"Bully อ่านว่า "บูลลี่" (การกลั่นเเกล้ง ) คำศัพท์ยอดฮิตที่กำลังถูกพูดถึงในห้องเรียน"
.
ผมพยายาม check-in (เตรียมความพร้อม) ด้วยกิจกกรรมทำความรู้จักนักเรียนก่อนเสมอ เพราะคิดว่ามันจะช่วยเราได้มากในการค่อยๆรู้จักพวกเขาผ่านกิจกรรมอย่างมีลำดับขั้น ซึ่งตรงนี้ในฐานะครูผมก็ต้องระวังอยู่มากเหมือนกัน ในเรื่องของขอบเขตความเป็น privacy (ความเป็นส่วนตัว) ของนักเรียน
.
ถ้าถามนักเรียนห้องผมว่ารู้จัก "บูลลี่" ไหม? ผมมั่นใจว่านักเรียนทั้งห้องรู้จักดีเลย เสมือนว่าเป็นคำภาษาไทยคำหนึ่งไปเเล้ว ตั้งเเต่เริ่มสอนวันเเรก ผมพยายามเน้นย้ำเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน เพราะเจอสถานการณ์การกลั่นเเกล้งทางคำพูดที่ฟังเเล้วไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เเต่จะไม่พยายามห้ามเลยในทันที เพราะคิดว่านักเรียนอาจจะยังไม่เข้าใจความหมายของการ "บูลลี่" อย่างลึกซึ้ง ถึงจะมีบางส่วนที่เข้าใจเเล้ว เเต่พวกเขาอาจจะยังไม่พร้อมยอมรับก็ได้
.
เมื่อวาน check-in นักเรียนโดยการตั้งโจทย์ "Find 10 things in common" โดยให้เเบ่งกลุ่มประมาน 4-5 คนต่อกลุ่ม เเล้ว brainstorm กันในหัวข้อ "สิบอย่างที่เราคิดว่ามีเหมือนกัน" เเล้วจับเวลา หลังจากนั้นให้นักเรียนออกไปเขียนสรุปพร้อมกันบนกระดาน เเล้วให้ตัวเเทนกลุ่มเเบ่งปันให้เพื่อนๆฟัง
.
ผมทบทวนสิ่งที่นักเรียนเเต่ละกลุ่มสรุปเขียนบนกระดาน จนมาสะดุดข้อความหนึ่งซึ่งเขียนว่า “ไม่ชอบคนๆเดียวกัน" ตอนนั้นก็ตั้งใจจะอ่านข้ามข้อนี้ไป เพราะเราเข้าใจในทันทีว่านักเรียนต้องการสื่อสารอะไร เลยถามนักเรียนไปว่า "ข้อนี้หมายถึงไม่ชอบเเฟนคนเดียวกันหรอครับ?" นักเรียนรีบปฏิเสธ ผมไม่ถามต่อ ว่าเเล้วก็ข้ามไปอ่านข้ออื่น
.
บอกตามตรงว่าผมรู้สึกเฟลล์กับกิจกกรรมนี้มาก เพราะเกรงว่าเราจะเป็นตัวจุดชนวนอะไรบางอย่างให้นักเรียนได้สื่อสารในสิ่งที่เขาไม่ทันได้คิดอย่างรอบคอบ ผมอาจจะไม่ได้รู้จักนักเรียนทุกคนดีพอ เเต่ก็พอรู้ว่าสิ่งเเวดล้อมในห้องเรียนเราเป็นอย่างไร อาจจะมีนักเรียนบางคนหรือบางกลุ่มพอใจกับกิจกรรมวันนี้มากๆ ในขณะเดียวกันก็อาจจะมีนักเรียนบางคนที่รู้สึก suffer (เจ็บปวด) กับกิจกกรรมนี้เหมือนกัน
.
มันผ่านไปเเล้ว ลองมาคิดทบทวนดู จากกิจกรรมนี้เรารู้ว่าห้องเรียนมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เราควรจะรับมือกับสถานการณ์การกลั่นเเกล้งในห้องเรียนได้อย่างไรบ้าง เเละที่สำคัญเลยคือ นักเรียนของเราไม่ได้เข้าใจความหมายของคำว่า "บูลลี่" ดีขนาดนั้น