23 ธ.ค. 2020 เวลา 17:46 • หนังสือ
รีวิวหนังสือ
ผมเคยโดนเด็กตัวเล็ก ๆ รุมเอาก้อนหินเขวี้ยงใส่ แต่พวกผู้ใหญ่บอกว่า เด็กมันทำเพราะไม่รู้อะไร
ผมว่า ผู้ใหญ่นั่นแหละ ที่ไม่เคยรู้อะไร ไม่ใช่เด็ก
หนังสือพูดถึงการบูลลี่ในโรงเรียน
ไม่นานมานี้ผมเห็นหนังสือเล่มใหม่ของ ซูมิโนะ โยรุ เรื่อง ปีศาจยามวิกาล ถูกแปลและวางขาย แน่นอนว่าผมซื้อแบบไม่ได้คิดอะไร นอกเสียจาก อยากอ่านให้ไวที่สุด
1
สำหรับใครที่ไม่รู้จัก ซูมิโนะ โยรุ เธอเป็นนักเขียนญี่ปุ่นชื่อดัง เจ้าของผลงาน ตับอ่อนเธอนั้นฉันขอเถอะนะ และฝันถึงเรื่องนั้นอีกแล้ว ที่มียอดขายรวมกันมากกว่าสามล้านเล่ม
เล่มหลังนี่ผมชอบมากติดท็อปห้าในใจ แถมเคยเอามารีวิวไว้ในเพจเป็นที่เรียบร้อย ใครสนใจก็ลองตามอ่านกันได้ครับ
มาพูดถึงหนังสือเล่มนี้กันบ้าง ปีศาจยามวิกาล เป็นหนังสือซึ่งหยิบยก การกลั่นแกล้งในโรงเรียนหรือที่เราเรียกว่า การบูลลี่ ​มาเป็นประเด็น เล่าเรื่องผ่าน
มุมมองของ อัจจี้คุง ทั้งขณะยังเป็นมนุษย์และมุมมองของเขาเมื่อกลายร่างเป็นปีศาจในยามวิกาล
ปีศาจยามวิกาล
ผู้ที่ล่วงรู้ตัวตนที่แท้จริงของปีศาจมีเพียงเจ้าตัว และ
ยาโนะซัง เด็กสาวผู้ถูกเพื่อนในห้องทิ้งให้โดดเดี่ยว เพราะใคร ๆ ก็คิดว่าเธอประหลาด
คืนหนึ่งขณะเธอกำลังใช้ 'ช่วงเวลาพักกลางคืน'​ ที่โรงเรียนเหมือนเช่นทุกที จู่ ๆ ก็มีปีศาจสีดำตัวใหญ่ หกขา แปดตา บุกเข้ามาในห้อง เพื่อเอาการบ้านที่ลืมไว้ในล็อคเกอร์ ด้วยคิดว่าไม่มีใครอยู่
เมื่อตาทั้งแปดจ้องมองใบหน้าของเพื่อนร่วมชั้น คนที่เขาไม่เคยจะคุยด้วย พลางคิดว่าเอาอย่างไรต่อดี
 
ยาโนะซังกลับยิ้มออกมา
"นั่นร่างจริงเหรอ ทำไมถึงกลายเป็นมนุษ​ย์ล่ะ"
"เอ๋.." อัจจี้ถึงกลับเผลออุทาน
"แต่ถ้าแกล้งทำเป็นไม่ใช่อัจจี้คุงล่ะก็ ฉันจะไปบอกคนอื่นนะ"
การเป็นเพื่อนกันของปีศาจกับเด็กสาวผู้ถูกโดดเดี่ยว จึงเริ่มต้นด้วยประการฉะนี้​
แต่เหตุการณ์​ก็พลิกพลัน เมื่อข่าวลือเรื่องปีศาจในโรงเรียนแพร่​ออกไป เพื่อนร่วมชั้นกลุ่มนึง ตั้งใจจะพิสูจน์​เรื่องนั้น
'และนั่นอาจทำให้เวลาพักกลางคืนของยาโนะซังถูกทำลาย'​
ยาโนะ คนประหลาดชอบยิ้มอยู่ตลอดเวลา
ยาโนะ คนที่ใคร ๆ รังเกียจ​
