Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Puncharas Trirojpattana
•
ติดตาม
1 ธ.ค. 2020 เวลา 19:03 • หนังสือ
เคล็ดลับที่ 12 เข้าใจคุณค่าของการมีชีวิตคู่ (คิดแบบยิวทำแบบญี่ปุ่น) EP.21
ชีวิตคู่
ข้อคิดดีดีของหนังสือ คิดแบบยิวทำแบบญี่ปุ่น (สร้างความมั่งคั่งและความสุขให้กับชีวิต ด้วยวิธีคิดที่ส่งต่อกันมาในหมู่เศรษฐีขาวยิว โดย ฮอนดุ เคน เขียน
เคล็ดลับที่ 12 เข้าใจคุณค่าของการมีคู่ชีวิต
- ความสัมพันธ์ที่มีความรักและความไว้วางใจให้แก่กัน
- เบื้องหลังความสำเร็จในการสร้างความสุขและความมั่งคั่ง
- “กฎ 5 ข้อสู่ความสำเร็จในชีวิตคู่” ของคุณเกลเลอร์
เข้าใจคุณค่าของการมีคู่ชีวิต
หลังมือค่ำเราก็มานั่งคุยกันที่ระเบียงเหมือนทุกที แล้วคุณเกลเลอร์ก็เอ่ยขึ้นว่า “เธอคิดว่าคนเราจะรู้สึกมีความสุขตอนไหน”
“อืม ตอนซื้อของหรือไม่ก็ตอนบรรลุเป้าหมายมั้งครับ” ผมตอบ
“ความสุขที่เราได้รับจากเรื่องพวกนั้นเป็นความสุขที่เกิดขึ้นเพียงประเดี๋ยวประด๋าว คนเราจะสัมผัสถึงความสุขจริงๆ ก็ต่อเมื่อรู้สึกผูกพันกับใครสักคน เวลาที่รู้สึกผูกพันกับใครอย่างลึกซึ้ง ใจเราจะทั้งสุขและสงบ
“แต่เมื่ออายุมากขึ้นและได้เจอกับประสบการณ์ที่เจ็บปวดในเรื่องความสัมพันธ์กับคนอื่น ทำให้หลายๆคนกลัวที่จะผูกพันกับใครอย่างลึกซึ้ง แต่การจะมีความสุขอย่างแท้จริงได้นั้น เราจำเป็นต้องผูกมิตรได้กับทุกคนและรักษาความไว้วางใจให้คงอยู่ยาวนาน ความสัมพันธ์ที่เรามีกับคนอื่นเป็นทั้งความสุขและความทุกข์ที่ใหญ่หลวงที่สุดในชีวิต ดูจากสาเหตุที่คนอเมริกันลาออกจากบริษัทเอาก็ได้ เหตุผลหลักๆไม่ใช่เรื่องเงินหรอกนะ และในทางกลับกัน ถึงเงินเดือนจะน้อยแค่ไหนแต่ถ้ามีหัวหน้ากับเพื่อนร่วมงานที่ดี คนส่วนใหญ่ก็จะไม่คิดลาออกจากบริษัท”
“ทำยังไงเราถึงจะรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่นไว้ได้ครับ”
“ถ้าเธอจริงใจกับตัวเองก็ไม่มีอะไรยาก เธอแค่ต้องมีชีวิตในแบบของตัวเอง ฟังในสิ่งที่คนอื่นพูด ให้ความสำคัญกับทุกคนที่คบหา และถ่ายทอดความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองให้คนอื่นรับรู้ นอกจากนี้ เธอต้องเข้าหาคนอื่นอย่างจริงใจทุกครั้งด้วย”
ความสัมพันธ์ที่มีความรักและความไว้วางใจให้แก่กัน
ครั้งหนึ่งผมเคยถามว่าทำไมคุณเกลเลอร์กับภรรยาถึงดูรักกันมากเหลือเกิน เขาดึงโดโรธีผู้เป็นภรรยาเข้ามากอดแล้วเล่าอย่างยิ้มแย้มแจ่มใส โดยมีภรรยายิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ข้างๆ
