Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ณ ขณะ
•
ติดตาม
8 ธ.ค. 2020 เวลา 15:15 • ท่องเที่ยว
T r i p No.2
k i r i w o n g v a l l e y
ณ ขณะ
การเดินทางมาที่คีรีวง เริ่มจากขึ้นคิวรถตู้ ตรัง -นคร ที่หน้าตลาด อ.ห้วยยอด ค่าตั๋วโดยสารราคา 150 บาท รถจะออกทุกหนึ่งชั่วโมง ติดต่อน้องไบรท์สุดหล่อ ร้านจะอยู่เยื้องตรงข้าม CP FreshMart ครับ พอมาถึง ผมลงฝั่งตรงข้ามทางเข้า บขส.นครศรีฯ เป็นตลาดหัวอิฐตลาดใหญ่แห่งหนึ่งของเมืองนคร เห็นศาลาที่พักผู้โดยสารผมเลยไปนั่งรอรถตรงนั้น สักพักจะมีรถสองแถวคันสีน้ำเงินมีป้ายเขียนว่า ตัวเมืองนคร-คีรีวง ราคาค่าโดยสาร 20 บาทครับ รถจะมาจอดถึงที่สะพานบ้านคีรีวงเลยครับ สะพานบ้านคีรีวงนักท่องเที่ยวจะมาเช็คอินเยอะที่สุดก้อว่าได้ วันที่ผมไปมีเมฆครึ้มเยอะหน่อย แต่สเน่ห์ของมันคือเวลาต้นไม้ ใบหญ้าเจอฝนพรำๆมันจะเขียวขจีขึ้นมาทันที บรรยากาศมันได้ จนผมเดินไปซื้อเบียร์มากระแทกปากเลยครับ ยืนจิบเบียร์ดูวิวแม่น้ำลำธารพร้อมยอดเขาสีเขียว ฟินเว่อร์
https://www.facebook.com/คิวรถตู้ห้วยยอด-สุราษฯ-นคร-ทุ่งสง-อาหารตามสั่ง-108647794124357
อุทกภัยที่เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2531 อุทกภัยครั้งร้ายแรงที่สุดของหมู่บ้าน ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติครั้งยิ่งใหญ่ ศาสนสถาน หมู่บ้าน และสวนผลไม้ ถุกน้ำป่าทำลายราบแทบไม่เหลือเค้าโครงเดิม สภาพหมู่บ้านกลายเป็นทะเลทราย ปะปนไปกับซากปรักหักพัง ด้วยความรักถิ่นฐานของคนคีรีวงไม่ยอมย้ายออกจากพื้นที่ ตามคำชักชวนของทางราชการ ที่จะจัดสรรที่ดินทำกินให้ใหม่ ได้ยืนหยัดที่จะอาศัยอยู่ในถิ่นเกิดเช่นเดิม ที่สวนพี่เล็กข้างบนจะมีก้อนหินน้ำตกขนาดเท่าร่างมนุษย์อยู่ในสวนเป็นจำนวนมาก ก็เกิดจากอุทกภัยครั้งนี้ละครับ พี่เล็กบอกว่าเมื่อก่อนจำได้ว่า มันมีก้อนหินก้อนมหึมาที่โครตใหญ่มากบนยอดเขา พอแกโตขึ้นแกก็ออกสำรวจหา แต่ไม่พบ สงสัยน่าจะโดนน้ำพาจมลงไปในดินโคลนแล้วหรือโดนทำลายไปแล้ว...พี่เล็กกล่าว
ขอขอบคุณข้อมูลจากหน่วยงานรัฐด้วยครับ
https://www.youtube.com/watch?v=KmcvnpuErwg&t=332s
ภาพเหตุการณ์อุทกภัยปี 2531 ครับ
