเขาเนี่ยะเป็นอะไรที่อร่อยมากสำหรับสายเล่นโค้งแบบเราๆ หากเราสามารถขี่แบบโค้งต่อโค้งได้อย่างสมูทมันจะสนุกมากๆเลยครับ
ลองนึกภาพตามนะครับ โค้งข้างหน้าเป็นเนินขึ้นหน่อยๆ เราบิดมา130+ ยกคันเร่งรถจะชะลอตัวด้วยเอ็นจิน+แรงโน้มถ่วงทำให้รถชะลอได้เยอะกว่าพื้นราบ เหลือซัก90-85 เราก็พารถเข้าโค้งไปแล้วแต่สไตล์เลยครับใช้ไลน์ไหนก็ได้
จะเข้านอกออกใน เข้าในออกนอก ก็ได้หมด ขาขึ้นเขาคุมไลน์ง่ายมากๆ เพราะยังไงความเร็วก็ขาดแน่นอน
เพราะงั้นเราจะอยู่ในสภาพแบนรถลงไปแล้วความเร็วไม่พอ เราก็บิดคันเร่งดันรถออกจากโค้งไป
ซ้ำไปซำมา พลิกซ้ายพลิกขวา ไปเรื่อยๆ หุยยยย.....ฟินจัด ซึ่งตรงนี้ล่ะครับเป็นหน้าที่ของยาง
ฟิลลิ่งของยางS22 ในเรื่องผมบอกเลยว่า โครตสุดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ในการขี่แบบที่ผมเล่าไป ไลน์โค้งจะเป็นครึ่งวงกลมอยู่ตลอดเวลาครับ ซึ่งต่างจากการขี่ช้าๆ การขี่ช้าๆเราจะขี่ชิดซ้ายได้ตลอดเลย ไลน์มันจะทื่อๆหรือที่นักแข่งเรียกว่า “ไลน์กอดโค้ง” ซึ่งจะเป็นการเข้าโค้งโดยเลี้ยวไปตามรูปถนนพร้อมกับลดความเร็วลงไปเรื่อยๆ
แต่ไลน์ที่ผมขี่ ที่ผมเล่านี้จะเป็นไลน์แบบกึ่งเรซซิ่งเลย ครึ่งวงกลมไปเรื่อยๆโค้งต่อโค้งไปครับ แน่นอนว่าการเล่นโค้งแบบนี้
ภาระตกที่ยาง ตรงนี้ล่ะที่S22มันสุด เพราะS22 มันให้ขอบยางความนิ่มระดับซอฟมาเลย ทำให้มันเราสามารถขี่ยังงี้ได้โดยไม่ต้องกลัวว่ายางจะลื่นหรือรับไม่ไหว (แต่ก็ดูพื้นถนนด้วยน้าว่ามีอะไรเปล่า ไม่ใช่หวดไปโดนรอยปะถนนเข้านะ55555+)
ในวันแรกๆที่ผมขี่ขึ้นเขาแม่สอด ผมก็ยังไม่ได้โหดมากหรอกครับ ค่อยๆขี่ไป เทสยาง จับความรู้สึกไปเรื่อยๆ พอผมมั่นใจว่ายางมันทำได้ ผมก็ถึงหวดเต็มมือจริงจัง ซึ่งยางรับได้หมดทุกท่าที่ผมทำครับ
ลองนึกภาพนะครับ ผมอัดขึ้นเนินมา140 ถึงโค้งยกคันเร่ง ผมปาดจากนอกไปในเอียงรถไปตามไลน์ครึ่งวงกลม ปลายเท้าเกือบโดนพื้น แต่ไม่โดน ขอบยางยังเหลือ มันจะได้ฟิลแบบสุดแล้ววววววววววววว
หรือบิดขึ้นเนินมามองโค้งไม่เห็นครับ เนินบังตาพอพ้นเนินปุ้ประหลาดลงนิดนึงแล้วหักขวาทันที พอพ้นเนินมาผมเห็นโค้งหักปุ้ป ผมเชน2เกียร์แล้วรีบเอารถลงอย่างเร็ว ยางS22มันก็ยึดถนนอยู่ ในเมื่อมันเอาอยู่ผมก็หวดไปได้เลยไม่ต้องคิดอะไร