“ในบรรดาความสุขที่เกิดขึ้นในชีวิต ความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาที่มีความรักและความไว้วางใจให้แก่กันถือเป็นสิ่งที่ล้ำค่าที่สุด มันสามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้เลยนะ ในชีวิตฉันเคยตกที่นั่งลำบากอยู่หลายครั้ง แต่ไม่ว่าครั้งไหนภรรยาก็เชื่อใจและคอยให้กำลังใจฉันเสมอ คนที่มีบุญคุณกับฉันมากที่สุดและทำให้ฉันประสบความสำเร็จก็คือโดโรธีนี่แหละ คนเราจะยิ่งใหญ่ได้จำเป็นต้องมีคู่ชีวิตคอยสนับสนุน ทั้ง โทมัส เอดิสัน เฮนรี ฟอร์ด และร็อกกี้เฟลเลอร์ต่างก็รักและให้เกียรติภรรยา เวลาพวกเขาคิดไอเดียใหม่ๆขึ้นมาได้ก็จะปรึกษาภรรยาเสมอ ส่วนภรรยาเองก็เคารพนับถือและเชื่อใจสามีจากใจจริง ฉันคิดว่าความไว้เนื้อเชื่อใจอย่างลึกซึ้งแบบนี้แหละที่สร้างความสำเร็จที่เหนือความคาดหมายขึ้นมา”
“ฟังดูวิเศษมากเลยครับ ทั้งที่อเมริกามีอัตราการหย่าร้างสูงแต่พวกคุณก็ยังรักกันขนาดนี้ ที่จริงพอได้มาอยู่กับพวกคุณ ผมเลยพลอยมีความสุขตามไปด้วย”
“ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสามีภรรยาเป็นปัจจัยที่สำคัญมากต่อการเป็นเศรษฐี เพราะเวลามีความทุกข์คนเราจะพยายามใช้เงินเพื่อปลดเปลื้องมันออกไป แต่ไม่ว่าจะใช้เงินมากแค่ไหนก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกดีขึ้นหรอก ผู้หญิงมักจะใช้วิธีนี้อยู่บ่อยๆเพราะฉะนั้นต่อให้สามีมีรายได้หลายร้อยล้านเยนต่อปี แต่ถ้าภรรยารู้สึกเป็นทุกข์ เธอก็จะนำเงินเหล่านั้นไปใช้ ถ้าสามีไม่ชอบที่ภรรยาทำแบบนี้ ทางออกเดียวที่เหลือก็คือการหย่าร้างยังไงล่ะ
“นั่นอาจฟังดูแย่แล้ว แต่ในอเมริกาโหดกว่านั้นอีกนะ เพราะกฎหมายบังคับให้สามีต้องจ่ายเงินชดเชยจำนวนมหาศาลให้แก่ภรรยาด้วย ฉันมีเพื่อนผู้ชายคนหนึ่งที่หย่ามาแล้ว 3 ครั้งแถมยังมีลูกอีก 5 คน เขามักโอดครวญว่าไม่ว่าจะหาเงินได้มากแค่ไหน สุดท้ายก็เหลือถึงมือจริงๆแค่นิดเดียวเลยไม่รวยซักที ถ้าเธออยากเป็นเศรษฐีละก็ จงแต่งงานกับคนที่มั่นใจว่ารักมากที่สุดและสามารถอยู่ด้วยกันได้ชั่วชีวิต อย่างฉันนี่อยู่กับภรรยาคนนี้มาตั้งแต่สมัยมัธยมปลายแล้วนะ”
เบื้องหลังความสำเร็จในการสร้างความสุขและความมั่งคั่ง
“คนที่ภายนอกดูเหมือนประสบความสำเร็จจำนวนมากมักไม่ค่อยตระหนักถึงความสำคัญของคู่ชีวิต ซึ่งนั่นจะส่งผลเสียกับชีวิตของเขาอย่างมากเลยล่ะ เธอเคยได้ยินคำว่ามาสเตอร์มายด์ (Mastermind) ไหม”
“ไม่เคยครับ มันคืออะไรเหรอครับ”
“มาสเตอร์มายด์ในที่นี้คือการที่จิตใจของคนสองคนหรือมากกว่ามีความปรารถนาหรือเป้าหมายเดียวกัน ซึ่งจะก่อให้เกิดพลังอันยิ่งใหญ่จนสามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้ไงล่ะ คนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่จะใช้ประโยชน์จากพลังนี้ ตัวอย่างเช่น บรรดาสาวกของพระเยซูที่ร่วมมือร่วมใจกันเผยแผ่ศาสนา หรือแม้แต่ในปัจจุบัน เธอจะเห็นได้ว่าความร่วมมือร่วมใจสามารถช่วยให้โครงการใหญ่ๆประสบความสำเร็จได้อย่างน่าอัศจรรย์”
