7 ธ.ค. 2020 เวลา 06:45 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
Monster Hunter เจอปัญหาในจีน ขณะที่ The Croods: A New Age ทำเงินทั่วโลกผ่าน 60 ล้านเหรียญ Demon Slayer จี้ติด Spirited Away มากขึ้นในญี่ปุ่น
จากที่ได้รับการคาดการว่าจะเป็นหนังทำเงินในสัปดาห์ที่ผ่านมาในจีน ไปๆ มาๆ Monster Hunter หนังที่สร้างจากเกมคอมพิวเตอร์ก็ต้องถูกเบรคกลางทาง เมื่อเกิดปฏิกริยาต่อต้านผ่านทางอินเตอร์เน็ทเนื่องมาจากฉากหนึ่งในหนัง ถูกมองว่าเป็นการเหยียดผิวจากผู้ชมชาวจีน จนเจ้าหน้าที่ที่ดูแลการฉายภาพยนตร์ในท้องถิ่นต้องระงับการฉาย ส่วนทางเมนเซนท์ที่จัดจำหน่ายและเป็นคู่ค้าของหนัง ก็ต้องรอดูว่าทางคณะกรรมการภาพยนตร์จะจัดการอย่างไรกับฉากดังกล่าว ซึ่งทางคณะกรรมการก็ยังไม่เผยอะไรออกมา ขณะที่ทางเมาหยาน ที่ให้บริการซื้อขายบัตร ก็ดึงหนัง Monster Hunter ออกจากรายชื่อหนังเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยหนังทำเงินไปแล้วก่อนหน้านั้น 5.3 ล้านเหรียญ นับรวมรายได้ในรอบพิเศษช่วงดึกคืนวันพฤหัสบดี
ตลาดจีนถูกคาดหมายว่าจะเป็นแหล่งทำเงินของ Monster Hunter ซึ่งถ้าภาพยนตร์กลับมาฉายได้อีกครั้ง นั้นก็หมายความว่า ความเสียหายค่างๆ ถูกจัดการเรียบร้อยแล้ว แต่ก็น่าสนใจว่าทำไมฉากดังกล่าวถึงไม่ถูกเซนเซอร์ให้เรียบร้อยก่อนหน้า ทำให้มีการมองว่า ที่สุดแล้วไม่มีการเซ็นเซอร์ขั้นสุดท้ายจริงๆ ในจีน การตัดสินใจจะเปลี่ยนแปลงไปได้จากความเห็นของเจ้าหน้าที่ระดับสูง หรือว่าจากมวลชน
ในประเทศอื่นๆ หนัง Monster Hunter เปิดตัวแล้วห้าตลาด และทำรายได้รวม 2.65 ล้านเหรียญ แถมยังขึ้นอันดับ 1 ในอันดับหนังทำเงินได้ทุกตลาด ไม่ว่าจะเป็นที่ไต้หวัน (1.5 ล้านเหรียญ), ซาอุดิ อาระเบีย (550,000 เหรียญ), สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ (305,000 เหรียญ และเนเธอร์แลนด์ 180,000 เหรียญ หนังพอล ดับเบิลยูเอส แอนเดอร์สันเรื่องนี้ อำนวยการสร้างโดยคอนสแตนติน, อิมแพ็คท์ พิคเฌอร์ส, เทนเซนท์ และโตโฮ โดยโซนีได้สิทธิจัดจำหน่ายทั่วโลกนอกเยอรมัน, ออสเตรีย, สวิตเซอร์แลนด์, จีน และญี่ปุ่น หนังจะเปิดตัวในอเมริกา 25 ธันวาคมนี้
ปัญหาที่เกิดขึ้นกับ Monster Hunter ทำให้แอนิเมชันยูนิเวอร์แซล/ ดรีมเวิร์คส์ยิ้ม เพราะทำให้ The Croods 2: A New Age เก็บเงินได้เพิ่มขึ้นในวันเสาร์ ซึ่งรายได้กระโดดขึ้นจากวันศุกร์ถึง 500% แต่พอถึงวันอาทิตย์ หนังมนุษย์ถ้ำเรื่องนี้ ก็เจอเตะตัดขาจากหนังใหม่ของเจ้าถิ่น Soul Snatcher ที่เข้าวินเป็นอันดับสอง ปล่อย Croods 2 ตกไปเป็นที่สามด้วยรายได้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา 12.2 ล้านเหรียญ ซึ่งลดลงจากสัปดาห์ก่อน หนังทำรายได้รวมในจีนอยู่ที่ 36.6 ล้านเหรียญ ส่วนหนังต้นฉบับทำเงินในจีนไป 63.3 ล้านเหรียญ ถือว่าหนังเดินหน้าไปได้สวยและน่าจะปิดตัวด้วยรายได้ในระดับเดียวกัน หรืออย่างน้อยๆ ก็ทำได้มากกว่า 50 ล้านเหรียญที่นี่แน่ๆ
