8 ธ.ค. 2020 เวลา 04:15 • ยานยนต์
เปลี่ยนทัวร์ริ่ง เป็นทัวร์ซิ่ง ด้วย Bridgestone Battlax RS10 ไปซิ่งรอบเขื่อนสิริกิติ์
ใกล้ฤดูหนาวแล้ว สาย Biker สไตล์ทัวร์ริ่งเริ่มเมียงมองที่เที่ยวกันบ้างแล้วใช่ไหม
ตัวกระผมเองก็เช่นกัน วันนี้เลยจะมาเหลาการเตรียมรถสำหรับลมหนาวที่จะมาเยือนในเร็วๆนี้ ( หวังว่าอ่ะนะ )
ด้วยการ Modify รถสำหรับฤดูที่ Biker จะออกเริงร่าและนำออกไปทดสอบกับทริปเล็กๆ เป็นน้ำจิ้มพอหอมปากหอมคอกัน
เอ้า ตามมาเลยครับ
สายทัวร์ริ่ง ใครๆ ก็รู้ว่า Biker สายนี้เค้ามี Character เป็นอย่างไร ตัวรถจะโล้นๆ มิได้ อุปกรณ์สายขน มันต้องมา ของมันต้องมี น้อยกว่านี้ได้งัย จัดไป ชุด Rack บรรทุกและกล่องข้างจาก Tor Adventure https://web.facebook.com/Tor909/posts/2762267350716720
การออกทริปไปชื่มชมธรรมชาติ มันเป็นสิ่งที่ต้องหาทำ!!! ก็ขี่ต่อนยอน ไปเรื่อยๆ ไม่รีบ ไม่ร้อน เพราะ เน้นรอด ไม่เน้นเร็ว
แต่ๆ ออกทัวร์ริ่ง เนิบๆ บ่อยๆ บางครั้งเราก็รู้สึกเบื่อเหมือนกัน คิดสิคิด เราจะทัวร์ริ่งแบบไหนกันดี ให้มันมีสีสันกว่านี้!!!
คำตอบน่าจะเป็นการเพิ่มความมันส์ ในการขับขี่ลงไปอีกหน่อย ด้วยการขี่รถให้มันมันส์กว่าเดิม CR รูป : Fast Bike India
แต่จะห้าวทั้งที กับยางเดิมรถมันก็ได้อยู่ แต่ก็นะ ยางที่ดีที่สุด คือ "ยางมีคนรออยู่ที่บ้าน" ลงทุนเปลี่ยน ยาง ที่ดีๆ สักชุด เป็นสิ่งที่เห็นผลค่อนข้างชัดเจนในการขับขี่ แล้วคราวนี้จะเปลี่ยนเป็นยี่ห้อไหนดีหล่ะ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ยี่ห้อที่อยู่ในใจมาตลอดเลยก็แล้วกัน ได้ยินชื่อเสียงมานาน ยอมรับว่าไม่เคยลองยี่ห้อนี้เหมือนกัน Bridgestone หรือ สะพานหิน นี่แหล่ะ เอาหล่ะ เรามา Service Center มาตรฐานของยาง Bridgestone กัน ที่นี่มีนามว่า Pacemax Service Center https://goo.gl/maps/vus4rtHMNdZcCB9s6
เมื่อเราต้องการความมั่นใจ( เกือบ ) สูงสุด ( Bridgestone RS11 ปี 2019 คือที่สุด ) ในราคาที่กระเป๋ายังไม่สะดุด ( คู่ละ 7,000 เอ๊งงงง สำหรับยาง Size ติดรถ CB300R ) เราก็มาหยุดที่นาย Bridgestone Battlax RS10 ที่แม้จะเป็นยางที่ออกมาตั้งแต่ปี 2015 แล้วแต่ก็ชื่อเสียงก็ยังเป็นที่เลื่องลืออยู่ตลอดมา
การติดตั้งของช่างจาก Pacemax Service Center เป็นไปอย่างพิถีพิถันทุกขั้นตอน ไม่ได้อวยนะ จริงๆ เลย ใครไม่เชื่อลองไปดูครับ ผมนั่งดูตั้งแต่เริ่มยันเสร็จ ในท้ายที่สุด ยาง Bridgestone Battlax RS10 ก็รวมร่างกับ Honda CB300R คู่ใจของผม เรียบร้อยในที่สุด
เอาหล่ะ ทุกอย่างพร้อม
ก็ออกดำเนินการตามแผนกันเลย
เส้นทางออกทริปของเราในคราวนี้
เป็นเส้นทางรอบๆ เขื่อนสิริกิติ์ที่เป็นถนนเงียบๆ
แต่เรียบพอตัวนะคร๊าบบบ
Go!!!!