ยาโนะ คนที่เขาเมินเฉยมาตลอด
ยาโนะ คนที่เขาจำใจพูดคุย เพราะกลัวถูกแฉความลับ
ถ้าเพื่อน ๆ ในห้อง รู้ว่าอัจจี้คุยกับยาโนะ คงถูกมองเป็นแมลงสาบ​ไปด้วยแน่นอน แต่ถ้าเป็นตัวเขาตอนกลางคืนล่ะ
ตัวเขา ที่มีหกขาแปดตา
ตัวเขา ที่สามารถไปมาว่องไว ขยายร่างใหญ่เท่าภูเขา
ตัวเขา ที่ไม่มีใครรู้ว่าคืออัจจี้เพื่อนร่วมชั้น
ตัวเขา ที่เป็นปีศาจยามวิกาล
เขาต้องการทำอะไรสักอย่างเพื่อปกป้องเวลาอันมีค่า ของยาโนะซังเอาไว้
''​คนไหนคือตัวจริงกันแน่"
ระหว่างเขาที่เป็นมนุษ​ย์หรือเขาที่เป็นปีศาจ
เขาที่เพิกเฉยหรือเขาที่ปกป้อง
มันคือคำถามของยาโนะซังหลังจากนั้น
ถามต่อปีศาจที่เธอคิดมาเสมอว่าเป็นเพื่อน
แม้เป็นเพื่อน แค่ช่วงเวลากลางคืน
หลังจากได้อ่านเรื่องนี้ ผมรู้สึกว่ามันมีความเชื่อมโยงบางอย่างกับตัวเอง
สมัยเด็ก ๆ ไม่สิ จนถึงตอนนี้ ถ้าเทียบกับคนอายุสามสิบเท่ากัน ผมก็ถือได้ว่ามีร่างกายอ่อนแอ เพียงแต่ตอนเด็กอ่อนแอกว่านี้มาก
ขาของผมอ่อนแอ มักมีไม้เท้า​ที่ผมไม่ชอบใช้เลยอยู่ด้วย คงเพราะไม่อยากดูประหลาด ถึงแม้รู้ตัวแต่ก็ไม่อยากถูกตอกย้ำ
จำได้ว่าตอนนั้น ผมยืนรอแม่มารับอยู่หน้าอาคารเรียน
เย็นมากแล้ว แม่ยังไม่มา เพื่อน ๆ ซึ่งรออยู่ด้วยกัน
ทะยอยกลับทีละคน ในที่สุดก็เหลือแค่ผม
ผมยังจำความรู้สึกตอนนั้นได้ เหงา เงียบ กังวล แต่ก็ยังรอ และหวังว่ารถมอเตอร์ไซค์​ที่ขับผ่านมาจะเป็นแม่
ตอนนั้นเอง จู่ๆ ก็มีเด็กเล็ก ๆ สามคน อ่อนกว่าผมสักสี่ห้าปี เดินผ่านมา เด็กพวกนั้นชี้ชวนกันให้ดูขาของผม
"ขาเป็นอะไร" ใครสักคนถามขึ้น
ผมเงียบ และหวังว่าเด็กพวกนี้จะไปให้พ้นๆ
ปัก! เด็กคนหนึ่งปาก้อนหินใส่ผม "โจมตีสัตว์​ประหลาด" สิ้นเสียงหินอีกหลายก้อนก็ถูกเขวี้ยงตามมาพร้อมเสียงหัวเราะคิกคัก
'หนี'​
ขาของผมพาตัวเองมุ่งไปหลบในห้องเรียน
เร็วเท่าที่จะทำได้
'ทำไมผมต้องโดนอะไรแบบนี้เพียงเพราะผมต่างจากคนอื่น'​
คำถามซึ่งเกิดขึ้นจากความเจ็บปวด เมื่อหินกระทบร่างกาย พวกนั้นวิ่งตามมา ผมหนีไม่ทันหรอก จำได้ว่าไปยืนจนมุมอยู่หลังห้อง
หินพุ่งมาอีกครั้ง แต่ผมหยิบฝาคูเลอร์ใส่น้ำ​ดื่ม ที่อยู่ข้างๆ มากันไว้ทัน จึงไม่โดนหน้า
