22 ธ.ค. 2020 เวลา 05:00 • ประวัติศาสตร์
“สตีเฟน ฮอว์กิง (Stephen Hawking)” อัจฉริยะบนรถเข็น” ตอนที่ 3
“ข่าวร้าย” และ “ความรัก”
ในปีสุดท้ายของการเรียนอ็อกซ์ฟอร์ด ก็ได้มีบางอย่างที่ทำให้สตีเฟนรู้สึกเอะใจ
ที่ผ่านมานั้น ถึงแม้ว่าสตีเฟนจะเป็นคนที่เดินงุ่มง่าม แต่ตอนนี้เขาเริ่มจะเดินชนนู่น ชนนี่ และมักจะหกล้ม
นอกจากนั้น ในเวลานี้ แม้แต่การผูกเชือกรองเท้าก็เริ่มจะยาก และวันหนึ่ง เขาก็ตกบันไดและหมดสติ เมื่อตื่นขึ้นมา เขาก็จำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใคร
สตีเฟนนั้นอาการดีขึ้นและกลับมาจำได้ แต่นี่ก็เป็นสัญญาณเตือนถึงความผิดปกติ แต่สตีเฟนก็เลือกที่จะไม่สนใจ และไม่บอกพ่อกับแม่ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น
สตีเฟน (คนที่สองจากซ้าย แถวนั่งด้านหน้า)
แต่ถึงจะเริ่มมีปัญหา แต่สตีเฟนก็จบจากอ็อกซ์ฟอร์ดด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง
5
การได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่งจากอ็อกซ์ฟอร์ด เป็นบันไดสู่ก้าวต่อไปของเขา นั่นคือการเรียนต่อจนจบปริญญาเอก
1
สตีเฟนได้ศึกษาต่อที่ “ทรินิตี คอลเลจ (Trinity College)” ซึ่งเป็นหนึ่งในวิทยาลัยของมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ (Cambridge University) ในปีค.ศ.1962 (พ.ศ.2505) ขณะมีอายุได้ 20 ปี โดยสาขาที่เขาเลือกศึกษาคือจักรวาลวิทยา ซึ่งเป็นการศึกษาเรื่องราวของจักรวาล
1
นักจักรวาลวิทยามือหนึ่งของวิทยาลัยคือ “เฟรด ฮอยล์ (Fred Hoyle)” ซึ่งสตีเฟนก็หวังว่าจะได้เรียนกับฮอยล์ แต่ก็ต้องผิดหวัง เนื่องจากเขาได้เรียนกับคนอื่น นั่นคือ “เดนนิส ชาร์มา (Dennis Sciama)”
เฟรด ฮอยล์ (Fred Hoyle)
เดนนิส ชาร์มา (Dennis Sciama)
การเรียนจักรวาลวิทยาก็เริ่มต้นอย่างเชื่องช้า เนื่องจากการเรียนวิชานี้จำเป็นต้องรู้สมการทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อน ซึ่งที่ผ่านมา สตีเฟนก็ไม่ได้เรียนคณิตศาสตร์มากพอ เขาจึงต้องติวเข้ม
สตีเฟนยังคงมีปัญหา เดินชนนู่นนี่ หกล้มอยู่เหมือนเดิม แต่คราวนี้ แม้แต่การพูดก็เริ่มจะมีปัญหา เขาเริ่มจะพูดได้ยากขึ้น
ภายหลังจากเรียนผ่านไปหนึ่งเทอม สตีเฟนก็ได้กลับบ้านในช่วงวันหยุดคริสมาสต์ และในงานปีใหม่ ค.ศ.1963 (พ.ศ.2506) สตีเฟนก็ได้พบกับหญิงสาวที่ชื่อ “เจน ไวลด์ (Jane Wilde)”
1
สตีเฟนและเจน
เจนนั้นอายุน้อยกว่าสตีเฟนสองปี และก็รู้จักสตีเฟนเป็นอย่างดี