คุณเคยดูรถไต่ถังตอนสมัยเด็กๆหรือป่าวครับ รถมอเตอร์ครอสที่มันขี่ด้วยความเร็ว วนรอบถังไม้เพื่อถ่วงดุลไม่ให้ตกลงมา ผมนั่งซ้อนท้ายพี่เล็กเพื่อขึ้นไปสวน Ca'fe Coworking Space ถ้าให้วัดความลาดชันตอนขี่ขึ้นไป ตามสายตาคร่าวๆน่าจะอยู่ที่50-60 องศา ผมใช้มือซ้ายเกาะเอวพี่เล็กไว้ มือขวาผมค้ำยันเบาะท้ายไว้ด้วย โครตมันส์เลยครับ ถนนมันกว้างสัก 3 เมตร พอให้รถมอเตอร์ไซด์ได้สวนกัน ข้างทางจะเป็นสวนผลไม้ มีมังคุด ทุเรียน สะตอ เต็มไปหมดแต่ไม่เห็นลูกผลของมัน คงจะหมดฤดูกาลแล้ว ข้างบนนี้ก็มีกระท่อมของชาวบ้านอยู่บ้าง ไม่กี่หลัง และส่วนใหญ่จะรู้จักกันทั้งหมด เวลาขี่สวนกันจะทักทายยิ้มแย้มกันทุกคน บางคนมีตะโกนถามด้วยว่าเหล้าเถื่อนมาใหม่ยัง ถ้าโดนจับก็คงหมดทั้งเขาลูกนี่แหละครับ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาทีน่าจะได้ก็ถึงจุดหมายของเราครับ
https://www.facebook.com/รถไต่ถัง-วุฒิชัย-โชว์-217542808440053
พอขึ้นมาถึง ผมหายเหนื่อยเลยครับ อุทานออกมาเลยว่า "ตะเข้ มีสถานที่แบบนี้บนเขาด้วยหรอว่ะ" เราต้องขี่ข้ามสะพานพื้นปูนที่มีน้ำท่วมแบบปริ่มๆ จอดรถเสร็จ ก้อเดินข้ามลำห้วยเล็กๆพอเป็นน้ำจิ้ม แลเห็นน้ำตกขนาดเล็กด้านขวามือซึ่งเป็นปากทางเข้า Ca'fe Coworking Space ที่พี่เล็กกับพี่ใหม่กำลังปั้นให้เป็นรูปเป็นร่าง พื้นที่ราวๆ 4 ไร่ มีบ้านไม้หลังใหญ่หนึ่งหลัง มีกระท่อมขนาดเล็กสองหลัง มีห้องอาบน้ำห้องส้วม มีห้องปั่นกระแสไฟฟ้า มีบ่อเลี้ยงปลาด้วย และทีเด็ด ซ้ายมือเป็นธารน้ำตกกว้าง50เมตรอ่ะครับ โหวิวหลักล้านชัดๆ.....นี่ผมไปอยู่ไหนมาเนี่ย
พี่เล็กพาผมเข้าไปบนบ้านหลังใหญ่มีลักษณะ 2 ชั้น
ข้างล่างเป็นใต้ถุน ข้างบนบ้านมีเต้นท์กางอยู่ 3-4หลัง
เราต้องนอนในเต้นท์พี่เล็กบอก อากาศมันหนาวแล้วอีกอย่างเรายังไม่มีฝาบ้าน เวลาฝนตกหนักฝนมันจะสาดเข้ามารอบทิศทาง เก็บของเสร็จ แกก้อพาไปดูโปรเจ็ก Ca'fe Coworking Space แกจะขายพวกกาแฟดริป มีแบบทำให้หรือจะใครจะทำเองก็ได้ โดยมีอุปกรณ์เตาปิคนิคแบบ Camping ไว้บริการ Ca'fe นี้อยู่ติดกับลำธารน้ำใสใกล้แค่เอื้อมผมเลยเชียร์ว่าขายเบียร์ต้มเองด้วยพี่ หรือไม่ก็ต้มเหล้าเถื่อนมีแบรนด์เป็นของตัวเองเลย ใครเมาก็กระโดดลงไปอาบน้ำสร่างเมาแล้วขึ้นมาเมาใหม่ พี่จะทำน้ำสมุนไพรด้วย มีใบสามแฉกป่าวครับผมถาม พี่เล็กพยักหน้าแล้วบอกว่า เด๋วลองดู พี่ยังไม่เคยทำ ก่อนโควิทผมปลูกหลายต้นเลย ลำต้นเท่าแขนแจกทั้งหมู่บ้าน ด็อกตงด็อกเตอร์มาเดินป่าแวะหาพี่แล้วเด็ดขึ้นไปสูบบนเขา