14 ธ.ค. 2020 เวลา 05:15 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
ปราศจากหนังใหม่เด็ดๆ เปิดตัว The Croods 2 ครองแชมป์หนังทำเงินต่อไปอีกสัปดาห์
แอนิเมชันของยูนิเวอร์แซล The Croods: A New Age ยังคงเป็นแชมป์หนังทำเงินประจำสัปดาห์ไปอีกอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ โดยบรรดาภาพยนตร์ที่เข้าฉายต่างทำเงินกันแบบเหงาๆ สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา The Croods 2 ทำเงินไปอีก 3 ล้านเหรียญ จากการฉายในสัปดาห์ที่สาม รายได้รวมของหนังอยู่ที่ 24.1 ล้านเหรียญ
โดยปกติแล้ว ในไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้าคริสต์มาส บรรดาสตูิโอต่างๆ ก็เปิดตัวหนังใหม่ๆ กันน้อยมากๆ อยู่แล้ว และในปีนี้ ที่เป็นช่วงเศรษฐกิจย่ำแย่ อันเนื่องจากปัญหาโรคระบาด เพราะฉะนั้นไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่โรงภาพยนตร์ราวๆ 5,500 จอที่เปิดให้บริการจะไม่มีหนังใหม่เปิดตัวเลย และทำให้บรรดานักวิเคราะห์มองกันว่า The Croods: A New Age น่าจะเก็บรายได้เมื่อจบโปรแกรมราวๆ 35 ล้านเหรียญในตลาดอเมริกาเหนือ
นับมาถึงตอนนี้หนังจากชายคาของยูนิเวอร์แซล สามารถยึดอันดับ 1 หนังทำเงินประจำสัปดาห์มาแล้ว 7 สัปดาห์ติดต่อกัน
งานนี้ต้องขอบคุณข้อตกลงที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งช่วยให้ทางยูนิเวอร์แซลส่งหนังใหม่ๆ ลงบริการหนังตามสั่งภายในไม่กี่สัปดาห์หลังจากการเปิดตัวในโรงหนัง ทำให้สามารถปล่อยหนังสเกลเล็กๆ ออกฉายอย่างต่อเนื่องมากกว่าบรรดาสตูดิโอคู่แข่ง จนหนังจากยูนิเวอร์แซลและโฟกัส ฟีเฌอร์ส บริษัทในเครือมีหนังยึดอันดับหนังทำเงินแบบไม่ขาดสาย โดยเฉพาะในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หนังสามจากห้าเรื่องบนอันดับหนังทำเงินคือหนังจากบริษัทที่มีคอมแคสท์เป็นเจ้าของ
ที่น่าสนใจก็คือ The Croods 2 จะต้องเจอกับคู่แข่งสำคัญในช่วงคริสต์มาส แต่เป็นในตลาดโฮมเอนเตอร์เทนเมนท์ เมื่อเอชบีโอ แม็กซ์กัลดิสนีย์ พลัสจะปล่อย Wonder Woman 1984 และ Soul ออกฉายตามลำดับ โดยไม่เก็บค่าชมเพิ่มจากบรรดาสมาชิก แต่ The Croods: New Age จะลงตลาดหนังตามสั่งพรีเมียมด้วยราคา 20 เหรียญ
ในตลาดนอกอเมริกา Croods 2 ทำรายได้แล้ว 76.3 ล้านเหรียญ และในตลาดจีนหนังทำเงินทั้งหมด 46 ล้านเหรียญ หรือ 300 ล้านหยวน แซงหน้า Mulan ที่ทำรายได้ 278 ล้านหยวนกลายเป็นหนังตะวันตกทำเงินมากที่สุดอันดับ 2 ของปีนี้ที่จีน เป็นรองแค่ Tenet ที่ทำรายได้ 66.6 ล้านเหรียญ