ซึ่งในกรณีนี้น่ะ บางครั้งถ้าผมไม่ชัวร์ว่ายางมันจะรับไหว ผมจะตัดสินใจเบรกให้ความเร็วเหลือน้อยๆแล้วค่อยเข้าโค้งไป
มันก็จะเป็นอะไรที่แบบเซ็งหน่อยๆ คนกำลังโค้งต่อเนื่อง ต้องมาชะลอรถ วู๊....เสียเชิงหมด5555+
ขาขึ้นเขาเนี่ยะ ขอบยางรับภาระแค่การเอียงรถเยอะเฉยๆ
แต่ขาลงเขาเนี่ยะ สุดกว่าอี้กกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
การขี่ลงเขานั้นรถจะไหลมาเร็วมากน้อย ตามความลาดชันของถนน+แรงโน้มถ่วงของโลก+น้ำหนักตัวรถ เพราะงั้นยางจะรับภาระทั้งการเอนจินตลอดเวลา ทั้งการเบรก เชนเกียร์ และการเลี้ยว
เคยสงสัยมั้ยครับ ทำไมขาขึ้นเราไม่ค่อยลื่นเลย ทำไมขาลงเราลื่นง่ายจัง นั้นละครับมันคือผลของแรงส่งทุกอย่างที่พูดไป
เริ่มจาก น้ำหนักตัวรถ +ความลาดชัน+องศาของโค้งที่รถต้องเลี้ยว = ภาระที่ยางต้องแบกรับ
ในส่วนนี้ยางS22 ไม่ออกอาการให้ผมเห็นเลย ใครดูผมหวดกับเบิร์กแมนก็คงได้เห็นกันแล้วละว่ามันสุดจริง ฮ่าๆ
เป็นเรื่องที่ดีจริงๆ ที่มันมีขอบซอฟมาให้ ผมนี่อย่างปลื้มเลยครับ
ส่วนพื้นราบไม่ต้องเล่าเยอะครับ หวดไปเลย 140-150ก็หวดไปเถอะ แล้วแต่สกิลคนขี่จะมีเลย ยางเอาอยู่สบายๆครับ
ฟิลลิ่งยางมันสุดจริงๆครับ โครตสุด
คำว่าโครตสุดในที่นี้ไม่ได้แปลว่าS22มันสุดที่สุดนะ ผมหมายถึงมันสุดแบบยางสนามทำได้ ถ้าพูดในสนามนะยังไงยางกึ่งก็แพ้ยางสนาม แต่ถ้าพูดบนถนน ยางสนามก็ใช้บนถนนสุดไม่ได้ ซึ่งความสุดไม่ได้นี่ล่ะ มันเลยทำให้สิ่งที่ทำได้ มันเจ๊ากันพอดีกับยางกึ่งเรซ
คนอ่าน งง มั้ยนะ
เปรียบเป็นคำพูดแบบนี้ครับ
ยางสนามผมขี่สุดไม่ได้ ทำได้แค่80% ต้องเผื่อลื่นเผื่อหลบอะไรในโค้งด้วยแล้วก็โถมตัวพารถเข้าโค้งลงลึกๆแบบขี่สนาม มันไม่ใช่อะไรที่ดีเลยบนถนน
ส่วนยางกึ่งเรซเพราะมันรอบรับการขี่แบบนี้ทำให้เราสามารถขี่ได้80%เหมือนกัน แน่นอนว่าเราเองก็ไม่คาดหวังจะใช้ยางให้เกินไปกว่านี้อยู่แล้ว
มันจึง เจ๊ากัน
ทดเรื่องคุณภาพในการขี่ใช้งานเจ๊ากันไว้ในใจก่อนนะ
มาต่อที่เรื่องของการวิ่งลุยฝุ่น ลุยดิน
เอาดินก่อน คือลักษณะภูเขาบนดอยน่ะครับมันจะเต็มไปด้วยสวนข้าวโพด สวนต่างๆ ซึ่งเจ้าของสวนจะมีการเอารถเข้าๆออกๆสวน ในเวลาที่ฝนตกรถของขาวสวนจะเหยียบดินแดงๆติดรถ ขึ้นมาบนถนนด้วย พอนึกกันออกใช่มั้ยครับ
