Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Michael Suwan
•
ติดตาม
15 ธ.ค. 2020 เวลา 02:06 • นิยาย เรื่องสั้น
#เล่าเท่าที่จำได้ 19- เปลี่ยนแปลงอีกครั้ง
ทำงานอยู่แผนกอังกฤษครบรอบปีนึงแล้วในตำแหน่งระดับสาม แม้เงินเดือนมากขึ้นแต่ยังคงไม่พอเพียงที่จะทำให้เลิกงานท๊อปส์ได้ แถมบ่อยครั้งที่ปัญหาเศรษฐกิจที่บ้านก่อเกิดการ "หมุนเงินไม่ทัน" ค่าใช่จ่ายที่ต้องลงไปตรงนี้ก็เยอะจน ไมเคิลอยู่แบบ "พออยู่พอกินไป"
พี่ที่เราเคยทำงานแทนที่แผนกฝรั่งเศสก็กลับมาได้ปีนึงแล้วเหมือนกัน เป็นพี่ผู้หญิงที่อัธยาศัยดีมากๆ บ่อยครั้งที่แก "ข้ามแผนกมาคุยด้วย" เพื่อถามไถ่ว่าได้ทำอะไรบ้างตอนที่มาแทนแกกว่าปี แกก็คอยบอกเสมอว่า "ไมเคิลก็ทนๆอยู่แผนกอังกฤษไปก่อนนะ เชื่อว่าพี่ๆหลายคนที่ทำอยู่ตรงนี้ ใกล้แล้วแหล่ะที่เกษียณตัวเอง น่าจะไม่เกินปีสองปีหรือเต็มที่สามปีนี้ ไมเคิลก็ค่อยกลับมาทำด้วยกันนะ" เราก็เออออไป เพราะมันตั้งอีกหลายปีนี่เน๊อะ แล้วถ้าเกิดที่มันว่างขึ้นจริงๆ ยังไงก็ต้องไปสอบแข่งกับคนด้านนอกอยู่ดี หรืออาจจะมีคนในด้วยก็ได้
แผนกอังกฤษการทำงานจะแตกต่างจากฝรั่งเศสโดยสิ้นเชิง อย่างตอนที่ผมทำแผนกฝรั่งเศส ก็จะได้เทปมาเป็นม้วนๆ ที่นักแปล อัดมาเป็น Dictation ให้มาถอดความแล้วพิมพ์เป็นเอกสารเป็นส่วนๆ เป็นพาร์ทๆ ร่วมกับพี่ๆคนอื่นในแผนก ก่อนจะส่งต่อให้นักแปลเขียนข้อความแก้ไขเป็นดินสอหรือปากกาแดงกลับมา เพื่อที่เราจะแก้อีกให้เรียบร้อย แล้วค่อยรวบรวมเอาทุกๆพาร์ทของทุกๆคนมารวมเป็นเล่มเดียว เป็นเอกสาร "หนึ่งเล่ม" แล้วแต่ละเดือนแต่ละปี มันจะมีเอกสารออกมามากมาย บางปีสี่สิบห้าสิบเล่ม ซึ่งถือว่าน้อยแล้วนะ เพราะในยุคหลังๆมันถี่ยิบและเยอะยิ่งกว่านี้อีก ไว้มีโอกาสจะเล่าให้ฟัง
แต่กับแผนกอังกฤษ เอกสารจะส่งตรงมาจากหน่วยงานที่เตรียมการประชุม ส่งมาให้เอดิเตอร์ทำการ "กรองและเกรา" อีกทีเป็นภาษาที่เป็นทางการมากขึ้น วิธีการที่เอดิเตอร์ทำก็คือ เขียนแก้เป็นดินสอหรือปากกามาเป็นแผ่นๆให้ แล้วให้เราเปิดไฟล์ในไดรฟของแผนกเอาเองแล้วไปแก้ไขคำต่างๆในนั้น คือไม่ต้องมานั่งถอดเทปพิมพ์แบบฝรั่งเศส แต่ละคนก็แก้กันไปคนละส่วนสองส่วน เมื่อแก้เสร็จส่งไปตรวจทานซ้ำ ถ้ายังมีปัญหาก็แก้อีก เพิ่มเติมอีก จนได้ที่แล้วก็จบแค่นั้น ชีฟจะเอาไปรวบรวมแล้ว "ฟอร์แมต" เป็นรูปเล่มเองคนเดียว คือวันๆหน้าที่ของผมและพี่ๆในแผนกก็คือ "แก้คำ เติมนู่นนี่นั่น" วนๆเวียนๆอยู่แบบนั้น ถ้าจะบอกว่าเป็นงานที่น่าเบื่อก็คงต้องยอมรับ แต่ก็ทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ อยากจะลองฟอร์แมตบ้างเหลือเกิน แต่ก็นะ หัวหน้าไม่ไว้ใจใครนอกจากตัวเองนี่เน๊อะ ก็เออๆ เอาตามนั้นแหล่ะ ดีที่พี่ๆในแผนกน่ารักกันมาก อายุก็เกือบๆหม่าม้ากันแทบทุกคน เราเหมือนได้นั่งทำงานร่วมกับ "แม่ๆ" ซึ่งก็โอเค ต่างวัยกันเยอะ แต่ก็คุยกันได้ ว่างๆก็ไปกินข้าวกัน วันดีคืนดีแกเห็นไมเคิลอ่าน "นิยายกำลังภายใน" ที่เอามาอ่านฆ่าเวลาตอนรองาน แกก็ขอหยิบยืมไปอ่านบ้าง เพชรพระอุมา ล่องไพร แกก็ยืมนะ แกบอกว่าชอบไม่นึกว่าไมเคิลจะเป็นคอเดียวกัน สรุปผมอ่านหนังสือเหมือนคนสูงอายุหรือนี่ เพิ่งรู้ตัว 555
และแล้วก็เกิดเหตุพลิกผันขึ้นอีกครั้ง เมื่อ "พี่ตู่"แผนกฝรั่งเศส ที่เป็นคนที่เป็น "สายสุขภาพ" กินชิวจิต เต้นแอโรบิค โยคะ อยู่ประจำ ดันเกิด "หัวใจวาย" จนต้องเข้าผ่าตัดด่วน "กล่าวคือบายพาสนั่นแหล่ะ" ต้องพักฟื้นนานเลย ทำให้ "พี่พงษ์" ซุปฯแผนกฝรั่งเศส เรียกมาคุยว่า "ไมเคิล เธอช่วยสองแผนกไปก่อนได้มั๊ย? " พูดง่ายๆ เธอช่วยทั้งฝรั่งเศสและอังกฤษไปพร้อมๆกันก่อนได้มั๊ย เพื่อแบ่งเบางานตอนที่ "พี่ตู่" พักฟื้น น่าจะหลายเดือนหน่อย พี่ไปขอซุปฯแผนกอังกฤษไว้แล้ว เขาโอเค ถือว่าช่วยกัน ตอนนี้ "ไมเคิลเลยกลายเป็น ลูกครึ่งสองแผนก "อังกฤษและฝรั่งเศส" ไปโดยปริยาย ดีทีว่าแผนกมันอยู่ติดกัน เดินหากันได้ ปัญหาเลยไม่มี แต่ประเด็นคือ "จากงานน่าเบื่อแผนกอังกฤษ กลายเป็นเร้าใจขึ้นมาเลยเมื่อต้องทำฝรั่งเศสควบคู่ไปด้วย" นั่นคือ เราได้เห็นต้นฉบับอังกฤษทั้งหมด ก่อนที่นักแปลชาวฝรั่งเศสจะนำไปแปล คือเห็นตั้งแต่ต้นกระบวนการไปจนปลายน้ำ แต่ในทางกลับกัน ก็เหมือนว่าเราต้องทำงานเดียวกัน "สองรอบ" เพียงแต่คนละภาษาเท่านั้น
