เปิดกล่องปริศนาของบีจี
“โอ้ว อะไรครับนี่? โอ้ว กล่องอะไรเนี่ย”
เสียงดีโอโก หลุยส์ ซานโตในคลิปอุทาน เมื่อเห็น “กล่องปริศนา” วางอยู่บนเตียงในห้องกักตัว...ใช่ครับ นี่คือคลิปเปิดตัวดาวยิงคนใหม่ของ “บลู แมชชีน” ในเลกสอง และของในกล่องปริศนานั่นก็คือ “เสื้อหมายเลข 7” ที่อดีตดาวยิง “ปราสาทสายฟ้า” จะสวมลงสนามนั่นเอง
คลิปเปิดตัวดีโอโกถูกปล่อยบนโซเชียลของบีจี ปทุม ยูไนเต็ดต้นเดือนธันวาคม อีก 3 วันต่อมาทีม U17 ของพวกเขาต้องลงสนามแย่งแชมป์ BMA U17 Invitation Super Cup 2020 กับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
ทีมชุดใหญ่นำจ่าฝูงอยู่ แต่เส้นทางสู่แชมป์ยังอีกยาวไกล...งั้นทีมน้องขอประเดิมแชมป์สักรายการก่อนก็แล้วกัน แต่คู่แข่งก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน
ตอนจบรอบรองชนะเลิศ ผมเคยแย็บถาม “โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทยที่กุมบังเหียน BG U17 ถึงโอกาสการคว้าแชมป์ไทยลีกของทีมชุดใหญ่
“ผมคิดว่าปีนี้เปอร์เซนต์สูงที่จะได้แชมป์นะ” โค้ชโต่ยตอบเนิบ ๆ “ยิ่งได้มุ้ยกับดีโอโกมา...ยิ่งจะแกร่งมากขึ้น ช่วยเชียร์กันครับ ก็หวังว่าชุดใหญ่เราจะได้แชมป์และไปได้ดีในแชมเปียนส์ลีกครับ”
ช่วงพักโควิด แล้วมีการปรับกฎกติกามารยาทใหม่ ทั้งช่วงแข่งขัน, การเปลี่ยนตัวผู้เล่น, โควต้า ACL บวกกับการออกสตาร์ทฤดูกาล 4 นัดแรกที่เกาะกลุ่มหัวตารางมา นั่นเป็นจุดที่คุณปวีณ ภิรมย์ภักดี ประธานสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ดมองเห็น “โอกาส” ก็เลยจัดการ “ทุ่ม” เต็มที่ จนสัมฤทธิ์ผลที่ต้องการในขั้นแรกไปแล้ว (โควต้า ACL)
ถึงจะ “กล้าทุ่ม” ขนาดนี้ แต่การใช้งบประมาณของทีมก็เป็นไปอย่างมีเหตุมีผล จ่ายเยอะ แต่ไม่ยอมจ่ายเกินตัวเกินเหตุ นโยบายการปั้นทีมเยาวชนเองก็เลยยังเป็นสิ่งสำคัญของทีมอยู่เสมอ
และนั่นแหละ ทีมที่เข้าชิงฟุตบอลรายการใหญ่ที่จัดโดยสมาคมกีฬาจังหวัดกรุงเทพมหานครรายการนี้ จึงพูดได้เต็มปากว่า “ทีมแห่งอนาคตของบีจี ปทุม ยูไนเต็ด”
ทีมแห่งอนาคตของบีจี ปทุม ยูไนเต็ด
ผมมาถึงสนาม เกมก็เริ่มไปแล้วประมาณ 5 นาที วันนี้กองเชียร์คึกคักมาก ของฝั่งบีจี ปทุม ยูไนเต็ด นอกจากกองเชียร์ของสโมสรแล้ว ยังมีน้อง ๆ จากโรงเรียนวัดเขียนเขตมาร่วมเชียร์ด้วย
เอ๊ะ! นั่น แถวข้างหน้านั่น ผู้อำนวยการสโมสร สุรชัย จตุรภัทรพงศ์มาร่วมชม ร่วมเชียร์ด้วยนี่