นั้นละ ตัวดีเล๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ถ้าเป็นพวกยางที่ตรงกลางไม่มีลายหรือมีลายน้อยๆ บางทีมันก็ทำให้ล้อหน้าเราลื่นเอาง่ายๆเลยครับ เพราะยางเราวิ่งไต่ไปบนดินทำให้แฮนสามารถส่ายไปมาได้นั้นเอง
กรณียางที่ออกแบบลายมาให้ใช้งานถูกประเภทมันก็จะจมดินไปนั้นเอง ทำให้โอกาสลื่นน้อยกว่า
ลองนึกภาพง่ายๆเวลาเราวิ่งบนดินนิ่มๆ เราจะเห็นลายยางประทับอยู่บนดินใช่ป่ะ
นั้นละๆคือสิ่งที่แสดงออกว่ายางเราอะมันเวิร์คมั้ย
จากข้อมูลทั้งหมดที่พูดไปนี้นะครับผมจะสรุปให้ว่า (ด้านบนเขียนไปรอบนึงแล้ว)
สำหรับบนถนนยางกึ่งเรซเป็นตัวเลือกที่ดีสุดแล้ว แน่นอนว่าไม่ใช่S22 only คุณรักค่ายไหนก็เลือกเอาจากค่ายนั้นครับผม
เพราะอะไร? สมมุติผมจ่ายเงินซื้อยางสนามซึ่งราคาสูงกว่า คนอาจคิดว่า มันก็แค่ตอนซื้อ เช่น11000กับ15000ก็แค่4000ตอนซื้อ
จริงๆไม่ใช่ ถ้าคุณขี่รถมาเป็น 4แสนกิโลแบบผมคุณจะคิดในระยะรวมครับ
เช่น 1ปี ผมขี่รถ 55000 กิโล = ผมใช้5คู่เลยนะ ถ้าเป็นยางสนามผมใช้ได้6000โล
14000x5 = 70000 บาทต่อปี
ถ้าเป็นกึ่งเรซ ผมใช้แค่2คู่
11000x2 = 22000บาท
นั้น!! ต่างกันเยอะนา
ราคายางนะครับ
แล้วในการซื้อยางสนามมาได้ไปสนามรึเปล่า ได้ขี่แบบที่ต้องใช้คุณภาพยางสนามรึเปล่า
อย่างที่บอกไปว่า ถ้าเราเป็นuserทั่วไป เราใช้กึ่งเรซเราก็ไปขี่สนามได้ สกิลเราไมได้มากพอที่จะนอนโค้งแล้วดันคันเร่ง ถ้าไม่ใช่การขี่ขนาดนั้นยางสนามมันก็ไม่ได้ใช้
อันนี้ผมกำลังพูดถึง ความคุ้มค่าสำหรับคนต้องการใช้เงินให้คุ้มค่าและถูกการใช้งานนะครับ
ส่วนเรื่องที่ผมบอกว่า การขี่ใช้งานจริงในเรื่องการเล่นโค้งบนถนน มันเจ๊ากัน ระหว่างยางกึ่งเรซกับยางสนาม
แต่ยางถนนยังมีคุณสมบัติที่ดีกว่ายางสนาม
+เรื่องการลุยน้ำ
+อายุการใช้งานที่มากกว่า
ก็จะได้ข้อสรุปว่า “อยู่บนถนนก็ใช้ยางถนนคุ้มค่าที่สุดแล้วครับ”
ยาง Brigdestone battlax Hyper sport s22
สุดท้ายขอบอกว่า S22นี้เป็นยางมอเตอร์ไซค์ที่ได้รับการยอมรับจากนิตยสาร Motorad ปี 2019 ยกให้เป็นอันดับ 1 ในด้านสมรรถนะของยางสปอร์ตด้วยนะครับ
#หน่อยโซ่ตึง
โฆษณา