“สมัยผมเรียนมัธยมปลาย ถ้าทุกคนร่วมมือกันเป็นอย่างดี งานเทศกาลของโรงเรียนจะประสบความสำเร็จเกินคาดทุกครั้ง คุณหมายถึงเรื่องทำนองนี้ใช่หรือเปล่าครับ”
“ใช่แล้ว นั่นล่ะคือพลังของมาสเตอร์มายด์”
“กฎ 5 ข้อสู่ความสำเร็จในชีวิตคู่” ของคุณเกลเลอร์
คุณเกลเลอร์อธิบายกฎที่ช่วยให้ประสบความสำเร็จในชีวิตคู่ไว้ดังนี้
1. เมื่อมีปัญหา ให้พูดคุยและแก้ปัญหาในทันที
“ผู้ชายมักไม่ชอบเรื่องจุกจิก เลยชอบประวิงเวลาและไม่ยอมพูดคุยทำความเข้าใจตั้งแต่เนิ่นๆ ส่วนผู้หญิงเป็นเพศที่สัมผัสถึงความผิดปกติได้เก่ง แต่กลับชอบปล่อยให้เรื่องค้างคาอยู่อย่างนั้นเพราะไม่กล้าเผชิญหน้ากับปัญหา สถานการณ์แบบนี้จะทำให้ความรักระหว่างคนสองคนลดน้อยลงจนเหือดหายไปในที่สุด ถ้าเป็นไปได้ ทุกครั้งที่รู้สึกว่ามีปัญหาเธอต้องรีบหันหน้าเข้าหากันและปรับความเข้าใจให้รู้เรื่องเดี๋ยวนั้นเลย”
2. เวลาตัดสินใจทำอะไร สามีภรรยาต้องเห็นพ้องต้องกัน 100 เปอร์เซ็นต์
“สามีภรรยาก็เหมือนคนลงเรือลำเดียวกัน ดังนั้นเวลาจะตัดสินใจพาเรือไปทางไหนก็ควรพูดคุยกันจนเห็นตรงกัน 100 เปอร์เซ็นต์ด้วยกันทั้งคู่ จะทำตามใจตัวเองโดยไม่สนใจเสียงคัดค้านของอีกฝ่ายไม่ได้”
“ถ้าต้องรอให้ทั้งสองฝ่ายมีความเห็นตรงกัน 100 เปอร์เซ็นต์ แบบนั้นก็ไม่ต้องทำอะไรกันพอดีน่ะสิครับ”
“เพราะเธอให้ความสำคัญกับงานมากกว่าคู่ชีวิตน่ะสิ ถ้าเธอให้ความสำคัญกับคู่ชีวิตมากกว่างาน รับรองว่าอีกฝ่ายจะเข้าใจและไม่คัดค้านเธอโดยไม่มีเหตุผลแน่นอน”
3. มองว่าคู่ชีวิตคือปาฏิหาริย์ในชีวิตและรู้สึกขอบคุณกันและกันอยู่เสมอ
“โลกนี้มีคนอยู่กว่า 6 พันล้านคน ในจำนวนนั้นมีแค่ 1 คนที่เราเลือกให้มาเป็นคู่ชีวิต การที่เราหาคู่ชีวิตเจอจึงถือเป็นปาฏิหาริย์อย่างหนึ่ง ถ้าต่างฝ่ายต่างตระหนักถึงเรื่องนี้อยู่เสมอ กุญแจสู่ความสำเร็จในชีวิตคู่ก็อยู่ในมือแล้วล่ะ”
4. รับผิดชอบต่อความสุขของตัวเอง
“คนเรามักอยากทำให้คนอื่นมีความสุข ในขณะเดียวกันสามีหรือภรรยาก็ชอบคิดว่าคู่ชีวิตของตัวเองมีหน้าที่ต้องทำให้ตัวเองมีความสุขเช่นกัน แต่จริงๆแล้วไม่มีใครทำให้เรามีความสุขได้หรอก มีแต่ตัวเราเท่านั้นที่ทำให้ตัวเองมีความสุขได้”
5. ตระหนักว่าสามีภรรยาชะตาชีวิตร่วมกัน
“ไม่ว่าใครจะเป็นคนทำงาน เมื่อได้เงินมาก็ต้องถือว่าเงินนั้นเป็นเงินของทั้งสามีและภรรยา การแบ่งแยกว่านี่เงินฉันนั่นเงินเธอจะทำให้สามีภรรยาเกิดความบาดหมางกันขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุให้ความสัมพันธ์ย่ำแย่ลงได้”
บันทึก
1
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย