8. ซามูไรก็มีหลายระดับชั้น
ระดับชั้นของซามูไรมีการจัดแบ่งไว้ตามสังคมศักดินาญี่ปุ่น ซึ่งแต่ละยุคสมัยหรือในแต่ละเมืองก็จะมีรายละเอียดต่างกันไปบ้าง เช่นในสมัยมุโรมาจิหรือยุคเซ็นโกคุ การเลื่อนชั้นของซามูไรยังพอมีความยืดหยุ่นอยู่บ้าง เพราะเป็นยุคสงครามระหว่างแคว้น แต่ละหัวเมืองต้องการหาคนเก่ง แต่ในยุคเอโดะที่ภายในประเทศไม่มีสงคราม ตระกูลโตคุงาวะได้นำปรัชญาขงจื่อเข้ามาใช้ ทำให้มีการจัดแบ่งลำดับชั้นของสังคมชัดเจน ตัวอย่างเช่นซามูไรในเมืองโทสะจะแบ่งเป็นชั้นล่างและชั้นสูง
9. จะเป็นซามูไรโดยสมบูรณ์ต้องผ่านพิธีบรรลุนิติภาวะ
เมื่อลูกหลานในตระกูลซามูไรมีอายุได้ 15 ปี จะต้องเข้าพิธี “เก็มปุกุ” เป็นการยืนยันและแสดงสถานะของตนว่าเป็นผู้ใหญ่ แล้วจะได้รับชื่อใหม่ (ตัวอย่างเช่น ซากาโมโตะ เรียวมะ เมื่อเป็นผู้ใหญ่ก็เปลี่ยนมาใช้ชื่อ ซากาโมโตะ นาโอคาเงะ ซึ่งถือว่าเป็นชื่อทางการ) เท่ากับซามูไรหนุ่มพร้อมจะรับผิดชอบตนเองและตระกูล สามารถแต่งงานเพื่อผลิตทายาทต่อไปได้ ปัจจุบันพิธีนี้ยังมีอยู่
10. ในยุคสงคราม ซามูไรชายที่หลับนอนกันเอง เป็นเรื่องธรรมดา
ในหนังซามูไร เรามักเห็นคนใกล้ชิดพวกไดเมียวหรือซามูไรที่มีตำแหน่งสูงๆ จะมีเด็กหนุ่มหน้าตาดีเป็นคนติดตามอยู่ใกล้ชิด เรียกพวกนี้ว่า นันโชคุ การหลับนอนด้วยกันของพวกซามูไรจึงคล้ายกับพวกผู้นำชาวกรีกยุคโบราณ ซึ่งพวกนักรบยุคโบราณต้องออกรบแทบทุกวัน มีความเครียดสูง ไม่สะดวกที่จะพาผู้หญิงติดตามไปด้วย กลายเป็นว่าพวกขุนศึกจะมีเด็กหนุ่มหน้าตาดีเหล่านี้ไว้ปรนเปรอบนเตียง และทำหน้าที่เป็นองครักษ์ไปด้วย แล้วการได้ทำหน้าที่เช่นนี้ ถือว่าเป็นเกียรติและโอกาสก้าวหน้ามาก นอกจากนี้ยังมีประเพณีชุโด ซึ่งเป็นการผูกสัมพันธ์ระหว่างซามูไรผู้ใหญ่กับซามูไรหนุ่มหน้าอ่อนไร้ประสบการณ์ด้วย
11. คว้านท้องถือเป็นเกียรติยศสูงสุด
พิธี “เซ็ปปุกุ” หรือการคว้านท้อง ถือเป็นการแสดงความกล้าหาญและเกียรติยศขั้นสูงสุดเป็นครั้งสุดท้ายของซามูไรที่พ่ายแพ้ หรือในยุคสงครามกลางเมือง ซามูไรหลายคนยอมคว้านท้องเพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบ แลกเปลี่ยนกับความอยู่รอดของคนในปกครองทั้งเด็กและผู้หญิง ฝ่ายข้าศึกก็จะยอมรับในเกียรตินั้น แล้วไว้ชีวิตครอบครัวของอีกฝ่าย (แม้จะไม่ใช่ทุกครั้ง แต่ก็เป็นส่วนมาก) แล้วซามูไรทุกคนจะมีดาบสั้นที่เรียกว่า ทันโตะ สำหรับใช้คว้านท้องติดตัวไว้โดยเฉพาะ แล้วในบางครั้งจะมีผู้คอยทำหน้าที่ช่วยลงดาบให้ จะถือว่านี่เป็นการได้รับเกียรติจากผู้ตายอย่างสูงสุด