“ทีมนี้...เป็นทีมที่คุณภาพใช้ได้เลย เราสร้างมาหลายปีแล้ว ทุกคนอยู่ด้วยกันมานาน เล่นกันด้วยความเข้าใจ แต่การสร้างทีมในระดับนี้ต้องใช้เวลาเพราะต้องมีการแก้ไข ต้องปรับปรุงตลอด นี่ก็เป็นทัวร์นาเมนท์ที่พวกเขาจะได้ทดสอบเพื่อเรียนรู้ ก่อนจะก้าวขึ้นไปเล่นในทีมชุดใหญ่ต่อไป แต่ก็ต้องใช้เวลาอยู่เหมือนกันสำหรับการจะก้าวขึ้นไป” โค้ชง้วนแสดงทัศนะถึงทีมนี้ให้ผมฟัง
“เอาเข้าจริงเด็ก ๆ ไม่มีรายการเล่นมาเลยทั้งปี ผมเลยคุยกับพวกเค้าว่า เวทีนี้จะเป็นเวทีที่เค้าได้พิสูจน์ตัวเอง ได้สร้างเนื้องานคุณภาพออกมาให้เห็น” โค้ชโต่ยเสริม “โดยเราเตรียมทีมนี้มาตั้งแต่รอบคัดเลือกเพื่อเป็นตัวแทนจังหวัดปทุมธานี เพื่อลงแข่งรายการกีฬานักเรียน นักศึกษา แล้วก็เล่นมาต่อเนื่องจนถึงทัวร์นาเมนท์นี้เลยครับ”
ผอ.ฟุตบอลบีจีมานั่งชมเกมด้วย
11 ตัวจริงของบีจี ปทุม ยูไนแต็ดเปลี่ยนแปลงจากรอบรองชนะเลิศ 2 คน ไม่มีธนกฤต ละออไขย์ก็ส่งญาณาธิป ฟักนิลมารับหน้าที่แทน
หนึ่งในเซนเตอร์ 3 คนก็เปลี่ยนมาใช้ธนากร ทองคำ แทนธีระพล กองสอน
11 คนแรกของโค้ชโต่ย
ส่วนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดนั้น เปลี่ยนจากเกมรอบรองชนะเลิศที่ถล่มเทพศิรินทร์ 3:1 แค่คนเดียวเท่านั้น ส่งนวพรรษ เทียนไชย ลงมาทำเกมรุกแทนฐภพภณ บุตรแก้ว
แล้วก็ปรับวินัย เอี่ยมโอด กัปตันทีมมาเดินเกมกลางสนามมากขึ้น
11 คนแรก “ลูกเจี๊ยบสายฟ้า”
แค่ 10 นาทีเท่านั้น บีจี ปทุม ยูไนเต็ดก็สตาร์ทเกมได้ดั่งฝัน จากกลางสนาม ธนกฤต ทองศรีจ่ายขึ้นหน้าให้ศุภสัณห์ อาจรอด จังหวะแรกเขาจับบอลไม่ดี แต่โชคยังดีที่กองหลัง “ลูกเจี๊ยบสายฟ้า” สกัดมาเด้งตัวเขาไปเข้าทางศตวรรษ ลีลา และมิดฟิลด์อนาคตไกลก็ไม่พลาดที่จะลากเข้าไปอีกนิด แล้วยิงขึ้นนำ 1:0
ศตวรรษ ลีลา (โดนบัง เสื้อขาว) ยิงให้บีจีขึ้นนำ
โดนนำเร็วทำเอาบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดตั้งเกมไม่ติดเลย แทบจะพาบอลเข้าพื้นที่อันตรายไม่ได้เลย
เคราะห์ซ้ำกรรมซัดไปกว่านั้น อีก 7 นาทีต่อมา จากลูกที่ศุภสัณห์ อาจรอดสาดจากกลางสนาม บอลลอยไปหล่นปุ๊กหน้ากรอบเขตโทษปราสาทสายฟ้า ณรงศักดิ์ เนืองวงศา ผู้รักษาประตูบุรีรัมย์พยายามวิ่งออกมาเคลียร์ แต่...พรวด ผิดจังหวะ ณัฐกิตติ์ บุตรสิงห์ อดีตดาวซัลโวคิงเพาเวอร์คัพของบีจี ปทุม ยูไนเต็ดเลยควบพาบอลเข้าไปยิง
2:0 แล้ว!!!
