9 ธ.ค. 2020 เวลา 07:56 • ประวัติศาสตร์
ปัญญาสชาดกสู่พระสุธนคำฉันท์ วรรณกรรมพื้นบ้านเรื่องพระรถ-เมรี พระสุธน-มโนราห์ ปรากฏครั้งแรกในคัมภีร์บาลีปกรณ์เรื่อง “ปัญญาสชาดก” (อ่านปัน-ยาด-สะ-ชา- ดก) ซึ่งไม่ปรากฏนามผู้ประพันธ์ รู้แต่ว่าเป็นพระภิกษุชาวล้านนา เขียนขึ้นในราวปี พ.ศ. ๒๐๐๐-๒๑๐๐
 
ปัญญาสชาดก แปลตรงตัวว่า “ชาดก ๕๐ เรื่อง” เป็นงานเขียนในลักษณะประชุมนิทานเก่าแก่ที่เล่าสืบต่อกันมา หนึ่งในนั้นมี “สุธนชาดก” รวมอยู่ด้วย นิทานปัญญาสชาดกมีเนื้อหาสนุก แฝงธรรมะอย่างแยบยล ได้รับความนิยมสูง และแพร่ขยายไปยังดินแดนใกล้เคียงอย่างรวดเร็ว เช่น สยาม ลาว สิบสองปันนา พม่า โดยเฉพาะในพม่าเรียกนิทานเรื่องนี้ว่า ซิมเมปัญญาสะ (Zimme Pannasa) “ซิมเม” หมายถึงเชียงใหม่ จึงเป็นอันยืนยันได้ว่านิทานเรื่องนี้เขียนขึ้นในเชียงใหม่อย่างแน่นอน
ในสมัยอยุธยา ได้นำเอาปัญญาสชาดกมารจนาเป็น “พระสุธนคำฉันท์” แต่สำนวนฉบับอยุธยาอ่านยาก ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๕) พระยาอิศรานุภาพ (อ้น) จึงประพันธ์ขึ้นใหม่อีกครั้ง
ชาตินี้น้องตามพี่ หากชาติหน้ามีขอให้พี่ตามน้อง
มโนราห์ หรือ โนรา ที่คนปักษ์ใต้นิยมเรียกสั้น ๆ ได้หยิบยกนิทานเรื่อง พระรถ-เมรี (พระสุธน-มโนราห์) มาเล่นโดยเคารพเนื้อหาดั้งเดิมผสมผสานรสสำเริงบันเทิงคดีเป็นเรื่องหลัก
 
เรื่องราวของพระรถ – เมรี (พระสุธน-มโนราห์) เป็นเรื่องราวที่กล่าวถึงความรักระหว่าง “มนุษย์” กับ “อมนุษย์” (กินรี : ครึ่งคนครึ่งสัตว์หิมพานต์) อันเป็นภพที่เกิดมาใช้กรรมต่อเนื่องจากชาติปางก่อนที่ทั้งคู่เคยเป็น “พระรถ-เมรี” ชาติก่อนนั้นก็รักกันปานว่าจะขาดใจ พระรถเป็นมนุษย์เช่นเคย และนางเมรีก็เป็นอมนุษย์อีกเหมือนเดิม ซ้ำหนักกว่าชาติก่อนคือเป็นถึง “ยักษินี"
ความแตกต่างด้าน “ชาติพงศ์วงศา” คือฐานันดรกีดกั้นพรมแดนแห่งรัก จุดเด่นของเรื่องนี้คือคำสาปแช่งของเมรี ที่ต้องกรีดเลือดสังเวยรัก ขณะเร่ร้องติดตามหา “พระรถ” ผู้ทอดทิ้งนางและหลบหนี ด้วยวลีอมตะว่า “ชาตินี้น้องตามพี่ หากชาติหน้ามีขอให้พี่ตามน้อง”
ภพชาติมีจริง พระรถจำต้องเกิดมาไถ่ “หนี้สิเนหา” คืนให้แก่เมรี ผู้ที่กลับชาติมาเกิดใหม่เป็นกินรี ชื่อ “มโนราห์” ชาตินี้มีปีกมีหาง พร้อมจะบินหนีความรักเพื่อลบรอยแค้นได้ทุกขณะ
ชาดกปิดเรื่องด้วย “พรานบุญ” ผู้ใช้เวทย์มนต์ บ่วงบาศก์จับนางกินรีขณะบินลงมาเล่นน้ำที่สระอโนดาต เมื่อจับได้แล้วนำนางไปถวายพระสุธนซึ่งขณะนั้นออกเสด็จประพาสป่า ด้วยบุพเพสันนิวาส พระสุธนเกิดความเสน่หานางมโนราห์จนยากเกินถ่ายถอน แต่แล้วความรักครั้งนี้ก็ถูกสกัดโดยปุโรหิต ด้วยต้องการจะยกลูกสาวของตนให้เป็นชายาพระสุธนแทน จึงคิดอุบายกำจัดนางกินรี อ้างคำทำนายว่าอมนุษย์นางนี้เป็นกาลีบ้านกาลีเมือง ต้องจับ “บูชายัญ” ทำให้นางมโนราห์ขอปีกขอหางคืน โดยแสร้งพิไรรำพันทำท่าคล้ายจะกระโดดเข้ากองไฟฆ่าตัวตาย แต่แล้วเมื่อได้คืนมาพลันถลาบินหนีกลับสู่ป่าหิมพานต์
ด้วยอานุภาพแห่งความรักบวกแรงแห่งกรรม พระสุธนต้องระทมทุกข์ออกตามหานาง นานอยู่นานถึง ๗ ปี ๗ เดือน ๗ วันในที่สุดก็สมหวัง ลบล้างคำสาปแช่งแต่ภพชาติก่อนได้สำเร็จ
โฆษณา