หนังปลากระเบน นับว่าเป็นเครื่องหนังอีกชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ด้วยความสวยงามของลวดลาย ความแข็งแรงทนทาน จุดเด่นของหนังปลากระเบน เห็นจะเป็นตุ่มแข็งลักษณะเหมือนเม็ดมุขกลม หรือรูปไข่ต่อกันบริเวณส่วนหลังของปลากระเบน ซึ่งเป็นลวดลายที่สวยงามมีความเฉพาะตัว และยังมีคุณสมบัติทนไฟอีกด้วย
แต่จะมีใครรู้หรือไม่ว่า ปลากระเบน มีถิ่นกำเนิดจากแหล่งไหน และหนังส่วนไหนของปลากระเบนที่นำมาใช้ผลิตเครื่องหนังกันนะ เรามาทำความรู้จักปลากระเบนกันดีกว่า
“ปลากระเบน” เป็นสัตว์กระดูกอ่อน มีสายพันธุ์ประมาณ 400 ชนิด สามารถพบได้ในน้ำจืด, น้ำกร่อย และน้ำเค็ม มีลักษณะรูปร่างแบน มีท่อหายใจอยู่ด้านบน และมีครีบอยู่รอบตัว มักจะกบดานตามชายทะเลน้ำตื้น ฝังตัวอยู่ใต้ทรายหรือพื้นทะเล อาหารหลักจะเป็น กุ้ง หอย ปู หรือปลาขนาดเล็กตามพื้นท้องน้ำ
การแบ่งกลุ่มของปลากระเบน
ปลากระเบนแบ่งออกได้เป็น 4 กลุ่มใหญ่ ได้แก่
1. ปลากระเบน (Order Myliobatiformes) ได้แก่กลุ่ม กระเบนธงและกระเบนนก
2. ปลาโรนัน (Order Rajiformes) ได้แก่กลุ่ม ปลาโรนัน และปลาโรนิน
3. ปลาฉนาก (Order Pristiformes) ได้แก่กลุ่ม ปลาฉนาก
4. ปลากระเบนไฟฟ้า (Order Torpediniformes) ได้แก่กลุ่ม ปลากระเบนไฟฟ้า
ปลากระเบนในประเทศไทย
สามารถพบปลากระเบนได้จากแม่น้ำสายสำคัญทั้งภาคกลางและภาคใต้ เช่น แม่น้ำโขง, แม่น้ำเจ้าพระยาแม่น้ำแม่กลอง รวมถึงทะเลฝั่งอ่าวไทย และทะเลอันดามัน ในประเทศไทยสามารถพบปลากระเบนน้ำจืดหลักๆ 7 ชนิด ได้แก่
1. ปลากระเบนชายธง หรือ ปลากระเบนธง(Cowtail stingray)
2. ปลากระเบนลาว หรือ ปลากระเบนแม่น้ำโขง (Mekong stingray)
3. ปลากระเบนราหูน้ำจืด หรือ ปลากระเบนเจ้าพระยา (Giant freshwater stingray)
4. ปลากระเบนบัว (Whitenose whipray)
5. ปลากระเบนกิตติพงษ์ หรือ ปลากระเบนแม่กลอง (Kittipong’s whipray)
6. ปลากระเบนลายเสือ (Marbled whipray)
7. ปลากระเบนขาว (White-edge freshwater whipray)
ส่วนปลากระเบนน้ำเค็มที่สามารถพบเห็นได้บ่อย และเป็นที่รู้จักของนักดำน้ำ มี 3 ชนิด คือ
1. ปลากระเบนราหูน้ำเค็ม (Manta ray)
2. ปลากระเบนนก (Myliobatidae)
3. ปลากระเบนจุดฟ้า (Bluespotted stingray)
การเพาะเลี้ยงปลากระเบนในไทย
เมื่อปลากระเบนเป็นที่นิยมมากขึ้น จึงเกิดฟาร์มเลี้ยงในเชิงอุตสาหรรมเพื่อรองรับความต้องการของตลาด
