สมโณฤกษ์ หมายถึงฤกษ์ของความสุข ความสงบ นักบวช นักสอนศาสนา สิ่งลี้ลับ สมโณฤกษ์เป็นฤกษ์กลุ่มใหญ่ มี ๓ กลุ่มดาวนักษัตรที่สถิตสมโณฤกษ์ คือกลุ่มดาวอาสเลษา ดาวเชษฐา และดาวเรวดี
.
พูดภาษาปัจจุบันให้เข้าใจง่ายขึ้น คนเกิดสมโณฤกษ์ก็คือ คนที่ตกฟากออกจากท้องแม่ เมื่อดาวฤกษ์กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งใน ๓ กลุ่มนี้คือดาวอาสเลษาในราศีกรกฎ ดาวเชษฐาในราศีพิจิก และดาวเรวดีในราศีมีน ขึ้นอยู่ริมขอบฟ้าตะวันออก
.
บุคคลคนไหนเกิดขณะที่ดาวกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งใน ๓ กลุ่มนี้ขึ้นริมขอบฟ้าตะวันออก จะมีดวงจิตที่สามารถบรรลุธรรมขั้นสูง เป็นผู้ชายถ้าเป็นนักบวชก็เป็นคนได้ญาณขั้นสูง ถ้าเป็นผู้หญิง ก็เป็นนักบวชสตรี หรือมีพลังอำนาจทางจิต เป็นแม่มด
.
ตัวอย่างในตำราฤกษ์บนที่บอกไว้เล่มหนึ่งก็คือ
ฤกษ์ที่ ๙ อาสเลษา ผู้ใดเกิดมาในฤกษ์นี้ แม้นเป็นชีจะได้เป็นปรินายกดำรงพระศาสนา บ่มิฉะนั้นจะเป็นนักธรรม ถ้าเป็นคฤหัสถ์จะเป็นเสมียนตุลาการแลหมอโหร ถ้าเป็นหญิงจะได้เป็นแม่เรือนผู้ใหญ่มีชื่อเสียง แม้นตระกูลต่ำจะเป็นแม่มด
.
ฤกษ์ที่ ๑๘ เชฏฐผู้ใดเกิดในฤกษ์นี้ ประกอบด้วยพระเคราะห์เป็นอุจจาวิลาสห้าตัว จะได้เป็นฤษีวิทยาธรเหาะไปทางอากาศทั้ง ๘ ทิศ ถ้าเป็น(บรร)พชิตจะได้เป็นปรินายกราชาคณะสงฆ์ ทรงพระไตรปิฎกทั้งปวง ถ้าตระกูลพราหมณ์จะรู้จบไตรเพท ผิว่ามีอุจจ์สามตัวจะเป็นฤษีดาบส ผิว่ามีอุจจ์สองตัวก็ดุจเดียวกันแล จะเป็นชี ต่อเฒ่าแล้วจะทรงธรรมกถึก ถ้าเป็นคฤหัสถ์จะเป็นสมุห์เสมียนผู้ใหญ่ ถ้าเป็นผู้หญิงจะได้เป็นมด แม่พระสงฆ์อันรู้ธรรมวินัยแล
.
ฤกษ์ที่ ๒๗ เรวดี ผู้ใดกำเนิดในฤกษ์นี้ และมีมหาอุจ 8 ตัวจะถึงซึ่งนิพพานในชาตินี้ ถ้าเป็นอุจจาวิลาสจะเป็นฤาษีมีฤทธิ์สามารถเดินทางโดยรอบจักรวาลเพียงลัดนิ้วมือเดียว ถ้าบวชในศาสนาจะได้เป็นสังฆปรินายก รู้จบพระไตรปิฎก สรรพทุกประการ ถ้ามีมหาอุจ 2 ตัว ถ้าเป็นนักบวชเรียนจะอุดม ถ้าเป็นหญิงจะได้เป็นมารดาพระสงฆ์ โดยถอยลงมาจะได้เป็นแม่มดหมอ แต่มักจะเกิดทุกข์ยาก
.
นอกจากนี้คนที่สามารถพัฒนาการใช้จิตหยั่งรู้โดยตรง ใช้ intuition ได้เต็มสามารถ ยังมีคนที่มีชะตากำเนิด เฉพาะลงไปอีกในหลายลักษณะ ดังเช่นคนที่ดาวเจ้าเรือนมรณะกุมลัคน์, หรือคนที่ดาวเกตุ ดาวพลูโต ดาวมฤตยู มีผลมากกับลัคนากำเนิด
.
แต่ทั้ง ๔ สาเหตุของการได้มาแห่ง Intuition นี้ ดิฉันเห็นว่า “ชะตากำเนิด” สำคัญที่สุด เพราะเป็นต้นรากที่จะแตกหน่อออกผลให้นำไปสู่อีก ๓ สาเหตุที่จะติดตามมา
.
มนุษย์ที่มีชะตากำเนิดที่มีความสามารถใช้จิตหยั่งถึงโดยตรง ในยุคสมัยต่อๆมา ในพื้นที่สุวรรณภูมิ แผ่นดินประเทศไทยแห่งนี้ สำหรับผู้ชายยังมีช่องทางให้เขาไปเป็นนักบวช ภิกษุ นักรบ โหราจารย์ แต่ผู้หญิงไม่มีโอกาสเช่นนั้น หนังสือก็อ่านไม่ออก ไม่ได้เรียนหนังสือ จะไปเป็นนักบวชพระภิกษุก็ไปบวชไม่ได้ โลกของการเป็นพระเป็นโลกของผู้ชาย ช่องทางเดียวที่จะใช้พลังความสามารถนี้ได้ก็คือ ไปเป็นแม่มด ยายมด หมอดู ดูฤกษ์ยาม เป็นหมอยา หมอตำแย หมอผี ร่างทรง เป็นยายเฒ่า ช่วยให้ข้อคิดให้ความรู้ให้คำปรึกษาอยู่ในทุกชุมชน เป็นครูช่างทำงานต่างๆของผู้หญิง พวกงานทอผ้า งานฝีมือ งานจักสาน คนเหล่านี้อยู่กันมาอย่างเข้มแข็ง มีอยู่ในทุกชุมชน ทุกหมู่บ้านทั่วประเทศ มีอยู่ในกลุ่มคนทุกศาสนา พวกเธอสื่อสารกับผี กับธรรมชาติ ทำเช่นนี้ตลอดมาจากอดีต เป็นอยู่ปกติในชีวิตปัจจุบัน และจะมีอยู่ เป็นอยู่ทำกันอยู่ ต่อไปในอนคต ไม่มีวันหมดสิ้น