Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เรื่อง(อยาก)เล่า
•
ติดตาม
23 ธ.ค. 2020 เวลา 23:23 • บันเทิง
อ้าวเฮ้ย !!! Ep.1
1
20.10 น. ของคืนวาน
พี่จ๋าภรรยาพี่จุ้ยมาส่งผมที่สถานีรถไฟรังสิต
พอหย่อนก้นนั่งได้ไม่ถึง 5 นาที
ก็รู้สึกคันยุบยิบตรงสองแก้ม
รีบปัดจอโทรศัพท์เปิดกล้องหน้ามองหาจุดเกิดเหตุ
3
ต้องประหลาดใจใยมีผื่นสีแดงผุดขึ้น
ตามด้วยคำถาม “แพ้อะไรละนี่กรู !!??”
นึกย้อนไปถึงอาหารมื้อเย็น กุ้ง ปลา อาหารทะเล กินมาทั้งชีวิตก็ไม่เคยแพ้
1
เครื่องสำอางก็ยี่ห้อเดิม
“เอ... หรือจะเป็น ลมพิษ”
รีบเข้าไปกูเกิ้ล อยากรู้อาการของโรคนี้เป็นอย่างไร พอได้อ่านก็รู้สึกใกล้เคียง
ค่ำนี้ผมมีตั๋วเดินทางด้วยรถไฟนอนปรับอากาศชั้น 2
ตามกำหนดต้องออกจากสถานีรังสิตตอน 20.45 น.
1
ซึ่งวันนี้รถไฟล่าช้ากว่าปกติ
แต่ผดผื่นผุดขึ้นเร็วมาก
มันเริ่มขยายอาณาเขตรุกรามลงสู่ก้านคอ
กล้ามแขน แผ่นอกและเนินพุง
2
โหดร้ายสุดคือ 2 เม็ดสำนักงานใหญ่ที่ขึ้นตรงเปลือกตาขวาล่างบน บวมเป่งคล้ายคนถูกผึ้งต่อย
2
1
ไม่นานนักสาขาย่อยก็ทยอยงอกขึ้นเป็นดอกเห็ดทั่วลำตัว
รู้สึกคันเหมือนมียุงนับสิบ ๆ มากัด
ยิ่งเกาก็ยิ่งมัน ยิ่งคันก็ยิ่งขึ้น
สมองจึงสั่งสองมือให้เกา
แต่ใจร้องบอกเป็นเสียงแม่สิตางค์ “ธมหยุดดดด”
3
............................ยาแก้แพ้..................
2
คือสิ่งที่ร่างกายต้องการ
รถไฟกำลังจะมา !!!
ร้านขายยาใกล้ ๆ ก็ไม่มี ร้านสะดวกซื้อก็ไม่เห็น
ครั้นจะไปขอนายสถานีก็คงยาก
เสียงเพลงท่อนฮุกของพี่ป้าง นครินทร์ ดังก้องในหัว
“ฉันต้องทำ.....ทำอะไรสักอย่างแล้ว”
8
เร็วเท่าความคิด ผมลุกขึ้นยืนอย่างมั่นคง
ดึงหน้ากากอนามัยให้ห้อยใต้คาง
ต้องใช้ทักษะละครเวทีที่ได้ร่ำเรียนมา
หายใจเข้าเต็มปอด
โปรเจ็คเสียงออกจากกระบังลม
กึ่งตะโกนก้อง กะให้คนนั่งรอรถไฟประมาณ 30 คน ในรัศมีระยะ 20 เมตรได้ยิน
4
“ขอโทษนะครับ ท่านไหนมียาแก้แพ้ไหม ผมขอสักเม็ดเถอะครับ”
พูดแบบเดิม 2 รอบ สั้น ๆ แต่ชัดเจน
2
มันได้ผล!!!!
หลายคนขณะก้มหน้าจ้องโทรศัพท์
บางส่วนที่เหม่อมองไปยังชานชาลา
และคู่รักกำลังพูดคุยกันอยู่
ทุกคนต่างหันมาทางผมอย่างพร้อมเพียง
3
โดยมีเครื่องเหมายคำถามในแววตาว่า
“ ไอ้บ้านี้มันเป็นอะไร???”
2
แต่พอได้เห็นคำตอบซึ่งแสดงบนใบหน้า ลำคอ กล้ามแขน ก็แลดูคลายความสงสัย
เหมือนกรุงศรีอยุธยาไม่สิ้นคนดี
ดั่งนางฟ้ามาโปรด
หญิงสาวเสื้อลายวัย 30+ นั่งเก้าอี้เสริมริมเสาขนาดใหญ่
ยกมือกวักส่งสัญญาณมา
ไม่รอช้าผมรีบเดินเข้าหาทันที
2
เธอล้วงในกระเป๋าถุงผ้า หยิบถุงพลาสติกสีดำขึ้นวาง ในนั้นมีซองยาหลายชนิด
ยื่นแผงยาเม็ดขนาดเท่าไข่มดแดงให้
“เอาไปทั้งแผงก็ได้นะคะ”
2
ผมยิ้มยินดีรับยานั้นมา“ผมขอเม็ดเดียวพอล่ะครับ”
เธอจ้องมองเขม็งพร้อมกับบอกว่า “แต่หนูว่าพี่ควรกินสัก 2 เม็ดนะ”
ผมแกะยา 2 เม็ด โยนเข้าปาก กรอกน้ำตาม
“ขอบคุณมากนะครับ ผมชื่อธม กำลังจะไป จ. แพร่ ขอรู้จักชื่อน้องหน่อยครับ”
“หนูชื่อเปิ้ลค่ะ จะไปศรีสะเกษ”
1
เราพูดคุยกันแค่นั้นก่อนผมจะเดินกลับมานั่งเก้าอี้เดิมด้วยความรู้สึกซาบซึ้งใจ
ขณะนั้นผมก็ดูเป็นที่สนใจของหลาย ๆ คนขึ้นมาทันที
คุณยาย คุณป้า น้า อา เข้ามาทักถามฟังดูห่วงใย
2
“ไอ้หนู ไปแพ้อะไรมา ??”