1
เมื่อรวมกับตลาดอื่นๆ Croods 2 ทำเงินในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา 13.6 ล้านเหรียญจาก 10 ตลาด โดยรายได้รวมนอกอเมริกาเพิ่มเป็น 40.3 ล้านเหรียญ ส่วนรายได้รวมทั่วโลกอยู่ที่ 60.6 ล้านเหรียญ ขณะที่รายได้จากไอแม็กซ์หนังทำรายได้ไป 1 ล้านเหรียญ ซึ่งถือว่าเป็นสุดสัปดาห์ที่หนังทำรายได้จากโรงจอใหญ่ยักษ์ได้งามที่สุด โดยเป็นรายได้จากโรงไอแม็กซ์ในจีนถึง 844,000 เหรียญจาก 478 จอ ขณะที่รายได้รวมของหนังเรื่องนี้จากไอแม็กซ์อยู่ที่ 4.1 ล้านเหรียญ
ที่ญี่ปุ่น Demon Slayer The Movie: Mugen Train ได้รับการคาดการณ์ว่าน่าจะเก็บเงินในสัปดาห์ที่ผ่านมาอีก 6 ล้านเหรียญ ซึ่งจะทำให้รายได้ในญี่ปุ่นเพิ่มเป็น 28.7 พันล้านเยน หรือ 276 ล้านเหรียญ ขาดอีกแค่ 2.1 พันล้านเยน หนังจะแซงหน้า Spirited Away ที่ทำรายได้ไว้ 30.8 พันล้านเยน เป็นหนังทำเงินสูงสุดในญี่ปุ่น ซึ่งมีทีท่าว่าน่าจะทำได้ก่อนสิ้นเดือนนี้ โดยในสัปดาห์ก่อนหนังแซง Titanic กลายเป็นหนังทำเงินสูงสุดในญี่ปุ่นอันดับ 2 เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้หนังยังทำสถิติเป็นแอนิเมชันทำเงินสูงสุดทั่วโลกของปี 2020 และในตลาดนอกอเมริกา รวมทั้งเป็นหนังทำเงินอันดับ 5 และ 3 ทั่วโลกและตลาดนอกอเมริกาตามลำดับ ที่น่าสนใจก็คือเป็นรายได้เฉพาะตลาดญี่ปุ่นเพียงประเทศเดียวเท่านั้น
ก่อนหน้านี้ Demon Slayer กลายเป็นหนังไอแม็กซ์ทำเงินสูงสุดในญี่ปุ่นตลอดกาล และกำลังจะทำเงินได้ถึง 18 ล้านเหรียญในโรงไอแม็กซ์ที่ญี่ปุ่น โดยสัปดาห์ที่ผ่านมารายได้ของหนังในไอแม็กซ์ตกไปเพียง 20% โดยเก็บมาได้อีก 655,000 เหรียญ และถ้ารวมรายได้จากโรงไอแม็กซ์ในไต้หวันและฮ่องกง (ซึ่งในฮ่องกงโรงภาพยนตร์ถูกปิดอีกครั้ง เนื่องจากมีผู้ป่วยติดเชื้อโคโรนาไวรัสเพิ่มขึ้น) หนังทำรายได้ในไอแม็กซ์ไปแล้ว 19.3 ล้านเหรียญ
มาดูหนังเรื่องอื่นๆ กันต่อ The Invisible Man เปิดตัวในจีนแล้ว หลังจากเปิดตัวในตลาดนอกอเมริกาเมื่อ 9 เดือนก่อน หนังทำเงินไป 1.53 ล้านเหรียญ และน่าจะได้ประโยชน์จากการที่ Monster Hunter ถูกระงับฉาย ตอนนี้รายได้หนังนอกอเมริกาอยู่ที่ 70.4 ล้านเหรียญ รายได้รวมทั่วโลกเป็น 140.8 ล้านเหรียญ
