12 ธ.ค. 2020 เวลา 16:37 • การตลาด
กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย ด้วยการ Plus Sell
1
ท่ามกลางภาวะท้าทายของธุรกิจกับการขับเคลื่อน เพื่อให้ข้ามพ้นแรงเหวี่ยงจากวิกฤติเศรษฐกิจ วิกฤติจากโควิด วิกฤติจากการแข่งขัน และวิกฤติจากยอดขายที่ดำดิ่ง
ฟันเฟืองสำคัญสำหรับร้านค้าปลีกนั่น คือ ฝ่ายปฏิบัติการ Operation ที่นับจากนี้จะเป็นฟันเฟืองที่สำคัญที่สุดที่จะเพิ่มยอดขาย หนึ่งในวิธีการเพิ่มยอดขายง่ายๆและเรารู้จักกันดี ก็คือ การ “Plus Sell”
หมายเหตุดังดัง Plus Sell ไม่ใช่ Plus Sale ในกูเกิ้ล Plus Sale ทุกเว็บ งงงง!!!!
ถ้าอยากเพิ่มยอดขาย ทำอย่างไร
แนวคิดในการส่งเสริมการขายของร้านค้า.... เพิ่มยอดขาย
1. เพิ่มยอดขาย จากการ เพิ่ม Transaction Count TC หรือ Customer Count ซึ่งมีอยู่ 2 ทาง คือ เพิ่มฐานลูกค้าใหม่ หรือ เพิ่มความถี่ในการจับจ่ายของลูกค้าเดิม
- การเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ สามารถทำได้หลายวิธี อาทิ ทำการส่งเสริมการขายร่วมกับพันธมิตรอื่น เช่น ร้านค้าปลีกส่งเสริมการขายร่วมกับโรงภาพยนตร์ โดยนำบัตรชมภาพยนตร์มารับส่วนลดสินค้าร้านค้าปลีก เป็นค้น
- การเพิ่มความถึ่ในการซื้อของลูกค้าเก่า สามารถทำได้หลายวิธีเช่นกัน อาทิ สะสมแสตมป์ครบ xx ดวงแลกของ ซึ่งเป็นกระตุ้นให้เราเข้าร้านซื้อถี่ขึ้นบ่อยขึ้นเพื่ออยากได้สินค้าของฝากที่เขากำหนด หรือส่วนลดท้ายใบเสร็จโดยกำหนดวันหมดอายุสั้นๆเพื่อกระตุ้นการซื้อ เป็นต้น
2. เพิ่มยอดขาย จากการ เพิ่ม Transaction Average TA หรือ Basket Size ซึ่งมีอยู่ 2 ทาง คือ เพิ่มมูลค่าการซื้อต่อครั้งฐานลูกค้าใหม่ หรือ เพิ่มจำนวนชิ้นต่อการซื้อต่อคครั้ง
 
- เพิ่มมูลค่าการซื้อต่อครั้งฐานลูกค้าใหม่ เคยเจอไหม เติมน้ำมันครบ 700 บาทจะได้น้ำดื่มขนาด 1.5 ลิตรหนึ่งขวด นั่นหมายความว่า โดยเฉลี่ยการเติมน้ำมันต่อรถหนึ่งคันยังไม่ถึง 700 บาท เขาพยายามดึงยอดซื้อต่อครั้งให้ได้ 700 บาทโดยเอาน้ำดื่มมาล่อเรา หรือ เวลาเข้าร้านฟาสท์ฟู้ด เขาจะเสนอ Combo Meal ในราคาพิเศษ ทั้งนี้ลูกค้าทั่วไป อาจจะมาสั่ง เเฮมเบอร์เกอร์ และน้ำดื่ม ในราคา 150 บาท แต่ถ้า Combo มีแฮมเบอร์เกอร์+เฟร้นฟรายด์+น้ำดื่ม 199 บาท ก็จะทำให้ยอดซื้อต่อครั้งสูงขึ้น
- เพิ่มจำนวนชิ้นต่อการซื้อต่อครั้ง อาทิ เวลาเข้าร้านสะดวกซื้อ เรามักจะได้ยิน “รับขนมจีบซาลาเปา ไหมคะ” นั่นเป็นเพิ่มจำนวนชิ้นต่อครั้งเพิ่มขึ้น การ Plus Sell หรือเพิ่มการขาย ของพนักงาน จะช่วยเพิ่มให้ลูกค้าซื้อเพิ่มขึ้น
Plus Sell อย่างไร HOW ให้ยอดขายเพิ่ม
ผู้บริหารร้านค้าปลีหลายต่อหลายแห่ง มุ่งแต่บอกให้เพิ่มยอดขาย แต่มักไม่ได้บอกว่า จะเพิ่มอย่างไร การเพิ่มยอดขาย จากการ เพิ่ม Transaction Count TC หรือ Customer Count ซึ่งมีอยู่ 2 ทาง คือ เพิ่มฐานลูกค้าใหม่ หรือ เพิ่มความถี่ในการจับจ่ายของลูกค้าเดิมนั้น เราก็รู้อยู่ว่า การเพิ่มฐานลูกค้าใหม่นั้นต้องใช้ค่าใช้จ่ายและความพยายามมากกว่าการรักษาลูกค้าเก่าสูงมากมากถึง 5-8 เท่า ในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ วิกฤติจากโควิด วิกฤติจากการแข่งขัน การทุ่มเทค่าใช้จ่ายจำนวนมากมากจึงไม่ใช่เรื่องที่เหมาะสม ดังนั้น การดูแลรักษาลูกค้าเก่าจึงเป็นกลยุทธ์ที่เหมาะสมที่สุดในสถานการณ์ปัจจุบัน
