EP.31
วันนี้มีความรู้ดีๆมาฝาก เป็นประสบการณ์จากการทำ Skincare ขายมาสิบกว่าปี ถ้าจะเป็นประโยชน์กับใครบ้าง หยิบฉวยไปใช้ไปแชร์ต่อได้
ความรู้พวกนี้เป็นสากล แต่ความที่เมืองไทยตั้งอยู่ในเขตเส้นศูนย์สูตร ภูมิอากาศร้อนชื้น มีคนจำนวนนึงใช้ Skincare เพราะมี อาการผิวแห้ง เรื่องเหล่านี้มีประโยชน์และใกล้ตัวมากทั้งกับทั้งชายและหญิง โดยเฉพาะคนอายุ 35 ปี+
พวกเราส่วนใหญ่เรียนรู้กันว่า พออายุมากขึ้น ร่างกายจะสามารถผลิตฮอร์โมนและสารที่เป็นประโยชน์กับการดำรงชีวิตลดลง นอกจากเรื่องนี้แล้ว ยังมีปัจจัยอื่นที่ทำให้ผิว (เสีย) ร่วมด้วยคือ เครื่องประทินผิว อาหารการกิน การใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป การมีชีวิตอยู่ในห้องแอร์ การอาบน้ำอุ่น เป็นต้น ปัจจัยการใช้ชีวิตต่างๆเหล่านี้ ทำให้ผิวมีการเปลี่ยนสภาพเมื่ออายุมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคนผิวธรรมดา ผิวแห้ง ผิวมัน การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะทำให้ผิวเสียมากขึ้นเรื่อยๆอย่างช้าๆ แล้วแต่บุคคลและการใช้ชีวิต
Skincare ที่เขาทำขายกันทั่วโลกยืนอยู่บนการ "ให้ความชุ่มชื้นกับผิว" ส่วนยี่ห้อไหนจะมีจุดขาย มี benefit อะไรแถมมา ก็ขึ้นอยู่กับแบรนด์นั้นๆแล้ว การใช้ Skincare ต้องคำนึงถึงสภาพผิวของตัวเองเป็นหลัก คนผิวแห้งหรือผิวแพ้ง่ายจะเป็นคนกลุ่มแรกๆที่มองหา Skincare มาใช้เพราะ ความแห้งของผิวมันสร้างความรำคาญในการใช้ชีวิต เช่น อาจจะอาการคันผิว ผิวเป็นขุย กระทั่งถึงแสบผิว จะเห็นได้ว่า มีคนจำนวนมากซื้อแชมพูมาใช้แล้วคันหรือแสบหนังศรีษะหรือใช้แล้วผมร่วง ซื้อแฮนด์ครีมมาใช้ เพราะชอบกลิ่นแต่มันไม่ค่อยซึม ใช้เบบี้ออยล์แบรนด์ใหญ่ที่ขายกันทั่วประเทศแล้วเกิดอาการคัน ในที่สุดก็ต้องทิ้ง และต้องหาสินค้าอื่นที่เหมาะกับเรา แต่เนื่องจากคนส่วนใหญ่จะมองหาราคาที่เอาถูกหรือเอากลิ่นที่ตัวเองชอบก่อนที่จะมองหาคุณภาพมาก่อน ตลาดจึงมีช่องว่างมากมาย ทำให้มีสินค้ามากมายเพื่อตอบสนองตลาดนี้
AKALIKO Body oil 250 ml.