ในประเทศไทยมีการเพาะเลี้ยงปลากระเบนเป็นฟาร์มขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ โดยมีตลาดรองรับทั้งในและต่างประเทศ ได้แก่ จีน มาเลเซีย สิงคโปร์ญี่ปุ่น ไต้หวัน ประเทศแถบยุโรป และประเทศในตะวันออกกลางปลากระเบนที่นิยมเพาะพันธุ์ในเชิงอุตสาหกรรม คือ กระเบน-แอมะซอนหางสั้น (Potamotrygon spp.) ปลากระเบนน้ำจืดจากลุ่มน้ำแอมะซอน เป็นปลากระเบนที่ลวดลายสวยที่สุด และราคาแพงที่สุดเช่นกัน
ปลากระเบนสามารถนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ได้หลายอย่าง เนื้อนอกจากนำไปบริโภคแล้ว ยังสามารถนำมาแปรรูปในเชิงการแพทย์โดยการนำมาทำเป็นเครื่องยาจีน
หนัง คือส่วนที่นิยมกันอย่างแพร่หลายโดยนำไปทำเป็นเครื่องหนังปลากระเบน ไม่ว่าจะเป็น กระเป๋า , เข็มขัด , สายนาฬิกา, เครื่องประดับ รวมถึงของแต่งบ้านด้วยลักษณะลวดลายที่สวยงามไม่แพ้หนังชนิดอื่นนั่นเอง
หนังส่วนที่นำมาทำเครื่องหนังปลากระเบน
หนังปลากระเบนมีความคงทนสวยงามเหมาะกับการนำมาทำเครื่องหนัง ปลากระเบนที่นำมาทำเครื่องหนังมีหลายสายพันธุ์ความสวยงามของหนังจึงขึ้นอยู่กับลวดลายของแต่ละสายพันธุ์
โดยจะใช้หนังส่วนหลังที่มีลักษณะเป็นเม็ดมุขกลม หรือรูปไข่ต่อกันซึ่งจะมีความแข็งแรงทนทานมาก ของมีคมกรีดไม่เข้า และจะไม่เกิดรอยไหม้เมื่อถูกไฟลน ทั้งยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
หนังของปลากระเบนเมื่อกระทบแสงจะเกิดความเงางาม เมื่อใช้ไปนานๆ ยิ่งเกิดความเงางาม หนังปลากระเบนมี 3 สิ่งพิเศษที่ยากต่อการเลียนแบบนั่นคือ “ความแวววาว ความทนทาน และความเชื่อ”
ความเชื่อเรื่องโชคลาภเกี่ยวกับหนังปลากระเบน
ชาวจีนมีความเชื่อว่า “หนังปลากระเบน” เป็นสัญลักษณ์แห่งโชคลาภ ส่งเสริมเรื่องเงินทอง ผู้ที่ได้ครอบครองผลิตภัณฑ์จากหนังปลากระเบน จะมีเงินทองใช้ไม่ขัดสน ช่วยส่งเสริมเรื่องโชคลาภ ทำมาค้าขึ้น มีความร่มเย็นเป็นสุข
หนังปลากระเบนคล้ายคลึงกับ “เกล็ดของมังกร สัตว์มงคลของชาวจีน เกล็ดกลางเปรียบเสมือนไข่มุก” เป็นของมงคลที่มีคุณค่าเหมาะสำหรับนำเป็นของขวัญตามโอกาสต่างๆ
ความพิถีพิถันที่ทำขึ้นเป็นพิเศษ
หนังปลากระเบนเป็นหนังอีกชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติ และลวดลายที่มีความเป็นเอกลักษณ์ในตัวเอง
จุดเด่นที่พิเศษอีกอย่างหนึ่งอยู่ตรงกลางลำตัวบนส่วนหลังของปลากระเบน เรียกว่า “มุขปลากระเบน” ซึ่งมีความเชื่อกันว่าเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดี จึงนิยมนำมาเป็นส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์ ทำให้การตัดเย็บหนังปลากระเบนต้องมีความละเอียดในการจัดวางตำแหน่งมากยิ่งขึ้น เนื่องจากปลากระเบนหนึ่งตัวจะมีมุขปลากระเบนเพียงหนึ่งจุดเท่านั้น