ไม้ไผ่ก็ตัดเอาจากที่นี่ กลับไปทำงานแล้วก็ยังโทรมาบอกว่าให้ส่งไปให้หน่อย สุดยอดมั้ยล่ะ ผมได้ยินแล้วถึงกับคั่นเนื้อคั่นตัวเลย ผมเห็นหนังสือเยอะมากพี่อ่านหมดหรอ พี่เล็กบอกว่า ผู้คนที่เคยให้พี่เล็กพาเดินป่า เวลากลับไป ทั้งชาวไทยชาวต่างชาติจะส่งหนังสือมาให้เยอะมาก กลัวเราเหงามั่ง เพราะบางทีอยู่ข้างบนนี้คนเดียว นานๆจะลงไปหาพ่อกับแม่เป็นทีที แถมบางคนยิ่งพอรู้ว่าพี่เล็กจะเปิดCa'fe เค้าส่งเงินมาให้เพราะรู้ว่าช่วงโควิท รายได้พี่เล็กไม่มี ยกตัวอย่างผู้ว่าแบงค์ชาติของเนเธอร์แลนด์ ส่งเงินมาให้เป็นเงินไทย 100,000 บาท และยังมีอาจารย์หมอ หลายท่านก็ส่งเงินมาช่วยเหลือ เพราะพี่เล็กเป็นคนเอื้ออารี คนรักแกมาก มีคนเคยกล่าวถึงแกว่า ราคาเดินป่าของแกไม่แพงเพราะแกถือว่าเหนื่อยเหมือนกัน จะคิดแพงไปเพื่ออะไร และแกจะแบ่งเงินให้กับลูกหาบเท่ากันทุกคนรวมถึงแกด้วย เวลาพี่เล็กจะยกบ้าน หรือต้องใช้แรงงานจำนวนมากพี่ๆลูกหาบหรือคนรู้จักจะหยิบยื่นน้ำใจมาช่วยเสมอ ไม่คิดเงินสักแดงเดียว ผมก็ตอบแทนเค้าโดยทำอาหารให้ทานบ้าง ซื้อเหล้าเถื่อนให้กินบ้าง
มาถึงรายการอาหารครับ
มื้อเที่ยงวันแรก เหล้าเถื่อน 1 ขวด ไก่เบตงต้มขมิ้นหม้อใหญ่ ปลาร้าต้มกะทิหม้อใหญ่ ย้ำอีกครั้งมันใหญ่มาก
จนผมบอกว่าค่อยกินมื้อเย็นอีกรอบล่ะกัน กินไม่หมด
มื้อเย็นวันแรก เหล้าเถื่อน 2 ขวด ปลาที่ตกได้จากลำธารเอามาทอดขมิ้นซาวกับข้าวเปล่าตามด้วย ไก่เบตงต้มขมิ้นกับปลาร้าต้มกะทิอีกรอบ ก้อเกือบจะไม่หมดครับ
ตอนเช้าผมลงไปซื้อเสบียงกับพี่เล็กด้านล่าง
มื้อเช้าได้ทานข้าวยำ น้ำบูดู ของคุณป้าที่เป็นพี่น้อง
มุสลิมในตลาดนัดคีรีวง อร่อยมากครับ จนต้องซื้อกลับมาฝากพี่ใหม่อีก 3 ห่อ
มื้อเที่ยงวันที่สองพี่เล็กต้มหมู3ชั้นใส่แค่กระเทียมกับ เกลือ โดยแกเอากระดูกหมูทุบให้แตกเพื่อให้ได้น้ำต้มกระดูกออกมา ทำหม้อใหญ่เหมือนเดิมครับ ยังกะทำให้กินกันทั้งหมู่บ้าน ฮาาา ตักน้ำและเนื้อหมูลงในถ้วยแล้วราดน้ำจิ้มกินแกล้มเหล้าเถื่อน 2 ขวด มื้อเย็นวันที่สอง ผมที่ยังติดใจเมนูไก่เบตงต้มขมิ้นเมื่อวาน พี่เล็กเลยซื้อไก่เบตงจากตลาดมาให้ และพี่ใหม่รับหน้าที่เป็นเชฟเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือ ต้มหนางหมูใส่กะทิและทีเด็ดคือกุ้งแม่น้ำย่าง 6 ตัว กิโลละ 400 บาทฟาดกับเหล้าเถื่อนอีก 2 ขวด พอได้ที่ก้อโซโล่กีต้าร์ พร้อมก่นด่ารัฐบาลพอหอมปากหอมคอ แล้วแยกย้ายกันเข้านอน