เสียงเคร้ง ของหินที่กระทบโลหะ เหมือนทำให้เส้นความอดทนของผมขาดผึง
ผมเอื้อมมือขว้าด้ามที่โกยผงพลาสติก​ซึ่งเป็นอุปกรณ์​ทำเวร แล้วฟาดไปยังตัวเด็กซึ่งเรียกผม
'สัตว์ประหลาด'​ อย่างจัง
 
เด็กคนนั้นร้องว่าอะไรตอนโดนฟาด ผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำ
ผมจ้องมองด้วยความโกรธ แล้วตีซ้ำลงไป สองคนที่เหลือหลบได้ เลยโดนเฉียด ๆ แต่ก็คงเจ็บไม่น้อย
มีหินปามาอีก ผมแค่ใช้ฝาคูลเลอร์​กันไม่ให้โดนหน้า แล้วไล่ฟาด พลางตะโกนว่าจะตีให้ตาย แต่ก็โดนแค่ถากๆ เพราะไล่มันไม่ทัน
อย่างไรเสีย ก็ทำให้พวกเด็กเกเรร้องไห้วิ่งหนีไปได้สำเร็จ
หลังจากนั้นผมแอบอยู่หลังกำแพงเงียบๆ รอจนเห็นแม่มาแต่ไกล ก็ทำเป็นออกไปยืนรอเหมือนปกติ
แม่บอกว่าติดธุระเลยมาช้า ผมบอกว่าถูกเด็กที่ไหนไม่รู้มาแกล้ง แม่ถามว่าเป็นอะไรไหม
ความรู้สึกมากมายเมื่อครู่มันแย่งกันออกมาจน
อธิบายไม่ถูก แต่ผมไม่อยากร้องไห้ ก็เลยยิ้มออกไป แล้วถามว่า ทำไมเขาต้องมาแกล้งผมแบบนี้
"เด็กมันก็ทำไปเพราะไม่รู้อะไร พ่อแม่มันไม่สั่งสอน"
ทำไมเด็กจะไม่รู้ รู้สิ มันรู้ว่าผมเจ็บ เพราะมันก็เจ็บและร้องไห้ มันรู้ว่าผมกลัว เพราะมันก็กลัวจนวิ่งหนีไม่ต่างกัน
แต่ผู้ใหญ่จำเรื่องพวกนี้ไม่ได้ เลยคิดว่าเด็กไม่รู้อะไร
ผมเองไม่มีอิสระขนาดนั้น ไม่สามารถเลือกได้ว่าจะมารับกี่โมง เช้าวันต่อมาผมยังต้องไปโรงเรียน ต้องรอแม่มารับอยู่ดี และอาจมีเรื่องเดิม ๆ เกิดขึ้น
มันเลยทำให้ผมเข้าใจอารมณ์​ของยาโนะซัง และอินไปกับเรื่องราวได้ง่าย มีบางปมเท่านั้น เช่น เรื่องของ
ยาโนะกับเด็กผู้หญิงอีกคนที่เอาแต่อ่านหนังสือ ซึ่งผมมองว่าแรงจูงใจต่อการกระทำมันไม่สมเหตุสมผล​นัก เลยให้คะแนนไป 9/10 ครับ
สุดท้ายนี้ ปีศาจยามวิกาล เป็นเรื่องราวที่เหมาะกับคุณ ถ้าคุณเคยทำร้าย เมินเฉย หรือแต่เป็นผู้ถูกรังแก
 
คุณจะได้เรียนรู้เพื่อเป็นเยี่ยงแต่อย่าเอาเป็นอย่าง ไม่ว่าภายนอกเขาจะต่างจากคุณแค่ไหน ขอให้รู้ไว้ว่าบาดแผลในใจเป็นสิ่งสากลซึ่งเกิดได้กับทุกคน
-ซูมิโนะ โยุรุ
- แพรวสำนักพิมพ์
#นักรีวิวแพรวสำนักพิมพ์
#อ่านTips
#รีวิวหนังสือ
#ปีศาจยามวิกาล
อัจจี้คุงในร่างมนุษย์​
โฆษณา