น้องของสตีเฟนเรียนโรงเรียนเดียวกับเจน และก็เคยเห็นกันมาบ้างแล้ว แต่ในงานปีใหม่นี้ เป็นครั้งแรกที่ทั้งคู่ได้คุยกัน
เจนนั้นประทับใจในตัวของสตีเฟน และเจนก็ได้เจอกับสตีเฟนอีกครั้งในอีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมา ในงานวันเกิดอายุ 21 ปีของสตีเฟน
1
ภายหลังจากงานวันเกิดอายุ 21 ปีของตนไม่นาน สตีเฟนก็ไม่สามารถปกปิดความผิดปกติของตนเองได้อีกต่อไป พ่อและแม่ได้พาสตีเฟนไปหาหมอ ซึ่งหมอก็ได้ทำการตรวจร่างกายของสตีเฟนอย่างละเอียด
1
หลังจากผ่านไปสองสัปดาห์ หมอก็ได้แจ้งข่าวร้ายแก่สตีเฟนและครอบครัว
สตีเฟนเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือ “Amyotrophic Lateral Sclerosis” เรียกย่อๆ ว่า “ALS”
2
ผู้ป่วยโรค ALS
ผู้ป่วยโรค ALS จะมีความผิดปกติในเซลล์ที่ทำหน้าที่ควบคุมกล้ามเนื้อของร่างกาย และเมื่ออาการแย่ลงเรื่อยๆ ผู้ป่วยจะไม่สามารถใช้ส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น แขน ขา มือ และก็จะไม่สามารถขยับส่วนใดของร่างกายได้เลย แม้แต่หายใจ
2
หมอได้แจ้งว่าไม่สามารถรักษาได้ และสตีเฟนจะมีชีวิตอยู่ได้อีกแค่ประมาณสองปีเท่านั้น
สตีเฟนนั้นรับไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้น และไม่แน่ใจว่าควรจะกลับไปเรียนต่อดีมั้ย ในเมื่อเขาก็จะมีชีวิตอยู่ได้เพียงไม่นาน
ก่อนที่เขาจะทราบว่าตัวเองป่วย การเรียนของเขาก็ไม่ได้ก้าวหน้ามากนัก แต่ตอนนี้เขาป่วย ก็ยิ่งแย่กว่าเดิม และการเรียนต่อปริญญาเอกก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยสามปีถึงจะเรียนจบ
สตีเฟนนั้นเสียใจหนัก บางครั้งเขาจะนั่งเงียบๆ ในความมืด และฟังเพลงคลาสสิคจากแผ่นเสียงเพื่อปลอบประโลมใจ
นอกจากนั้น เขายังเริ่มจะฝันร้าย เพื่อนๆ และครอบครัวต่างเป็นห่วงเขา
ศาสตราจารย์ชาร์มาเป็นคนที่ยื่นมือเข้ามาช่วย เขาโน้มน้าวให้สตีเฟนกลับไปเรียน ซึ่งสตีเฟนก็ยอมกลับไปเรียน
5
เช้าวันหนึ่ง เมื่อเขากลับไปที่มหาวิทยาลัย สตีเฟนก็ได้พบเจนที่สถานีรถไฟ ซึ่งขณะนั้น เจนกำลังไปลอนดอน ซึ่งเป็นทางที่รถไฟไปเคมบริดจ์ต้องผ่าน
ทั้งคู่ไม่ได้คุยกันมาซักพักหนึ่งแล้ว เจนรู้ว่าสตีเฟนไม่สบายและเข้าโรงพยาบาล และทั้งคู่ก็พูดคุยกันตลอดทาง และสตีเฟนก็ได้ชวนเจนไปออกเดท
สตีเฟนและเจน
เจนตอบตกลง และทั้งคู่ก็ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ
ทั้งคู่ได้ตกหลุมรักกันแล้ว
แต่ชีวิตรักของสตีเฟนจะสมหวังหรือไม่ ชีวิตของเขาจะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามได้ในตอนหน้านะครับ
โฆษณา