อันดับที่สอง เป็นหนังเบาสมอง-ดรามาของโฟกัส ฟีเฌอร์ส Half Brothers ที่ทำเงินไป 490,000 เหรียญจาก 1,386 จอ หลังฉายไปแล้วสองสัปดาห์หนังทำเงินไปแล้ว 1.3 ล้านเหรียญ
หนังประจำช่วงฮอลิเดย์ Elf งานเบาสมองที่วิลล์ เฟอร์เรลล์รับบทนำ ซึ่งเปิดตัวฉายไปตั้งแต่ปี 2003 ถูกนำกลับมาฉายใหม่และทำรายได้ดีจนขึ้นมาถึงอันดับ 3 ด้วยรายได้ 400,000 เหรียญ
หนังสยอง-สลับร่างของยูนิเวอร์แซล Freaky อยู่ในอันดับ 4 เมื่อทำรายได้ 315,000 เหรียญ มาถึงตอนนี้หนังเก็บรายได้รวมไปแล้ว 8.2 ล้านเหรียญ
มาถึงตอนนี้ The War with Grandpa กลายเป็นหนังฮิตแบบเงียบๆ ในช่วงโรคระบาดไปแล้ว หนังยังไม่หลุดไปจากท็อปไฟว์ โดยทำสถิติติดอยู่ในอันดับหนังทำเงินได้ยาวนานอย่างไม่น่าเชื่อ หลังจากฉายไปแล้วสองเดือน หนังทำเงินเพิ่มมากอีก 260,000 เหรียญ รายได้รวมในอเมริกาเหนืออยู่ที่ 17.96 เหรียญ
นับตั้งแต่ The Croods: A New Age เปิดตัวฉายในสุดสัปดาห์วันขอบคุณพระเจ้า ยังไม่มีหนังที่เปิดตัวในวงกว้างจริงๆ อีกเลย แม้จะมีหนังที่โฆษณาว่าเปิดฉายในวงกว้าง เพราะวงกว้างในทุกวันนี้คือราวๆ 35% ของโรงภาพยนตร์ทั้งหมด ที่เปิดให้บริการในยามปกติ แต่อย่างน้อยก็มีหนังโรแมนติก-ดรามาที่นำแสดงโดย เอมิลี บลันท์ และเจมี ดอร์แนน - Wild Mountain Thyme เปิดตัวฉายในวงจำกัด หนังที่คำวิจารณ์ไม่ดีเลยเรื่องนี้ ได้เงิน 100,466 เหรียญจาก 450 จอ คิดเป็นรายได้เฉลี่ยต่อโรง 223 เหรียญ หนังเป็นการกำกับ-เขียนบทของจอห์น แพทริค แชนลีย์ ผู้เขียนบท Moonstruck โดยดัดแปลงมาจากละครเวทีรางวัลโทนี Outside Mullingar
สถานการณ์ของโรงภาพยนตร์ในตอนนี้ไม่ดีนัก เมื่อมีเปิดให้บริการเพียงน้อยนิด โดยหวังว่าสถานการณ์น่าจะดีขึ้นในช่วงคริสต์มาส เมื่อ Wonder Woman 1984 เปิดตัวในวันที่ 25 ธันวาคม วันเดียวกับการปล่อยให้ชมทางเอชบีโอ แม็กซ์ โดยในวันคริสต์มาส ไม่ได้มีแค่งานภาคต่อของซูเปอร์ฮีโรหญิงให้ได้ชมกัน เพราะยังมี News of the World หนังตะวันตกของทอม แฮงค์ส และหนังระทึกขวัญว่าด้วยการล้างแค้นของแครีย์ มุลลิแกน Promising Young Woman ออกฉาย โดยเป็นผลงานของยูนิเวอร์แซลและโฟกัสตามลำดับ
อ่านแล้วชอบ อย่าลืมกดติดตาม และยังมีเรื่องราวมากมายให้อ่านได้ที่ www.sadaos.com และทำความรู้จักกันได้มากกว่านี้ด้วยการกดไลค์เพจ www.facebook.com/Sadaos
โฆษณา