อีลอน มัสก์ เคยของให้ Apple เข้าชื้อ Tesla เพราะใกล้ล้ม
ทิม คุก ปฏิเสธไร้เยื่อไย มาวันนี้ Apple เตรียมทำรถ EV แข่ง
มันเป็นเรื่องธรรมดาของการทำธุรกิจที่มันต้องมีวันเริ่มต้น วันเติบโต วันสำเร็จ วันซบเซา หรือวันล้ม เช่นเดียวกับ Tesla แม้วันนี้จะกลายเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก แต่ความลับอย่างหนึ่งก็คือ Tesla เคยเกือบจะล้มละลาย บริษัทขาดสภาพคล่อง ถึงขนาด อีลอน มัสก์ ต้องบากหน้าไปขอความช่วยเหลือจาก ทิม คุก CEO Apple Inc.
2
มัสก์ทวิตข้อความบนทวิตเตอร์ว่า “ในวันที่มืดมนที่สุดที่ เกิดขึ้นในช่วงการผลิตรถรุ่น Model 3 ผมได้ติดต่อยัง ทิม คุก ไป เพื่อหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ Apple จะเข้าซื้อกิจการ Tesla (ในมูลค่า 1 ใน 10 ของมูลค่าบริษัทปัจจุบัน) เขาปฏิเสธที่จะเข้าร่วมการพูดคุยและประชุม”
สำหรับ Apple แล้ว เคยมีแผนการว่าจะทำรถยนต์ไฟฟ้าเป็นของตัวเองมาตั้งแต่ปี 2014 แต่สุดท้ายแผนนี้ก็หายเข้ากลีบเมฆไปจนคนแทบจะลืมไปแล้วว่าจะทำ แต่ล่าสุดเมื่อวานนี้ (22 ธันวาคม) Apple ก็ประกาศแล้วว่าจะกระโดดเข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจริงจัง ภายใต้ชื่อโครงการว่า Project Titan โดยออกแบบทุกอย่างตั้งแต่เริ่มด้วยตัวเอง เมื่อโครงการเดินหน้าไปสักระยะก็ได้หันไปโฟกัสเรื่องของซอฟท์แวร์ หลังจากนั้น Doug Field หนึ่งในทีมงานของ Apple ที่เคยทำงานกับ Tesla Inc ได้เข้ามาดูแลโครงการนี้แทนในปี 2018
6
ปัจจุบันโครงการนี้มีความคืบหน้าไปมาก และอยู่ระหว่างการตกลงกับซัพพลายเชนต่างๆ เพื่อสร้างเป็นพันธมิตรในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของ Apple ขึ้นมา เนื่องจากบริษัทไม่ได้มีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมยานยนต์ ดังนั้นจึงต้องหาตัวช่วยในการร่วมผลิต ซึ่งรายละเอียดที่เปิดเผยมาแล้วว่าพันธมิตรเหล่านี้จะมีบริษัทใดบ้างได้แก่ Magna International Inc. ผู้ผลิตระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ใช้แบตเตอรี่แบบ monocell ซึ่งมีข้อดีที่สามารถใส่วัสดุประจุไฟได้มากกว่า ทำให้ขับขี่ได้ไกลยิ่งขึ้น เมื่อเทียบกับแบตเตอรี่ที่มีขนาดเท่ากันรวมทั้งระบบเซนเซอร์รอบคันอย่าง LiDar มาช่วยในการสร้างแผนที่สามมิติรอบคันรถอีกด้วย
7
Apple มีแผนว่าจะเริ่มทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2024 แต่ไม่รู้ว่าเมื่อเจอสถานการณ์โควิด – 19 แผนจะถูกเลื่อนออกไปอีกหรือไม่ และถ้ามาลองคิดเล่นๆ ดูว่าถ้าวันนั้นทิม คุกยอมมาคุยกับมัสก์ แล้วตกลงซื้อ Tesla วันนี้ Apple คงจะมีรถยนต์เป็นแบรนด์ของตัวเอง แต่ก็จะไม่มี Tesla ที่มาสร้างสีสันรวมทั้งกระตุ้นตลาดยานยนต์ไฟฟ้าให้ทุกค่ายต้องเร่งปรับตัวสู้กันแบบนี้ก็เป็นได้