ทำแบบนี้อยู่นานหลายเดือน ในที่สุด "พี่ตู่" ก็พักฟื้นกลับมา แต่การกลับมาครั้งนี้ แกไม่ได้กลับมาเพื่อทำงานต่อ แกกลับมา "ขอเกษียณตัวเอง" เพราะแกก็หกสิบแล้ว มีปัญหาโรคหัวใจอีก แกไม่อยากจะทำงานอีกต่อไปแล้ว อยากจะใช้ชีวิตของแกเองแล้ว พี่พงษ์จึงเรียกไมเคิลไปคุยว่า "ไมเคิล โพสต์ของพี่ตู่จะลงประกาศออนไลน์แล้วนะ ไมเคิลถ้าอยากกลับมาอยู่ด้วยกัน สมัครเลยนะ ครั้งนี้จะเลื่อนขึ้นเป็นตำแหน่งระดับสี่แล้วนะ โอเคมั๊ย" ครับ โอกาสมาถึงอีกครั้ง ถ้าทำสำเร็จนี่จะเป็นการเลื่อนขั้นครั้งที่สอง แต่กลับมาแผนกเดิมแรกเริ่มแบบไม่ต้องทดแทนใครแล้ว จะเป็นตัวจริงแล้ว ไม่ใช่ตัวสำรองของใครเขาอีก แน่นอน ไมเคิลสมัครไป มีการสอบร่วมกับหลายๆคนที่ยื่นความจำนงค์เข้ามาแย่ง "งานนี้ด้วย"
การสอบคือสิ่งที่เราทำมันประจำอยู่แล้ว ในอดีตก็คือ "การถอดเทป" แล้วพิมพ์มาเป็นรายงานให้กรรมการตรวจ แน่นอนไมเคิลเข้ารอบสัมภาษณ์
การนัดสัมภาษณ์ครั้งนี้ "เมลมาถึงโดยไม่มีปัญหาอะไร ไม่ต้องไปตามเรื่องเหมือนครั้งก่อน" คนที่สัมภาษณ์ไม่ใช่คนเดิม แต่เปลี่ยนเป็น "เอดูอาร์" ชีฟของแผนกฝรั่งเศสคนใหม่ ที่เคยเป็นนักแปลมาก่อน การสัมภาษณ์ต่างๆเคี่ยวขึ้นเยอะ มีการใช้คำถามกดดันต่างๆนานา แต่ก็เอาตัวพอได้ แม้จะทุลักทุเลบ้างกับบางคำถามที่แฝงนัยยะ "จิกกัด" บ้าง
ท้ายที่สุด "พี่พงษ์" เดินมาหาที่โต๊ะแล้วบอกว่า "ยินดีต้อนรับกลับมานะไมเคิล เดี๋ยวเลขาแผนกจะเอาสัญญาฉบับใหม่มาให้เซ็น" แน่นอนครับ สัญญาฉบับใหม่ก็ยังคงเป็น "ต่อสองปีครั้ง" นานแล้วที่ไม่มีสัญญาถาวรหรือ "เพอร์มาเน้นท์" ให้ใคร แต่ก็ดีกว่าไม่ได้อะไรเน๊อะ ไมเคิลจากระดับสอง ตอนนี้มาอยู่ระดับสี่แล้ว ใช้เวลาสามปี
ซุปฯแผนกอังกฤษ "ที่กลายเป็นนายเก่า" เดินมาหาที่โต๊ะ บอก "ยินดีด้วยนะ แต่เสียดาย ที่แผนกเราต้องเสียคนไปอีกแล้ว ทำไมน้อ ชอบมาแย่งคนของเราจัง " ว่าไปนั่น "แต่ท้ายที่สุด" ซุปฯเขาก็อวยพรให้โชคดี เราไม่ได้ไปไหนไกลหนิ แผนกอยู่ติดกัน ก็แว่ะทักทายมากินข้าวกันบ่อยๆนะ ขอบคุณครับซุปฯ
เหมือนกลับมาเยือนถิ่นเก่า บ้านหลังเก่า ด้วยประสบการณ์ที่มากขึ้น ความกลัว ความกังวลใจใดๆหายไป เราเหมือนกลับไปทำงานเก่าด้วยสถานะที่ดีขึ้นกว่าตอนแรก แม้ว่าจะยังไม่ได้ระดับเดียวกับพี่ๆเขา แต่ไม่เป็นไร พร้อมกับ "แชปเตอร์" ต่อไปแล้ว
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย