16 ธ.ค. 2020 เวลา 15:12 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
เฟซบุ๊ก ออกฟีเจอร์ สั่งอาหารจากเพจ ได้แล้ว
ในที่สุด แอปสั่งอาหารทุกราย ก็ต้องหันมามอง ว่าคุณกำลังจะทำอะไร?
เรื่องนี้ไม่ต่างจาก การที่เราเป็นเจ้าของห้างท้องถิ่น
แล้วอยู่ดีๆ ก็มีห้างดัง ระดับประเทศ เข้ามาล้อมรั้ว แล้วติดป้ายว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นที่นี่
เรื่องนี้มันมีอะไรน่าวิเคราะห์บ้าง?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ทุกคนรู้ดีว่า เมกะเทรนด์หนึ่งที่ร้อนแรง ก็คือการสั่งอาหารให้ส่งถึงบ้าน
โดยเฉพาะช่วงโควิด 19 ที่พฤติกรรมการสั่งอาหารถึงบ้าน โตระเบิด
คนที่สนุกสนานกับระเบิดลูกนี้ก็คือ แอปสั่งอาหารทั้งหลาย
อย่างไรก็ตาม แอปสั่งอาหารเหล่านี้ก็ยังขาดทุนอยู่
เพราะต้องเอาเงินไปสนับสนุนค่าส่ง ถึงแม้ว่าในช่วงหลังจะเริ่มมีการเก็บ GP จากร้านอาหารบ้างแล้วก็ตาม
แต่ด้วยผู้เล่นที่มากมาย การแข่งขันที่มี ก็เลยทำให้ทุกคนต่างไม่ยอมกัน
เราจึงได้กินอาหารมากมาย ด้วยค่าส่งที่คุ้มค่า ดีกว่านั่งรถไปเอง
มาวันนี้..
มีผู้เล่นหน้าใหม่ ที่หลายคนอาจนึกไม่ถึงมาก่อน
และมันอยู่ใกล้ตัวเรา จนบางทีก็เป็น เส้นผมบังภูเขา
ผู้เล่นคนนั้น ก็คือ “เฟซบุ๊ก”
ตอนนี้ เฟซบุ๊กได้ออกฟีเจอร์ เมนูสั่งอาหารให้กับเพจ
โดยเพจเป็นคนใส่เมนู ใส่ราคาเข้าไป เหมือนใส่ข้อมูลคอนเทนต์
ประเด็นมันอยู่ที่ว่า
ผู้ใช้งานคนอื่นสามารถดูเมนูที่ชอบ แล้วกดเป็น Order การสั่งซื้อได้เลย
โดยสามารถเลือกได้ว่าจะรับอาหารที่ร้าน หรือ ให้ร้านค้าไปส่ง
ซึ่งเรื่องนี้แน่นอนว่า Flow นี้มันคือ Flow การสั่งอาหารของแอปส่งอาหารที่เราใช้กัน
หลังจากนั้น Order จะถูกส่งเข้า Messenger ของร้านอาหาร
ซึ่งการจ่ายเงินก็จะขึ้นอยู่กับว่าเราจะจ่ายเงินผ่านทางไหน
และร้านอาหารจะส่งอาหารให้เราได้อย่างไร
1
ก็คงต้องบอกว่า ในตอนนี้คนไทย อาจจะยังไม่คุ้นเคยกับการจ่ายเงินบน Messenger หรือ ร้านค้าอาจจะยังไม่รู้ว่าจะส่งอาหารให้ถึงมือผู้สั่งอาหารอย่างไร
ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งที่แอปสั่งอาหารยังได้เปรียบอยู่
เพราะแอปสั่งอาหารมีทั้ง
1.ระบบการชำระเงิน เก็บเงินปลายทาง ที่คนไทยคุ้นเคย
2.พาร์ตเนอร์คนขับ ที่ไปรับอาหาร ไปส่งอาหาร โดยที่ร้านค้าไม่ต้องเข้าไปจัดการเรื่องนี้
แต่ก็น่าคิดว่า ถ้าต่อไปเฟซบุ๊กทุ่มเงินมาจัดการเรื่องนี้
หรือมี บุคคลที่ 3 เห็นโอกาสอันยิ่งใหญ่ ทำระบบเหล่านี้แล้วพาร์ตเนอร์กับเฟซบุ๊ก
ถึงตอนนั้น ตลาดส่งอาหารบ้านเรา จะเป็นอย่างไร?
จากเรื่องนี้ทำให้คิดได้ว่า
ตลาดการส่งอาหารบ้านเรา สงครามยังไม่จบ
เปรียบเสมือนสามก๊กที่ ยังไม่มีผู้ชนะที่ชัดเจน และระหว่างทางก็ต้องสู้รบกันไป
เงินที่เผาไปในแต่ละวันเพื่อสนับสนุนค่าส่ง ก็เหมือนกองกำลังทหารที่เสียไป
และสุดท้าย คนที่ชนะ
อาจไม่ได้เป็น คนที่อยู่ในสงคราม ตั้งแต่วันแรก ก็เป็นได้..
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
1
โฆษณา