ประสบการณ์การนอนในป่าใหญ่ ผมไปช่วงที่พายุเข้าพอดีจึงแสดงอาการขี้เกียจอาบน้ำ พอมันเหนียวตัว ทำให้นอนไม่หลับ ลุกขึ้นเดินออกจากเต้นท์มาฟังเสียงลำธารแบบเท่ห์ๆแบบพระเอกมิวสิคท่ามกลางฝนที่ตกหนัก เสียงของลำธารและการไหลเชี่ยวมันดังชนิดที่ว่า โอเปร่าเรียกพี่เลยครับ เสียงดังโครตๆแล้วมาเจอเจ้าตัวลิ้นที่ขยันทำงานกันซะเหลือเกิน มาดมมาตอม หยั่งกะผมเป็นมิตรชัย บัญชา ฮาาา กลับขึ้นมาเข้านอนก้อจะตี 2 แล้ว ตื่นอีกทีตี4เพราะพี่เล็กมาปลุกชวนไปต้มน้ำกินกาแฟกัน คืนที่สองเริ่มเก๋าเกม อาบน้ำก่อนกินอาหารมื้อเย็น กะว่าวันนี้กูหลับแน่ แต่มันไม่หลับครับ ไม่รู้ว่าเพราะเปลี่ยนสถานที่นอนหรือเป็นเพราะว่าผมไม่ได้ลิ้มรสชาติกัญชาผ่านปอด เพราะผมหยุดก่อนหน้านี้มาประมาณ 10 แล้ว พอไม่หลับก็ออกมาเล่นโยคะ ได้สักครึ่งชั่วโมง ท่ามกลางความมืดมิด เพราะไฟฟ้ามันไม่ทำงานเนื่องจากกระแสน้ำที่แรงมากทำให้การสูบน้ำขึ้นมาปั่นกระแสไฟมีปัญหา เอาว่ะอ่านหนังสือก็ได้ หยิบหนังสือ ชื่อว่า "งอกงามจากผืนดิน" ผู้เขียน คนุต ฮัมซุน ฉบับภาษาไทย แปลโดย คุณปิยะภา ผมเอาไฟฉายผูกไว้ที่หัวเหมือนคนจะไปกรีดยาง แล้วก็นอนลงในเปลที่พี่เล็กผูกไว้ให้นอนเล่นตอนบ่าย ไม่ทันได้เปิดอ่าน เจ้าแมลงมันมาเล่นกับแสงไฟแบบยั้วเยี่ยเต็มไปหมด ผมละถอนหายใจกับสิ่งที่มันเกิดตรงหน้า แล้วทันใดนั้นผมก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า ธรรมชาติมันใหญ่กว่าเรา เรามันแค่เศษส่วนหนึ่งของธรรมชาติ อย่าเอาความคิดตัดสินอันใดบนโลกใบนี้เลย แล้วอันทีจริงเราก็ไม่จำเป็นต้องหนีไปหาความสงบอยู่ในป่า จงอยู่กับความอึกทึกครึกโครมกับสังคมเมืองที่วุ่นวายต่อไป แค่หยุดคิด หยุดตัดสิน อยู่กับขณะปัจจุบัน อยู่กับลมหายใจ เท่านั้นพอ แม้ส่วนใหญ่จะทำมันไม่ค่อยได้ แต่ก้อต้องเรียนรู้กันต่อไป
ผมเคยทำสวนเกษตรแบบออร์แกนิคมาแล้วความยุ่งยากของการทำออร์แกนิค ที่มีทั้งการดูแลที่มากขั้นตอน และต้นทุนที่สูง ผมเคยจะส่งมังคุดไปให้เพื่อนที่ฝรั่งเศษ ขั้นตอนแม่งโครตยุ่งยากมาก เลยช่างแม่ง ผมบอกคุณน่ะ ไอ้ยาปราบศัตรูพืชเนี่ยมันไม่ได้ทำลายเข้าไปถึงเยื่อใน แกนในมัน อันนี้ผมพูดในส่วนของผลไม้น่ะ มังคุด ทุเรียน เมื่อฉีดพ่นลงไปทำลายวัชพืชเรียบร้อยแล้วมันตกลงสู่พื้นดินแล้วมันก็จะหมดฤทธิ์ทันที