ถนนสาย 1163 เริ่มต้นกันด้วยถนนสาย 1163 ซึ่งเป็นถนนสายสั้นๆ จากอำเภอท่าปลา ไปหมู่บ้านน้ำพร้า ซึ่งเป็นถนนในขุนเขาที่ไร้ Google Street View และหาข้อมูลได้ยากใน Internet และแน่นอนไม่ได้มีแหล่งท่องเที่ยวมหาชนตั้งอยู่บนถนนสายนี้แน่นอน แต่ถนนแบบนี้แหล่ะที่ผมออกไปค้นหา
พอไปถึงบอกได้เลยว่า สภาพพื้นผิวของถนนสายนี้ มันเหมาะกับการทดสอบยาง Bridgestone Battlax RS10 พอสมควร เพราะมีพื้นผิวลาดยางที่เรียบกริบและที่สำคัญ มีรถวิ่งผ่านนับคันได้เลยทำให้ปลอดภัยมากขึ้นกับการที่จะขี่เร็วๆหน่อย
ถึงแม้จะไม่ได้มีแหล่งท่องเทียวระดับห้าดาวอยู่บนถนนสายนี้ แต่ก็มีทิวทัศน์หรืออะไรให้ชมเพลินๆ หลายจุดเหมือนกันนะครับ
ถนนสายนี้มีหมู่บ้านตั้งอยู่หนึ่งหมู่บ้านด้วย อยู่ในหุบเขาลึกและไกลปืนเที่ยงเล็กๆ
จริงๆถนนสายนี้สามารถวิ่งไปออกตัวจังหวัดแพร่ได้เลย และยังผ่านดอยสูงๆ หลายลูกด้วย น่าเสียดายที่เส้นทางบางช่วง ไม่ได้ลาดยาง เราจึงถอยก่อนเพราะเป้าหมายของเราในคราวนี้คือ เส้นทางลาดยาง เอาที่ขี่มันส์ๆ อ่ะ 555
บนถนนสาย 1163 นี้ ผมมีโอกาสได้ลองทดสอบยาง Bridgestone Battlax RS10 พอสมควร สัมผัสเบื้องต้นคือ ยางให้ความรู้สึกมั่นใจในการเข้าโค้งเอามากๆ มากกว่ายางในระดับติดรถทั่วๆไปหรือยางเกรดที่เหนือขึ้นมาอีกระดับนึงแบบชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องกริปของยาง หรือ Feedback ที่ยางส่งมายังผู้ขับขี่ แม้จะขี่เรื่อยๆ เบาๆ ก็ยังจับสัมผัสได้ชัดเจนมากๆ
เสถียรภาพในโค้งเป็นอีกส่วนหนึ่งที่รู้สึกได้ชัดเจน ผมขี่ได้เร็วกว่ายางเดิมๆ ประมาณ 5-10 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแม้ว่ารถจะมี Load น้ำหนักจากสัมภาระเพิ่มขึ้นมา ถ้าไม่มีปี๊บอยู่ด้านหลัง ผมคิดว่าผมน่าจะขี่ได้เร็วกว่ายางเดิมๆ 10-15 กม/ชม เลยทีเดียว
แต่เอาจริงๆ การใช้งานแบบเราๆ ไม่ได้มานั่งวัดเรื่องความเร็วหรอก ฟีลลิ่ง ความสนุก ความมั่นใจ ที่เพิ่มขึ้นมานี่สิคือเรื่องที่สำคัญกว่า เหมือนที่ Bridgestone เน้นย้ำแหล่ะว่า รุ่นนี้ ให้ความรู้สึกดีๆ ( Impression ) และการยึดเกาะ ( Grip ) ที่ยอดเยี่ยม ซึ่งก็เป็นไปตามนั้นจริงๆ แต่แน่นอน ถนนสายสาธารณะที่มีหิน หมา กะลา ทราย หรือปัจจัยด้านอื่นๆ บลาๆ การยึดเกาะที่เพิ่มขึ้นของยาง มันช่วยรับประกันความปลอดภัยให้เราได้มากขึ้นอีกสัก 10% แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เราควรจะใช้สมรรถนะของยางเกิน 80% บนถนนสาธารณะหรอกนะครับ Full lean , Full Brake , Full speed ของรถและยาง เก็บไว้ใช้ในสนามดีกว่าครับ ดังนั้น การใช้ยางดีๆ แบบ Bridgestone Battlax RS10 บนถนนสาธารณะเป็นการเพิ่มเพดานความปลอดภัย และความสนุกขึ้นมาอีกระดับหนึ่งเท่านั้นเอง โดยเราก็ควรจะเหลือ Safety Factor ไว้เพื่อความปลอดภัยของเราด้วยครับ
หมู่บ้านน้ำพร้า อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจ หมู่บ้านที่อยู่สุดสายปลายถนน 1163 ตั้งอยู่ในหุบเขาลึกพอสมควรตามพิกัด https://goo.gl/maps/2GCcwsZpefaaJfDK8
บรรยากาศเต็มไปด้วยทุ่งนาและลำธาร ท่ามกลางหุบเขา
ถ้ามีร้านกาแฟสดตรงนี้ คงดีเหมือนกัน แต่เป็นแบบนี้แหล่ะ ดีแล้ว ดิบๆ ดี
งานบุญในหมู่บ้าน ร้องรำทำเพลงกันดูน่าสนุกดี ไม่ค่อยจะเห็นแบบนี้ในตัวจังหวัดแล้วหล่ะ
ผมขี่วนไป วนมาบนถนนสาย 1163 อยู่หลายรอบ ด้วยความเริ่มมันส์ และความรู้สึกฟินของการยึดเกาะของยาง Bridgestone Battlax RS10 เรื่องเที่ยวตามจุดต่างๆ เป็นเรื่องรองไปเลยในบัดดล
ห้วยน้ำรี แต่แหม ไหนๆ ก็มาเที่ยวแล้วเอาซึมซับธรรมชาติสักหน่อยน่า บนถนนสายนี้ มีอ่างเก็บน้ำนามว่า ห้วยน้ำรี ตั้งอยู่ริมถนนเลย มีวิวที่สวยงามระดับหนึ่ง มีร้านกาแฟให้นั่งชิลด้วย ถือว่า ไม่เลวเลย https://goo.gl/maps/EPqUW85aj6CdBY7z8
ยามเช้าถ้าโชคดี มีทะเลหมอกบนผิวน้ำให้ชมด้วยนะ แต่ผมโชคไม่เข้าข้างเท่าไร ได้แค่นี้อ่ะ หุหุ
เส้นทางเลาะริมเขื่อน เอาหล่ะ ออกเดินทางกันต่อ จากถนนสาย 1163 ซึ่งเป็นถนนในหุบ เราออกเดินทางเลาะริมเขื่อนสิริกิติ์กันสู่หมู่บ้านปากนาย จังหวัดน่าน
เริ่มต้นจากริมเขื่อนฝั่งท่าปลา
ไปจบที่การข้ามแพสู่จังหวัดน่านที่ปากนาย
บนถนนสาย 1139 สู่ปากนาย ถนนเส้นนี้แม้จะไม่เรียบมากแบบ 1163 แต่ก็ขี่สนุกทีเดียว เสียดาย ช่วงที่ขี่ผ่านเป็นช่วงบ่ายแก่ๆ ซึ่งความร้อนเอาเรื่องเลยทีเดียว เลยขี้เกียจถ่ายรูป 555 ขออนุญาติใช้รูปจาก Google Street View แล้วกันนะครับ
จากถนนสาย 1163 ที่เป็นถนนบนเขาสูงหน่อย ลักษณะโค้งเป็นโค้งแคบๆ ลงเขาหรือขึ้นเขา ที่นั่นเราเล่นกับ "กริปล้อหลัง" เมื่อมาสู่เส้น 1139 ลักษณะโค้งจะเป็นโค้งกว้างๆหน่อย และมีวิ่งผ่านหมู่บ้าน ฝูงไก่อะไรทำนองนี้ ผมลองเข้าให้ลึกกว่าเดิม เพื่อลองดูความรู้สึกจาก "กริปล้อหน้า" ที่สัมผัสได้ชัดเจนหน่อยก็ตอนเบรกหนัก หรือทำ Tail Brake เข้าโค้ง พบว่า มันให้ความรู้สึกว่ามีแรงยึดเกาะและให้ฟีลลิ่งที่ดีกว่าของเดิมแบบชัดเจน ในขณะเดียวกัน เมื่ออยู่กลางโค้ง ตัวยางหน้าก็ยังเลี้ยวและรักษาวงเลี้ยวได้เป็นธรรมชาติ โดยรวมก็คือ ก็ต้องยกนิ้วให้หล่ะนะครับ