โล่ง ๆ แบบนี้ ณัฐกิตติ์ไม่มีพลาดแน่
เกมเหมือนจะขาดอย่างรวดเร็ว แต่ฟุตบอลก็แบบนี้ บางครั้งมันเปลี่ยนโมเมนท์ได้แค่ช่วงเวลาไม่กี่นาที
แค่ 3 นาทีหลังเสียไปสองประตู จังหวะแรกที่ผมเห็นบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดพาบอลเข้าพื้นที่อันตรายได้ พวกเขาก็เปลี่ยนเป็นความหวังเรืองรองได้ทันที!!!
จากการขึ้นเกมทางขวา บอลจ่ายมาถึงภาณุพงศ์ วงศ์พิลาท่ามกลางวงล้อมของผู้เล่นบีจี
“จะฝ่าวงล้อมไปยังไงนะ” ดาวยิงปราสาทสายฟ้า จูเนียร์อาจจะคิดแบบนั้น และจังหวะที่เขาจะแตะหนีคู่แข่ง บอลเด้งดึ๋งไปกระดอนแผงหลังบีจี แล้วไปเข้าทางนวพรรษ เทียนไชย ซึ่งดาวเตะหมายเลข 10 ของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดก็ไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไป ซัดตูม เสียบสามเหลี่ยม
1:2 แล้ว
ไม่ได้ยิงเอง ขอเอาบอลไปตั้งก็โอเค
สกอร์เบียดกันไหล่ต่อไหล่แบบนี้ เกมกลับมาสนุกอีกครั้ง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดก็คงคิดแหละ ในเมื่อผลงานชุดใหญ่ไม่ค่อยดี ก็อยากคืนความสุขให้แฟน ๆ ด้วยผลงานชุดเล็ก
แต่ก็ทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ และจบครึ่งแรกที่สกอร์
บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 2:1 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
นวพรรษ คนยิงตีไข่แตกให้บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดพยายามลากทำเกม
ครึ่งหลัง ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทยเปลี่ยนตัวผู้เล่น พร้อมทั้งปรับระบบ และเปลี่ยนเชฟการเล่นในแดนหน้านิดหน่อย โดยส่ง “คิม” กุลวัต หัสถาพันธ์ลงมาแทนธนากร ทองคำ
โดยโยกญาณาธิป ฟักนิลเข้าไปยืนเซนเตอร์แทน แล้วถอยเกริกพล อาบรัมย์ลงมายืนวิงแบ็กซ้ายแทน ส่วน “คิม” ที่ลงมาใหม่นั้นเอามายืนหลังคู่หน้าอย่างศุภสัณห์และณัฐกิตติ์
“ผมส่งคิมลงเล่นกลางรุก ยืนหลังคู่กองหน้า ส่วนนึงเพื่อมาจัดการกับเบอร์ 6 ของบุรีรัมย์ (ภาณุวิชญ์ ศิลาพงษ์) ที่ตัดบอลดี เลี้ยงบอลได้ แล้วก็จ่ายบอลได้ คือมาทำให้เค้ากังวลกับการดูแลพื้นที่ตรงนี้มากขึ้นครับ” โค้ชโต่ยอธิบายเหตุผล
“คิมเป็นคนที่มีสกิลและไอเดียมาก ๆ เป็นคนที่มีทักษะและมีอนาคต ผมคุยกับทีมงานแล้วทุกคนมองว่าคิมนี่แหละจะเป็นคนสร้างโอกาสให้เพื่อนยิง ก็เลยตัดสินใจส่งเค้าลงครับ”
กุลวัต หัสถาพันธ์...ตัวเปลี่ยนเกม
คิม กุลวัต หัสถาพันธ์ อายุแค่ 16 ปี ตำแหน่งถนัดคือกองกลางตัวรุก แต่ก็สามารถเล่นกองหน้าหรือปีกได้ด้วย คิมเล่าให้ฟังว่า
“โค้ชโต่ยบอกก่อนลงสนามว่าให้กล้าเล่น กล้าเทิร์นบอล กล้าเลี้ยง กล้าเล่นร่วมกับรุ่นพี่ครับ โดยส่งผมลงไปยืนหน้าต่ำครับ”
กลางรุกหรือหน้าต่ำ...แต่ผมแอบสังเกตว่าเหมือนคิมจะยืนสูงขึ้นไปค้ำแผงหลังคู่แข่งในบางจังหวะด้วยซ้ำ ในขณะที่คู่หน้าอย่างศุภสัณห์และณัฐกิตติ์จะฉีกออกเล่นริมเส้น แล้วโฉบเข้ามาหาจังหวะยิงประตู
คล้าย ๆ “ฟัลโซ นวยเบ (Fulso Nueve)” หรือที่คนทั่วไปเรียก “ฟอลส์ ไนน์” นั่นแหละ 555 แต่ผมติดเรียกภาษาสเปนเพราะรู้จักแท็กติกนี้เพราะทีมชาติสเปน
เวิร์คไหม?
ต้องบอกว่านี่เหมือนมนตร์ที่ “โค้ชโต่ย” ร่ายเวทย์แล้วหยิบออกมาจากกล่องปริศนาเพื่อปลิดชีพบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดจริง ๆ!!!
เมื่อทำ “2 แอสซิส” ให้คู่หน้ายิงได้คนละลูกและจบเกมนี้ด้วยแชมป์และสกอร์ 4:1
กุลวัตพยายามหลอกล่อกองหลังคู่แข่ง
ลูกแรกที่เป็นสกอร์ 3:1 คิมแล่บขึ้นทางซ้าย ตามบอลที่เพื่อนผ่านมาให้ แล้วรีบปาดเร็วให้ “ตะวัน” ณัฐกิตติ์ บุตรสิงห์จิ้มจังหวะแรกตุงตาข่าย แล้วก็มานั่งเก๊กท่าโชว์สักหน่อย
ส่วนลูกที่ 2 ที่เป็นสกอร์ปิดท้าย 4:1 นั้น คิมยกบอลหนีแผงหลังคู่แข่ง ก่อนที่จะจบที่การแอสซิสให้เพื่อนทำประตู
“ลูกนั้น...ตอนแรกผมจะล็อคยิงเองครับ แต่เหลือบไปเห็นพี่หมายเลข 23 (ศุภสัณห์ อาจรอด) ก็เลยผ่านให้พี่เค้ายิง” คิมเล่า “ตลอดทัวร์นาเมนท์นี้ ผมประทับใจแม็ทช์ชิงนี่ที่สุดแล้วครับ เพราะทำผลงานได้ดี แล้วส่วนตัวทำได้ 2 แอสซิสด้วย ประทับใจมากครับ...คือ...เราทำงานหนักกันมาตลอด วันนี้ได้เห็นผลของมันแล้ว ประสบความสำเร็จจนได้ครับ”
จังหวะเริ่มประตูที่ 4 ที่กุลวัตพยายามลากลุยฉีกคู่แข่ง
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดพอโดนหมัดน็อค 2 หมัดเด็ด ๆ ก็ยังไม่ถอดใจนะ ยังพยายามทำเกมรุกสู้อยู่ ผู้เล่นก็ยังไล่บอลอยู่ แต่พอผมเห็นเปลี่ยนตัวทีเดียว 3 คนรวดก็เริ่มสัมผัสได้ว่า “ยอมรับสภาพ” แล้ว แม้ผู้เล่นทุกคนยังทำหน้าที่อย่างหนักอยู่ก็ตาม
ต้องบอกว่าวันนี้บีจี ปทุม ยูไนเต็ดท็อปฟอร์มกว่าจริง ๆ โดยเฉพาะถ้าเทียบกับเกมรอบรองชนะเลิศในครึ่งหลังที่โดนสุรศักดิ์มนตรีบดซะเจียนอยู่เจียนไป