เพราะสารพวกนี้จะมีประจุไฟฟ้าที่ตรงข้ามกับประจุไฟฟ้าของดิน เกิดการดูดซับเข้าหากันกลายเป็นสารไม่มีพิษทันที แต่มันมีผลกระทบกับคนฉีดบ้าง ผมมีสวนเยอะแยะซะที่ไหน ปีหนึ่งผมฉีดน้อยครั้งมาก แต่ผมอิจฉาคนที่อยู่พื้นที่ราบน่ะ มีที่ 2 ถึง 3 ไร่แม่งถ้าคุณไม่ขี้เกียจน่ะ คุณไม่มีอดแน่ ปลูกพืช ผลไม้ทุกอย่างที่กินได้ เลี้ยงปลา เลี้ยงไก่ ทำได้เยอะมาก ที่บนนี้มันไม่เหมาะกับการเลี้ยงสัตว์เท่าไหร่ เพราะมีเพื่อนตัวโหดๆทั้งนั้น แถมยังต้องระวังภัยจากธรรมชาติ แต่คุณก็ต้องหาเงินด้วยน่ะ ไม่ใช่ปลูกผักเลี้ยงไก่ เลี้ยงปลาอย่างเดียว โลกมันเปลี่ยน คุณต้องล้อไปกับโลก
https://thestandard.co/organic
ถ้าถามผมว่าค่าอาหารบวกที่พักวันละ 1,000 บาทแพงมั้ย ผมขอตอบว่าไม่แพงเลยครับกับน้ำจิตน้ำใจไมตรีจากพี่เล็ก พี่ใหม่ และคุณพ่อสมุที่ยื่นให้ผม แต่ผมขอตินิดหนึ่งครับ พวกพี่จะมีกำไรจากห่าอะไรครับ กับข้าวบวกกับค่าเหล้าเถื่อน 2 วัน 5 มื้อ แม่งจะ 2,000 แล้ว ทำให้ผมกินอย่างกะราชา นี่ไม่รวมค่าน้ำมันรถที่ต้องขึ้นลงวันละ 3 รอบ และซื้อน้ำมันใส่แกลอนมาปั่นกระแสไฟฟ้าด้วย ซื้อผ้ายางผืนใหม่เอามากางกันฝนสาดให้ผมอีก แถมผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม ที่ต้องเอาลงมาซักอีก ไม่นานเจ๊งครับอย่างนี้ ครั้งต่อไปเก็บกำไรไว้บ้างน่ะครับ พวกผมจะได้ยลโฉมร้าน Ca'fe Coworking Space บนยอดเขาคีรีวงสักที ดีไม่ดีผมอาจจะจัด Book & Folk Camp รับไม่เกิน 20 คน ใกล้ชิดธรรมชาติใกล้ชิดศิลปิน คิดค่าบริการคนละ 3,000 B. ในปีหน้าก็ได้ครับ เพราะรักจึงขอพูดตรงๆน่ะครับ เยิฟเยิฟครับ
ขากลับลงจากเขาพี่เล็กแกมาส่งถึงถนนสี่เลนใหญ่เลย จะเลี้ยงขนมจีนผมอีก ผมปฏิเสธไป ก่อนจากก็แลกเบอร์โทรกับแกไว้ แกบอกว่าถ้าที่ร้าน ณ ขณะมีงานเกี่ยวกับงานไม้ ไม่ต้องจ้างใครโทรบอกแกล่วงหน้า เด๋วแกจะไปช่วย หรืองานเหล็กก็ให้บอกพี่ใหม่แก แกมาช่วยไม่เอาตังค์ ผมโผเข้าไปกอดแล้วบอกแกให้รักษาสุขภาพด้วย รถMotor Cross ค่อยๆเคลื่อนตัวออกไป ผมมองแกจนสุดลูกหูลูกตา แล้วตั้งคำถามในใจว่า นี่กูเจอ "พระพุทธเจ้าที่แปลงร่างมาเป็นมนุษย์หรือป่าวว่ะ"
https://www.facebook.com/adisak.chamna
#ขอบคุณธรรมชาติ
#ขอบคุณคีรีวง
#ขอบคุณผู้คนทุกท่านที่ผมประสบเจอ
#ขอบคุณตัวเองที่กล้าออกจากเซฟเฮ้าส์
#เลิฟเลิฟครับ
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย