22 ธ.ค. 2020 เวลา 02:43
14. โอละพ่อ
เราได้คุยกันถึงเรื่องงที่หญิงสาวมาถามหาชาญณรงค์ถึงห้องพัก สร้างความลำบากใจให้กับพวกเรามาก เพราะพากเราไม่ต้องการมีปัญหาและไม่ต้องการย้ายที่อบรมอีกแล้ว หลายคนจึงออกความเห็นว่าควรใด้พูดคุยกับชาญณรงค์ให้เข้าใจ
เราไม่ได้อิจฉาเขาที่มีสาวสวยมาหาถึงเรือน มาเยือนถึงถิ่น แต่อย่างใด แต่ขอให้เว้นระยะห่างออกไปซักหน่อย เผื่อเเธอคนนั้นมีหนุ่มที่เป็นเจ้าถิ่นหมายปองเธออยู่ ก็เดี๋ยวจะมีปัญหากระทบกระทั่งกันได้
http://oknation.nationtv.tv/blog/Pasinee/2010/01/27/entry-1
ทุกคนเห็นต้องกันว่าควรเจรจากับชาญณรงค์ถึงเรื่องราวที่เราวิตก ด้วยเหตุนี้จึงมีชื่อ ประะโยชน์ เข้ามาเกี่ยวข้องเพราะประโยชน์เขาสนิทสนมกับชาญาณรงค์เป็นอย่างดี ประโยชน์เขารับอาสาทีจะไปชวนชาญณรงค์มาคุยกับพวกเรา หลังอาหาร เย็นวันพรุ่งนี้
ถึงวันรุ่งขึ้นพวกเราหลายคนก็มาพร้อมหน้ากัน เพื่อจะช่วยพูดให้ชาญณรงค์ืเข้าใจถึงเรื่องที่เรากังวล เมื่อชาณรงค์มาถึงนั่งทำหน้ามึนอยู่นั้น ชำนาญก็เป็นคนเปิดฉากเจรจากับชาญณรงค์ทันที เริ่มด้วยการกล่าวถึงชีวิตคู่ของคนเรามาจากการพบกันในระยะสั้น-ยาว ตามแต่ในชีวิตของแต่ละคนคงไม่เหมือนกัน
ชำนาญโอ้เอ้ ขี่ม้าเลียบค่ายไปเรื่อย. ๆไม่ยอมเข้าเรื่องเสียที เขากล่าวต่อไปโดยมีชาญณรงค์นั่งฟังอยู่เบื้องหน้าว่า บางครั้งพบกันชั่วครู่ ชั่วคราว พัฒนามาเป็นคนรัก ถึงขั้นแต่งงานกัน หรือเราจะพบปะหยอกล้อสนุกสนานกัจบแล้วก็เลิกกันไป
ซึ่งเป็นปกตินิสัยของพวกเราวัยหนุ่มสาว แต่อยากขอร้องชาญณรงค์ว่าอย่าให้ใกล้ชิดเกินไป ให้ห่าง ๆมันจะเกิดปัญหากับพวกเราได้ให้ทิ้งระยะห่างๆ กันไว้บ้างนาน ๆพบกันซักครั้ง เดี๋ยวต้องย้ายที่อบรมใหม่อีก ถึงแม้เพียงแค่พูดเล่นก็ตาม
แต่ที่พวกเราต้องพูดวันนี้ ไม่ใช่ห้ามปรามหรือไปขัดขวางอะไร เพียงแต่ขอให้ห่าง ๆกันหน่อย พยายามกันพวกเราไว้ไม่ให้ไปเกี่ยวข้อง หรือไม่เวลาพบปะกันก็อย่าพาพวกเราไปเป็นเพื่อน กลัวจะมีปัญหาย้ายที่อบรมอีกครั้ง
เมื่อได้จังหวะที่ชำนาญหยุดหายใจ และเตรียมจะกล่าวต่อชาญณรงค์ขัดจังหวะขึ้นว่า