อย่างที่เกริ่นตอนแรกคือ ผิวที่มีการเปลี่ยนสภาพ "แห้งมากขึ้น" ตามอายุขัยที่เพิ่มขึ้น ปกติร่างกายจะมีกระบวนการตามธรรมชาติเพื่อสร้างความชุ่มชื้นให้กับผิว ซึ่งจะออกมาในรูปของเหงื่อ หรือความชื้นต่างๆในร่างกายทั้งในและนอกร่มผ้า แต่อาจจะน้อยลงเนื่องเพราะฮอร์โมนในร่างกายผลิตน้อยลง เราสามารถเติม ความชุ่มชื้น ให้กับร่างกายได้ 2 ทางนะครับ คือ ดื่มน้ำให้มากขึ้น หรือทานอาหารที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบและใช้เครื่องประทินผิว Skincare ซึ่งเป็นการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวเพื่อบรรเทาอาการ
ปกติร่างกายจะมี "ไขมัน" อยู่ใต้ชั้นผิวหนัง และเป็นส่วนหนึ่งช่วยสร้างความชุ่มชื้นให้กับผิว Skincare ส่วนใหญ่มักจะมีส่วนผสมกันของ "น้ำและน้ำมัน" โดยมีสัดส่วนความเป็นน้ำมากกว่า แต่การที่มีน้ำมากกว่ากลับไม่ได้เป็นส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้น แต่ส่วนผสมที่สร้างความชุ่มชื้นกลับ "สารบำรุง" (Active ingredients) มากกว่า ซึ่งจะแตกต่างกันออกไปแบบแบรนด์ใคร แบรนด์มัน
Skincare พื้นฐานที่ช่วยได้คือ Lotion ใช้ทาได้ทั้งตัว โลชั่นที่ดีๆจะใช้กับใบหน้าได้ด้วย (ญี่ปุ่นมีขาย) และคนไทยจำนวนมากใช้โลชั่น แต่โลชั่นจะใช้ได้ดีถึงอายุประมาณ 30-35 ปีเท่านั้น หลักจากนั้นก็จะต้องใช้มากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะเดียวกันชั่วโมงที่โลชั่นช่วยให้ผิวชุ่มชื่นก็ลดลงเรื่อยๆในเวลาเดียวกัน
Hand cream ก็ทาได้ทั้งตัว แต่แนะนำให้ใช้กับ ฝ่ามือ, หลังมือ, เล็บ, ฝ่าเท้า ข้อพับที่มีรอยย่นเช่น หัวเข่า ข้อศอก Hand cream ที่ดีต้องช่วยป้องกันจมูกเล็บฉีกด้วย แนะนำให้มองหา Hand & Nail cream ดีกว่า
Body oil ใช้ได้ทั้งตัว ใช้กับหนังศรีษะได้ด้วย คนไทยส่วนใหญ่กลัวน้ำมันเพราะคิดว่ามันเหนียวเหนอะและล้างออกยาก ซึ่งถ้าเราทาตัวทั้งตัวในขณะที่ตัวแห้งอาจจะเหนียวตัวนิดนึง ลองใช้วิธีนี้ดูคือใช้ Body oil หลังอาบน้ำตัวเปียกหมาดๆ ใช้น้อยๆก่อนโดยเทลงบนฝ่ามือ ประกบมือแล้วละเลงทั่วตัวที่เปียกๆ มันจะค่อยๆซึมเข้าผิวหนัง น้ำมันที่ดีมันจะดีกับผิวมาก เพราะช่วยหลายเรื่องเกี่ยวกับผิว ที่สำคัญที่สุดคือทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น
อย.บ้านเรายังไม่ได้ให้ความสำคัญกับ Skincare พื้นฐานมากเท่าที่ควร ความที่ AKALIKO ส่งออกไปญี่ปุ่นและเกาหลี 2 ประเทศนี้ใส่ใจในรายละเอียดแม้กระทั่ง Simple skincare มาก มีสินค้าบางอย่างตอนซื้อระวังนิดนึง เช่น Hand cream ใช้ทามือ แล้วคนเรามักจะใช้มือที่ทาหยิบจับอาหารใส่ปาก มันจะมีเคมีติดอาหารเข้าปากด้วย เพราะฉะนั้นเวลาเลือกซื้อให้ดูกันหน่อย
มีอีกเรื่องที่ต้องระวังคือ Skincare ที่ใส่วัตถุกันเสียเช่น Paraben ต่างๆ อาจเป็นพวก Poly-paraben คนเคยเป็นมะเร็งห้ามใช้ สารกลุ่ม Paraben เป็นสารที่ก็ให้เกิดมะเร็งเต้านม หากใช้ไปนานๆ
Skincare ที่มีส่วนผสมของ Collagen น่าใช้และปลอดภัยต่อทุกสภาพผิว เพราะในร่างกายมีสารนี้อยู่แล้ว ส่วนสาร Collagen ส่วนใหญ่ที่ใช้กับเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ ซึ่งมีทั้งที่สกัดจากปลาทะเลน้ำลึก วัวและถั่ว
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