Tenet ทำรายได้นอกอเมริกาผ่าน 300 ล้านเหรียญ จาก 45 ตลาด รายได้รวมนอกอเมริกาตอนนี้ขยับเป็น 302.1 ล้านเหรียญ และรายได้รวมทั่วโลกอยู่ที่ 359.8 ล้านเหรียญ หนังเพิ่งเปิดตัวในอินเดียและทำรายได้ 675,000 เหรียญ จาก 1,137 จอ ซึ่งเป็นหนังเปิดตัวฉายในวงกว้างมากที่สุดของที่นี่ หลังจากล็อคดาวน์ โดยโรงจะเปิดขายตั๋วเพียง 50% ของที่นั่งทั้งหมด ส่วน The Witches ทำเงินอีก 1.5 ล้านเหรียญในตลาดนอกอเมริกาจาก 2,373 จอ โดยรายได้ตกลงจากสัปดาห์ก่อนแค่ 39% หนังเปิดตัวในญี่ปุ่นด้วยรายได้ 790,000 เหรียญ เป็นหนังอเมริกันทำเงินสูงที่สุดในสัปดาห์ที่ผ่านมา รายได้นอกอเมริกาตอนนี้อยู่ที่ 18.9 ล้านเหรียญ
หนัง Trolls World Tour เพิ่มฉายในบราซิล โดยเปิดตัวที่อันดับ 1 ด้วยรายได้ 312,000 เหรียญ จาก 452 จอ โดยโรงในบางรัฐและบางเมืองของบราซิลที่เป็นเขตสีเหลือง กลับมาเปิดให้บริการเพียง 40% ของความจุ โดยการฉายจะต้องจบที่ราวๆ ทุ่ม-สองทุ่ม ส่วนในพื้นที่สีส้มจะยังไม่เปิดให้บริการ ที่นี่เป็นตลาดใหญ่แห่งสุดท้ายที่ Trolls จะเปิดตัว โดยรายได้ในตลาดต่างประเทศของหนังอยู่ที่ 44.1 ล้านเหรียญ โดยรายได้รวมทั่วโลกอยู่ที่ 49.7 ล้านเหรียญ
หนังเมลิสสา แม็คคาร์ธี Superintelligence ได้เงินมาอีก 501,000 เหรียญจาก 10ตลาด ถือว่ารายได้ตกน้อยมากเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า เมื่อลดลงเพียง 35% รายได้รวมในตลาดต่างประเทศเพิ่มเป็น 1.6 ล้านเหรียญ
Freaky ได้เงินมาอีก 357, 000 เหรียญจาก 30 ตลาดในสัปดาห์ที่สี่ของการฉาย รายได้นอกอเมริกาขยับเป็น 5.6 ล้านเหรียญ ส่วนรายได้รวมทั่วโลกอยู่ที่ 13.3 ล้านเหรียญ โดยมีออสเตรเลียเป็นแหล่งทำเงินเมื่อทำรายได้ไป 1.2 ล้านเหรียญที่นี่ หนังจะเปิดตัวในยุโรปช่วงเดือนมกราคม
Let Him Go ได้เงินอีก 216, 000 เหรียญจาก 10 ตลาด โดยลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าแค่ 38% รายได้นอกอเมริกาเป็น 931,000 เหรียญ และรายได้รวมทั่วโลกอยู่ที่ 9.96 ล้านเหรียญ
ที่เกาหลี หนังเบาสมอง-ดรามา เจ้าถิ่น Best Friend ยังคงอยู่หัวขบวน หนังทำเงินไปแล้ว 2.6 ล้านเหรียญ แต่ตลาดกลับต้องมาหงอยอีกรอบ เนื่องจากเจอเรื่องการจำกัดที่นั่งชม แต่ก็ดีกว่าที่เยอรมันและอิตาลี ที่โรงหนังคงปิดยาวในช่วงฮอลิเดย์ ลากไปถึงปลายเดือนมกราคม ที่ฝรั่งเศสโรงจะกลบมาเปิดอีกในวันที่ 15 ธันวาคม และที่เกาะอังกฤษจะค่อยๆ กลับมาให้บริการกันอย่างช้าๆ
อ่านแล้วชอบ อย่าลืมกดติดตาม และยังมีเรื่องราวมากมายให้อ่านได้ที่ www.sadaos.com และทำความรู้จักกันได้มากกว่านี้ด้วยการกดไลค์เพจ www.facebook.com/Sadaos
โฆษณา