หนังปลากระเบนมีความแข็งคล้ายกระดูก แต่เงางามเหมือนมุข การตัดเย็บจึงทำได้ยาก ต้องใช้ความพิถีพิถันมากกว่าหนังชนิดอื่น และต้องใช้ช่างที่มีความชำนาญการพิเศษ มีวิธีการทำที่ยาก และมีเทคนิคเฉพาะตัว ด้วยความที่หนังปลากระเบนมีลักษณะคล้ายเม็ดมุขเรียงต่อกันทำให้การฟอก และการทำสีก็มีขั้นตอนที่ซับซ้อนกว่าหนังชนิดอื่น
MANO Strap เราใช้หนังปลากระเบนเกรด A คัดสรรจากฟาร์มเลี้ยงที่ได้มาตรฐานในประเทศไทย
หนังปลากระเบนที่นำมาทำสายนาฬิกาของ MANO Strap เราเพิ่มความพิเศษด้วยการ “ขัดผิวเรียบ” ซึ่งให้ผิวสัมผัสที่เรียบเนียนมากขึ้น แต่ยังคงไว้ซึ่งลักษณะลวดลายของหนังปลากระเบน หรือหากคุณชอบผิวสัมผัสแบบมี texture เรามีหนังปลากระเบนแบบไม่ขัดผิวให้คุณเลือกได้ตามความชอบเช่นกัน
ข้อแตกต่างของหนังปลากระเบนแบบขัดผิวเรียบ และแบบไม่ขัดผิว คือ
- แบบขัดผิวเรียบ เมื่อทำสีแล้วบริเวณลวดลายเม็ดมุขบนหนังปลากระเบนจะเป็นสีขาว และสีจะอยู่ตามร่องของเม็ดมุข
- แบบไม่ขัดผิว เมื่อทำสีแล้วจะมีสีลวดลายเม็ดมุขเสมอกัน และมีความแวววาว
หนังปลากระเบนสามารถนำมาทำสายนาฬิกาได้ทุกรุ่น ทุกแบรนด์ สายหนังทุกชิ้นเป็นงาน Custom-made ที่ตัดขึ้นใหม่โดยวัดขนาดจากข้อมือของคุณเพื่อให้พอดีกับคุณเท่านั้น ออกแบบโดย “Lek Mano” นักออกแบบ นักสะสม ผู้มีประสบการณ์เกี่ยวกับนาฬิกาในทุกมิติมากกว่า 20 ปี และตัดเย็บอย่างประณีตโดยช่างคนไทยที่มีความชำนาญ
หนังปลากระเบนมีความคงทน เงางาม และยังมีความเป็นแฟชั่น ให้ลุคที่ดูสดใส สนุกสนาน เรามีหนังปลากระเบนให้คุณเลือกแมทช์สีให้เข้ากับบุคลิก และไลฟ์สไตล์ของคุณมากกว่า 20 เฉดสี
หากคุณกำลังมองหาการเปลี่ยนสายนาฬิกาสักเส้นในแบบพิเศษ ลองเลือกเปลี่ยนสายนาฬิกาเป็นสายหนังปลากระเบนกับ “MANO Strap” สัมผัสความพิถีพิถันในการผลิตสายนาฬิกาชิ้นพิเศษด้วยตัวคุณเอง และคุณยังมีส่วนร่วมในการออกแบบได้อีกด้วย
บอกสไตล์ที่คุณชอบ และความต้องการเปลี่ยนสายหนังของคุณกับเราผ่านช่องทางนี้
- เลือกสายหนังที่คุณชอบได้ที่ IG: mano_strap
- ปรึกษาเรื่องสายหนังที่เหมาะสมกับคุณได้ที่ LINE: @mano
- นัดหมายเพื่อนำนาฬิกาเข้ารับบริการได้ที่ MANO Gallery
ที่ตั้ง: MANO Gallery ห้องเลขที่ 180-181 ชั้นที่ 1
River City Bangkok เจริญกรุง 24 (ท่าเรือสี่พระยา)
เปิด: 10.00-19.00 น. โทร. 095-480-9489
- 9
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