“คือ...ผมมองว่าฟุตบอลมันจะพีคทุกนัดไม่ได้หรอกครับ ผมก็บอกเด็ก ๆ ไปว่ารอบรองฯเราไม่ดีนะเพราะเราเจอสถานการณ์ที่เราไม่เคยเจอ บอลสุรศักดิ์มนตรีเค้าแข็งแรง เค้าโยนใส่ เลยทำให้การเล่นของเราดร็อปลง ก็อาจจะเป็นเรื่องดีก็ได้นะที่พวกเขาได้เจอแบบที่ไม่เคยเจอบ้าง พอมาเจอบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดนัดนี้ก็เลยเป็นการสร้างความมั่นใจขึ้น ทุกคนมีความกระหายเพื่อชูถ้วยแชมป์และปูทางให้พวกเขาได้เป็นนักเตะอาชีพหรือติดทีมชาติเยาวชนต่อไปครับ” โค้ชโต่ยอธิบาย
ใช่แล้วครับ บทสรุปของฟุตบอล BMA U17 Invitation Super Cup 2020 ก็คือ...การคว้าแชมป์ของบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ด้วยสถิติชนะรวดตั้งแต่รอบแรก โดยนัดชิงชนะเลิศ กดบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดไป 4:1
“สกอร์...มันก็เกินคาดนะเพราะเป็นคู่ชิงด้วย แต่ก็เป็นจังหวะของเราที่เราทำได้ ฟุตบอลก็เป็นแบบนี้แหละครับ อะไรก็เกิดขึ้นได้” โค้ชโต่ยให้ความเห็น
พวกเราคือแชมเปี้ยน
“กล่องปริศนา” ในคลิปที่โค้ชโอ่ง ดุสิต เฉลิมแสนส่งไปยังห้องกักตัวให้ดีโอโกคือเสื้อแข่งหมายเลข 7 เห็นการเล่นของน้อง ๆ บีจี U17 ชุดนี้แล้ว ผมมองว่าอาจจะมี 4-5 คนที่ “โค้ชโต่ย” ใส่กล่องปริศนาเพื่อนำไปมอบให้ทีมชุดใหญ่ขัดเกลาต่อก็ได้
“อนาคตของทีมนี้...ก็แล้วแต่ผู้บริหารของบีจีแหละครับว่าจะสร้างเค้า หรือหาแนวทางช่วยพัฒนาพวกเค้าต่อไปยังไง เพื่อเป็นนักเตะอาชีพในวันข้างหน้าครับ แต่ที่แน่ ๆ คือเราคงฟูมฟักเค้าต่อไปเรื่อย ๆ จนได้เวลาครับ” โค้ชโต่ยแสดงความเห็น
“เด็กชุดนี้...เรายังจะสร้างต่อไปเรื่อย ๆ แหละครับ อย่าลืมว่าตอนนี้พวกเค้ายัง ม.5-6 กันเอง ยังมีเวลาปรับปรุง มีเวลาแก้ไขข้อผิดพลาด ในอนาคตก็อาจจะมีการส่งเสริมให้ได้ไปเซเรโซ โอซากาเหมือนรุ่นพี่ ๆ เพียงแต่ตอนนี้ยังก่อน...ยังไปไม่ได้เพราะติดโควิดอยู่ครับ” ผู้อำนวยการฟุตบอลอย่างสุรชัย จตุรภัทรพงษ์ปิดท้าย
อย่างที่โค้ชง้วนบอกไว้แหละครับ การปั้นเยาวชนต้องใช้เวลานานหน่อย...เมื่อถึงเวลา พวกเขาก็จะก้าวออกจากกล่องปริศนา...
เพื่อสานต่อความสำเร็จของบีจี ปทุม ยูไนเต็ดในอนาคต
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