ข้ามแพบ้านปากนาย เลาะชายขอบเขื่อนมาเรื่อยๆ ในที่สุดเราก็มาถึง แพข้ามฟากแห่งหมู่บ้านชาวประมงบ้านปากนาย สำหรับที่นี่คงไม่ต้องพูดถึง ชาว Biker นั้นคุ้นเคยดี กว่าจะถึงก็หิวข้าวมากแล้ว ขอกินข้าวฝั่งทิศใต้ก่อนข้ามแพไปจังหวัดน่านก่อนนละกัน มีอยู่ร้านเดียวคือร้านลุงตี้ ราคาแอบโหดอยู่เหมือนกัน
กินเสร็จแล้วก็ข้ามแพกันต่อ สนนราคา 2 คน 1 คันก็ 150 บาท
ถ้าข้ามแพตอนเย็นๆ หน่อยคงจะฟินกว่านี้ อันนี้ตอนบ่ายๆ เลย เกรียมกันไป
1026 สุดยอดถนนลอยฟ้าอีก 1 เส้น หลังจากข้ามแม่น้ำน่านที่ปากนายมา เราก็จะวิ่งบนถนนหมายเลข 1026 ซึ่งต้องบอกว่า ถนนสายนี้มีทิวทัศน์ที่สวยงามเหมือนกันนะ ในทัศนะของผม
บรรยากาศยามเย็นที่นี่ชิลมากๆ
ถนนเรียบกริบขี่สนุก จอดถ่ายรูปไปตามรายทางเรื่อยๆ เจอตรงไหนสวยแม้เบรกกระทันหันก็ยังทัน สังเกตได้เลยว่าระยะเบรกสั้นลงจากยางเดิมชัดเจนเพราะกริปหน้าที่หนึบขึ้นมาก
เบรกได้หนัก ก็พักได้บ่อย ( เดี๋ยว มันใช่หรอ อวยไปละม๊างงง 555 )
ถ้าไม่ติดว่าฟีลลิ่งเบรกหน้าของเจ้า CB300R มันแข็งๆ ทื่อๆ การเบรกบนยาง Bridgestone Battlax RS10 คงจะส่งผ่านฟีลการเบรกจากยาง ขึ้นมาถึงมือเบรกได้ดีงามเป็นอย่างยิ่งแน่นอน ผมเชื่ออย่างนั้น คงต้องไปเปลี่ยนปั๊มล่างเป็น Brembo แล้วกระมัง หุหุ
ด้วยความที่ถนนสายนี้มีพื้นผิวลาดยางที่มีกริปการยึดเกาะที่อยู่ในระดับดี และโค้งก็มีรัศมีค่อนข้างกว้างมากด้วย ก็เลยลองหวดดู การเข้าโค้งด้วยความเร็วประมาณ 100km/h มั่นคงมาก และยังรู้สึกว่ายางยังเกาะหนึบเป็นอย่างดี ดูจากมุม Lean แล้วยังเร็วกว่านี้ได้อีกเยอะ น่าจะถึง 120-130km/h เสียด้วยซ้ำ แต่บนถนนหลวงก็ ขอเหลือไว้ให้ Safety ระดับนึงละกัน ( ป๊อดก็บอกมาเถอะ ถถถ )
ถ้าไม่ติดกล่องมาก็น่าจะไปได้เร็วกว่านี้เพราะ Bridgestone Battlax RS10 นั้น ให้ความรู้สึกมั่นใจจริงๆ บอกได้เลยว่านี่คือยางที่ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยขี่มาแล้วหล่ะ ( ถ้าไม่นับยางติดรถ Sport Bike ตัวพันระดับ Top ที่เคยขี่มาบ้าง ) น่าเสียดายอยู่อย่างนึงคือ ทริปนี้ไม่เจอฝนเลย ทำให้ไม่ได้ทดสอบว่าสมรรถนะการเกาะถนนเปียกนั้น ได้แค่ไหน แต่เท่าที่อ่านจากข้อมูล ยางรุ่นนี้เน้นสมรรถนะทางแห้งเป็นหลัก แม้จะมีส่วนผสมของ Silica อยู่บ้าง แต่เข้าใจว่าไม่ได้ออกแบบลายยางมาให้รีดน้ำสักเท่าไร
