อังกฤษแนะนำผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ หลีกเลี่ยงการฉีดวัคซีนโควิด-19 ไว้ก่อน
หน่วยงานควบคุมยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพของอังกฤษ (MHRA : Medicines and Healthcare Products Regulatory Agency) ซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระของอังกฤษ และเป็นผู้อนุมัติให้วัคซีนของบริษัท Pfizer-BioNTec เริ่มฉีดได้ในประชาชนอังกฤษเป็นการทั่วไปเมื่อสัปดาห์ก่อน
ได้ออกคำเตือนว่า ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้(Allergic Disease) โดยเฉพาะแพ้ยาและแพ้อาหาร ชนิดที่มีอาการรุนแรง ไม่ควรรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์
เนื่องจากได้มีรายงาน ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้อย่างรุนแรง(Severe) เมื่อเข้ารับวัคซีนโควิด-19
ดังกล่าว
เกิดอาการแพ้รุนแรงแบบช็อค(Anaphylactic Reaction) ซึ่งมีโอกาสเสียชีวิตได้ แต่โชคดีที่ผู้ป่วยทั้งสองรายได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
วันนี้เรามาทำความเข้าใจ และรู้จักอาการของโรคภูมิแพ้เพิ่มขึ้นกันนะครับ
โรคภูมิแพ้ เป็นโรคที่เกิดจากสภาวะภูมิต้านทานขยันทำงานเร็วเกินไป หรือขยันทำงานมากเกิน เพื่อที่จะต่อสู้กับเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอม
(Hypersensitive)
มีอวัยวะที่เกี่ยวข้องด้วยอย่างน้อย 5 อวัยวะ
1) จมูก มักจะเรียกว่า แพ้อากาศ
2) หลอดลม มักจะเรียกว่า หอบหืด
3) ผิวหนัง มักจะเรียกว่า ผื่นแพ้หรือลมพิษ
4) ทางเดินอาหาร มักจะเรียกว่า แพ้ยา แพ้อาหาร
5) ตา มักจะเรียกว่า เยื่อบุตาอักเสบจากภูมิแพ้
ในกรณีที่เป็นการแพ้เล็กน้อย ก็จะสร้างความรำคาญ แต่ไม่มีอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต
ในกรณีที่แพ้รุนแรง อาจเสียชีวิตได้ เนื่องจากเหตุผลสองสามประการคือ
เมื่อมีการบวมของเยื่อบุหลอดลม จะทำให้หายใจไม่ออก ขาดออกซิเจน
หรือกรณีทำให้ระบบหลอดเลือดขยายตัว จนเกิดความดันลดลงอย่างมาก
ซึ่งเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้
ผู้ที่จะมีอาการภูมิแพ้ชนิดรุนแรง มักจะมีลักษณะดังต่อไปนี้คือ
1) มีอาการรวดเร็ว หลังจากสัมผัสสิ่งที่แพ้หรือรับประทานสิ่งที่แพ้ ภายใน 15 ถึง 30 นาที
2) มีอาการคันผิวหนังร่วมกับอาการบวมแบบลมพิษ
3) คันลำคอ ไอ หายใจลำบาก หายใจมีเสียงวี้ด หรือมีอาการหอบ
4) หน้ามืดเป็นลม จากความดันลดลง
5) ปวดท้องอาเจียนรุนแรง บางรายมีอุจจาระ ปัสสาวะราดด้วย
ผู้ป่วยที่มีลักษณะอันกล่าว ต้องรีบส่งห้องฉุกเฉินพบแพทย์โดยเร็ว มิฉะนั้นอาจจะเสียชีวิตได้
ในรายที่เคยมีประวัติ และรักษาตัวจนรอดมาได้ แพทย์มักจะให้ยาฉีดฉุกเฉินที่เรียกว่า Adrenaline injection หรือ Epi-pen พกติดตัวไว้ตลอดเวลา และเมื่อมีอาการฉุกเฉิน ให้ดึงปากกาดังกล่าวมาฉีดที่ต้นขาทันที เพื่อช่วยชะลออาการไว้ก่อน แล้วรีบไปพบแพทย์ภายใน 30 นาที
ส่วนความแตกต่างของ Anaphylactoid กับ Anaphylaxis เป็นระบบทางด้านวิทยาภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกัน แต่อาการคล้ายคลึงกัน และมีความรุนแรงทำให้เสียชีวิตคล้ายกัน
ผู้ที่มีประวัติภูมิแพ้ชนิดรุนแรงเท่านั้น ที่ต้องหลีกเลี่ยงการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์ไว้ก่อน
ส่วนผู้ที่มีอาการภูมิแพ้เพียงเล็กน้อย ก่อนจะรับวัคซีน คงต้องปรึกษาแพทย์ให้เรียบร้อยเสียก่อน
ขอให้ทุกคนโชคดีผ่านพ้นโควิด-19 ไปได้ด้วยดีกันทุกคนครับ
เป็นภูมิแพ้ไม่ควรฉีดวัคซีนโควิด-19
- 93
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