" พี่พูดเรื่องอะไรกันละ่ ผมไม่รู้เรื่อง ผมงงไปหมดแล้ว "
ชาญณรงค์ถามด้วยความงุนงง สีหน้าแววตาของเขาบอกว่าสงสัยจริง ๆ ไม่ได้เสแสร้ง ชลอ ชึ่งนั่งรับฟังการพูดคุยกับชาญณรงค์อยู่ด้วย เริ่มต้นอธิบายกับชาญณรงค์ แทรกชำนาญ ขึ้นมาว่า
" ชาญ. มันเป็นอย่างที่ชำนาญว่าจริง ๆ มีผู้หญิงมมหาชาญที่ห้องมาถามหาชาญกับนิพนธ์ว่าชาญณรงค์อยู่ไหม ใช่ไหมนิพนธ์ "แล้วชลอก็หันมามาทางนิพนธ์ให้ช่วยยืนยันคำพูดของตนอีกคน
" จริง ๆชาญ ผมนั่งเล่นอยู่ที่ประตูพอดี เขามาถามหาชาญกับผม สวยเสียด้วยซื " นิพนธ์ยืนยันคำพูดของชลออีกคนเพื่อสำทับว่าที่ชลอและชำนาญพูดมานั้น มันเป็นเรื่องจริง
" รูปร่าง เป็นอย่างไรพี่ "ชาญณรงค์ถาม
" ก็สวยซิวะ ผมยาวประบ่า ยิ้มก็สวย แต่งตัวมาแบบบ้าน ๆที่สำคัญสวยวะ " ชลอชมความสวยของหญิงสาวรายนี้ยำ้แล้วย้ำอีก
ชาญณรงค์ขมวดคิ้วเข้าหากัน ครุ่นคิดว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกันแน่ แต่ผมนั่งคิดในใจว่าเจ้าชาญณรงค์นี่แฟนมันมากถึงขนาดต้องนั่งทบทวนกันเลยหรือ ว่าน่าจะเป็นคนไหน ซักครู่ชาญณรค์ก็หันไปถามนิพนธ์
" พี่ผู้หญิงคนนั้นผิวขาวเหลือง ผมยาวประบ่า สยายผม ไม่รวบผม คิ้วเข้มตาคม ๆขนตาสวย ๆ. อย่างนี้ใช่ไหมพี่ "ชาญณรงค์ถามนิพนธ์อีกครั้ง
" ใช่ " นิพนธ์ตอบแบบไม่ต้องคิด "ลักษณะที่ถามมา ก็ว่าใช่ แต่ที่ไม่ใช่คือตอนที่มาถามหานั่นรวบผมไปไว้ข้างหลังแต่โดยรวมแล้วจัดว่าสวย นี่แหละมั้งที่เขาว่าคนสวยโพธาราม คนงามบ้านโป่ง "
"สงสัยน่าจะเป็นสาวมอญ " มานิตย์ออกความเห็นหลังจากนั่งฟังมานาน
" สาวมอญมันต้องที่พระประแดง " นิพนธ์ กล่าวขึ้นมาลอย ๆ
" อ้อ ผมคิดได้แล้ว ผมรู้แล้ว ว่ามันเกิดอะไรขึ้น " ชาญณรงค์โพล่งขึ้น
ดัง ๆ หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้ว
" อะไรวะชาญ " สองสามคนในกลุ่มถามข้ึน แต่ถึงไม่มีเสียงคำถามออกมาทุกคน ก็มีคำถามนี้ในใจของพวกเขาอยู่แล้ว
" คือมันยังงี้ " แล้วชาญณรงค์ก็เริ่มต้นอธิบาย "วันนั้นหลังจากทานมื้อเที่ยงที่โรงอาหารแล้ว ผม พี่พรเทพ พี่นพดล ชวนกันมาเดินเล่นที่ข้างนอกผ่านร้านอาหารตามสั่ง พี่นพดลแกเหลือบไปเห็นเมนู ราดหน้าทะเลแกอยากกินก็เลยชวนพวกเราไปกินด้วยกันอีก "