แอบลองหัดถ่าย Clip ดูบ้าง
ลองดูกันนะครับ เสียงลมดังหน่อย ( มือใหม่ ขออภัย >< )
ถนน Unseen 4010 วันต่อมาออกเดินทางสู่จังหวัดแพร่จากอำเภอนาหมื่น ผมลองวิ่งบนถนนสาย 4010 ซึ่งไม่เคยวิ่งมาก่อน
ขี่ไปเรื่อยๆ ถนนยิ่งเล็กลงเรื่อยๆ เราพบป้ายเตือน แต่ก็ยังคงไปต่อแหล่ะ 55
แต่ขึ้นมาแล้ว ยอมรับว่า วิวถนนเส้นนี้สวยพอสมควรเลย
ชอบถนนที่ Unseen และไม่ค่อยมีใครวิ่งแบบนี้แหล่ะ
โดยสรุปแล้ว BRIDGESTONE BATTLAX RS10 ถือเป็นยางที่ยอดเยี่ยมอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับรถในพิกัด 150-500
ถ้าหากคิดถึงในมุมสมรรถนะบนถนนแห้งมาจัดมาให้เต็มๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความยึดเกาะ การควบคุม หรือการส่งผ่านความรู้สึกที่ยอดเยี่ยม
เรียกได้ว่า จากที่ลองมา ยังหาข้อติไม่ค่อยได้จากระยะทางแค่ 1,500 กิโลเมตร ยกเว้นเรื่องราคาที่ก็อาจจะมีสูงไปบ้างเมื่อเทียบกับราคายางติดรถทั่วๆไป แต่ก็ต้องบอกว่าสมรรถนะนั้นเพิ่มขึ้นมามากโขอยู่พอจะถมส่วนต่างราคาตรงนี้ได้ ก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแต่ละคนแล้วหล่ะครับ
อีกอย่างหนึ่งที่เราไม่สามารถได้ทดสอบมาบอกกล่าวเล่าขานกันได้ในตอนนี้คือ ความคงทนและในเรื่องอายุการใช้งานของยางรวมถึงการตอบสนอง
ของยางเมื่อมีอายุเก่าๆ นั้นเป็นอย่างไร คงต้องรออีกสักพักหนึ่งเลยทีเดียวถึงจะได้ข้อมูลตรงนี้มา
ส่วนอีกเรื่องหนึ่งคือการตอบสนองของยางในทางเปียกซึ่งตรงนี้ต้องขออภัยจริงๆ ดันไม่เจอฝนเลยสักเม็ด
อย่างไรก็ดี โดยส่วนตัวที่ได้ใช้มาผมให้ยางคู่นี้ 10/10 นะ ถ้าต้องซื้อใช้ผมเลือก Bridgestone Battlax RS10 นี่แหล่ะ
ผมว่า สมรรถนะ / ราคาอยู่ในเกณฑ์ที่ผมยอมจ่ายเพื่อให้ได้ฟีลลิ่งยางระดับนี้
แต่ครั้งหน้าอาจจะลอง RS11 สักหน่อย ว่ามันเหนือชั้นขึ้นไปอีกแค่ไหนกัน
อย่างไรก็ตามในครั้งนี้
ขอบพระคุณ Bridgestone Moto Thailand
และ Pacemax Service Center ผู้สนับสนุนยางในการทดสอบ
มา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ
สำหรับใครที่กำลังสนใจอยู่ ลองติดต่อตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้านท่านได้เลยคร๊าบบ
ท้ายที่สุด หนาวนี้ ขอให้ชาวมอเตอร์ไซค์มีความสุขกับการขี่รถ และอย่าลืมเตรียมรถกันให้พร้อมสำหรับการเดินทาง เพื่อให้ขับขี่ได้อย่างปลอดภัยนะครับ วันนี้ลาไปก่อน ขอบคุณที่อ่านครับผม
โฆษณา