Plus Sell ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์เพิ่มยอดขายจากลูกค้าเดิมโดยพยายามเพิ่มแรงจูงใจในการซื้อต่อครั้ง ในเมื่อลูกค้าเข้าร้านแล้ว ทำอย่างไรให้ลูกค้าซื้อเพิ่มขึ้น
แล้วจะ Plus Sell สินค้าอะไร WHAT ให้เหมาะควร
เรามักจะได้ยิน พนักงานร้านสะดวกซื้อชื่อดังอย่าง เซเว่น มักจะนำเสนอการซื้อเพิ่ม Plus Sell “รับหนมจีบซาลาเปาด้วยไหมครับ” ซึ่งมูลค่า หนมจีบซาลาเปา ก็เพียงแค่ 10-15 บาท ทำไมเขาไม่แนะนำให้ซื้อเพิ่ม Plus Sell มูลค่าสูงๆ อย่าง แบรนด์รังนก สก๊อตรังนก ขวดละ เกือบร้อย จะได้เพิ่มยอดขายได้สูงๆมากๆ
โดยทฤษฎี การ Plus Sell ให้ลูกค้าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ซื้อเพิ่มขึ้น จะมีมูลค่าประมาณ 20-25% ของมูลค่าการซื้อต่อครั้ง ค่าเฉลี่ยการซื้อของร้านสะดวกซื้อราว 65-70 บาท การ Plus Sell หนมจีบซาลาเปา ก็เพียงแค่ 10-15 บาท หรือราว 21% ก็มีความเป็นไปได้สูงที่ลูกค้าจะตัดสินใจซื้อ แต่ถ้าไป Plus Sell แบรนด์รังนก สก็อตรังนกขวดละเกือบ 100 บาท ในขณะที่ลูกค้าซื้อปกติที่ 65-70 บาท คิดว่าลูกค้าจะซื้อไหม ?
หากมูลค่ายอดซื้อต่อบิลของร้านเราประมาณ 280-300 บาท มูลค่าสินค้าที่จะ Plus Sell ก็น่าจะมูลค่าราว 40-50 บาท มากไปกว่านั้น ลูกค้าคงยากที่จะตัดสินใจ
ดังนั้น ทางสาขาก็ต้องเตรียมสินค้าในช่วงราคา 30 -40- 50- บาทไว้ให้พร้อม สินค้าที่เตรียมนำเสนอ ควรเป็นสินค้า impulse สินค้าที่ลูกค้าที่อาจจะไม่คิดจะซื้อแต่ถ้ามีคนทักก็..เออ ดีนะ เช่น ช่วงนี้ยุงชุม มีสเปรย์ฉีดกันยุงยังครับ หรือ เป็นสินค้าที่สอดคล้องกับสินค้าที่ลูกค้านำมาชำระ เช่น เมื่อลูกค้าซื้อเบียร์ อาจจะ Plus Sell ว่า ไม่รับถั่วทอดไปเป็นกลับแกล้มด้วยหรือครับ รอบสัปดาห์หนึ่งเตรียมไว้สัก 4-5 ตัวพอ ช่วยกัย Plus Sell
แล้วจะ Plus Sell เมื่อไร WHEN ให้ได้ผล
ทางสาขาก็คงต้องแนะนำให้ แคชเชียร ต้องสังเกตุเมื่อลูกค้านำสินค้ามาชำระเงิน ถ้าสินค้าที่นำมาชำระเงินมีมูลค่าราว 250 บาท แต่ค่าเฉลี่ยยอดซื้อต่อบิลของร้านเรา 280 บาท แคชเชียร์ก็จะต้องแนะนำสินค้าให้ลูกค้าซื้อเพิ่มเติมอย่างน้อย 30 บาท เพื่อจูงใจให้ลูกค้าซื้อเพิ่มให้ถึง 280 บาทหรือมากกว่า
ช่วงเวลาที่จะแคชเชียร Plus Sell ให้ได้ผล ก็คือช่วงเวลาก่อนที่ลูกค้าหยิบเงินมาชำระค่าสินค้า ดังนั้น แคชเชียรก็ควรจะขานสินค้าตอนเวลาสแกน เช่น แชมพู 57 บาท น้ำยาปรับผ้านุ่ม 87 บาท น้ำมันพืช 56 บาท ผ้าอ้อมเด็ก 45 บาท รวมเป็นเงิน 245 บาท แคชเชียรก็ควรรีบเสนอสินค้า Plus Sell มีมูลค่าราว 30-40 บาท ให้ลูกค้าตัดสินใจ เช่น ตอนนี้ ปลากระป๋องโรซ่าลดราคา 2 หระป๋อง 45 บาทจากราคาปกติ 55 บาท รับเพิ่มไหมครับ ลูกค้าจะได้ตัดสินใจได้ง่าย แต่ถ้าลูกค้าชำระเงินแล้ว แคชเชียรมา Plus Sell คงยากที่ลูกค้าจะตัดสินใจซื้อเพิ่ม
กลยุทธ์ Plus Sell ไม่มีต้นทุน ไม่มีค่าใช้จ่าย แต่เพิ่มยอดขายได้ผล อย่างไรก็ตาม ก็ต้องสินค้าที่จะ Plus Sell และเลือกจังหวะเวลาให้เหมาะสม
โฆษณา