เขาพักหายใจนิดหนึ่งพร้อมเล่าต่อว่า
" ที่จริงยังไม่หืวหรอกแต่จะกินเป็นเพื่อนพี่นพดล พอสั่งอาหารเสร็จ พี่นพดลมีเหรียญในระเป๋าก็ไปหยอดตู้เพลง แล้วกลับมานั่งฟังเพลงที่โต๊ะ ขณะนั้นมีผู้หญิงเดินเข้ามาในร้าน 2 คนมาซื้อนำ้และพูดทักทายกับเจ้าของร้านที่กำลังผัดราดหน้าให้กับเรา ผมลุกขึ้นไปหยิบขนมว่างมาทานเล่น รอราดหน้า ผ่านไปทางที่เขายืนอยู่ "
" ตอนเดินกลับ. เขาถามผมว่ามาจากที่ไหนเพราะคงไม่ใช่คนแถวนี้แน่นอน ถ้าเป้นคนแถวนี้ต้องรู้จัก ผมบอกว่าพวกผมมาอบรมที่นี่เดือนหนึ่งเขาถามว่าผมพักที่ไหนผมบอกเรือนที่พักไป พอตอนสุดท้ายผมจะไปที่เก้าอี้ที่เดิมเขาถามผมคำสุดท้ายว่าผมชื่ออะไร ผมก็บอกเขาไป "
แล้วเขาก็เลือกซื้อขนมขบเคี้ยวไปคู่กับเครื่องดื่มไปกิน โดยไม่ได้คุยกันอีกเลย เขาจ่ายค่าเครื่องดื่ม คุยกับแม่ค้าสองสามประโยคแล้วก็จากไปผมสงสัยว่าที่มาถามหาผมน่าจะเป็นหนึ่งในสองคนนี้แน่ "
เอ แต่ลักษณะที่พูดกันมันก็น่าจะใช่ " นิพนธ์ออกความเห็น
" นอกจากสองคนนี้ผมไม่เตยคุยกับใครเลย "ชาญณรงค์ยืนยัน
" ถ้าอย่างนั้นคงใช่ " ถ้าไอ้ชาญมันมั่นใจเช่นนั้น " ชำนาญรวบรัดสรุปอย่างรวดเร็ว
พวกเราก็คุยกันว่าถ้าเป็นอย่างนั้นก็คงสบายใจได้ว่าชาญรรงค์ไม่ได้ไปสร้างเรื่องนี้ไว้ แล้วตอนนี้ที่เคยโทษว่าชาญณรงค์จะสร้างปัญหาเรานั้นกล้บต้องมาขอโทษเขา และเริ่มเป็นห่วงชาญณรงค์แทน กลัวจะเกิดเรื่องที่ไม่ดีเกิดขึ้นกับตัวเขาและเตือนให้เขาระมัดระวังตัวไว้บ้างอย่าประมาท
ในที่สุดเราก็เข้าใจว่าชาญณรงค์เขาไม่ได้หาเรื่องเดือดรัอนมาให้เรา แต่ต้องเป็นพวกเราที่จะต้องช่วยเขาระมัดระวังตัวด้วยเพราะเรื่องเช่นนี้อาจเกิดขึ้นได้เสมอในวัยอย่างพวกเรา พอเข้าใจกันแล้วว่าอะไรคืออะไรพวกเราก็สลายตัวกันไปที่พักหรือทำภาระกิจของตนเองต่อไป
ขณะที่เรากำลังแยกย้ายกันอยู่นั้น ได้ยินเสียงนิพนธ์พูดออกมาดัง ๆเหมือนต้องการให้ทุกคนได้ยิน
" นี่แหละน้า. "โทษของคนที่เกิดมารูปหล่อ แถมสูงยาว เข่าดี มักจะมีปัญหาเช่นนี้เสมอ
"
โฆษณา