“ถ้าเป็นที่บ้านยายนะ เขาจะใช้ข่าตำผสมเหล้าขาวทา รับรองหาย”
1
“หายใจคล่องหรือเปล่า??”
“อย่าไปเกามันนะน้อง”
“เอายาดมไหมหนุ่ม”
1
นึกชื่นชมสงสัย เพราะอะไรน้ำเสียงของพวกเขาเหล่านี้ช่างไพเราะยิ่งฟังยิ่งรื่นหูนัก
หรือจะเป็นด้วยสำเนียงคนต่างจังหวัดเหมือนกันกับผมจึงฟังคุ้นหู
21.30 น. รถไฟสายเหนือ ด่วนพิเศษ ขบวน 13 เทียบชานชาลา
1
ผมซื้อตั๋วปรับอากาศนอนชั้น 2
คือตู้ซึ่งแปลงร่างเบาะนั่งสองตัวที่เคยหันหน้าหากัน
เป็นเตียงนอนมีเบาะนุ่มผ้าปู ขนาด กว้าง 1 เมตร ยาว 2 เมตรกว่า ๆ
หมอนสีขาว ผ้าห่ม สะอาด ผ้าม่านกั้นเป็นสัดส่วน
1
ปกติจะใช้เวลาจากกรุงเทพฯ ถึง สถานีเด่นชัย จ.แพร่ ประมาณ 8 ชั่วโมง
เราสามารถหลับได้โดยไม่ต้องกังวลใด เพราะมีกล้องวงจรปิดเฝ้าระวังให้
อีกยังมีเจ้าหน้าที่ประจำตู้คอยดูแลและจะปลุกเมื่อถึงจุดหมาย
3
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความเหนื่อยล้าจากงานทั้งวันหรือพิษยาแก้แพ้
เมื่อเข้าประจำตู้นอน ปิดผ้าม่าน ไหว้พระสวดมนต์แบบย่อ
พอหัวถึงหมอนก็เหมือนร่างกายกดปุ่มชัดดาวน์ตัวเอง
1
หลับนิ่งสนิททั้งคืน
มาสะดุ้งตื่นอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงคนพูดคุยของผู้ร่วมเดินทาง
เปิดม่านก็พบกับแสงทองของวันใหม่ มีสายหมอกลอยอ้อยอิ่ง
1
ดีใจเมื่อสำรวจร่างกายของตัวเองก็พบว่าผดผื่นลาจากไปแล้ว ใบหน้ากลับมาเป็นคนเดิม
นาฬิกาบนข้อมือบอกเวลา 7.20 น.
คิดในใจ “ โอ้...เที่ยวนี้รถไฟล่าช้าจัง”
พยายามมองหาภูเขา ป่าหญ้า ทุ่งนาไร่สวนที่คุ้นเคยว่ามันถึงตรงไหนแล้ว
2
“ ลำปางเตรียมตัวนะครับ อีก 5 นาทีถึง” เสียงพนักงานประจำตู้ประกาศ
1
อ้าว !!!! ตกใจสิครับ เด่นชัยผมล่ะ !!!
อะไรกันนี่!!! การรถไฟแห่งประเทศไทยใจดีแถมมาให้เกือบ 70 กิโลเมตร
8
1
รีบเปิดม่านโผล่หน้าถามพนักงานคนเดินทันที
“น้อง ลืมปลุกพี่ให้ลงเด่นชัยหรือเปล่าครับ”
(ผมเลือกไม่ใช้คำว่า “ทำไม” ขึ้นต้นประโยคคำถาม “ทำไมน้องไม่ปลุกพี่ ทำไม..ลืมปลุกพี่
เพราะนั้นจะกลายเป็นประโยคกดดัน เชิงตำหนิ)
2
พนักงานคนเดิมทำหน้าเหมือนไม่ได้อ่านไลน์กลุ่ม
หยิบแฟ้มเอกสารซึ่งมีรายชื่อและปลายทางของผู้โดยสารขึ้นมาดู เอ่ยน้ำเสียงสำนึกผิด
“โถ..พี่ผมต้องขอโทษจริง ๆ ครับ
เมื่อคืนผมไม่ค่อยสบายเลยกินยาแก้ไข้ไป 2 เม็ด เลยหลับลืมตื่น ลืมปลุกพี่”
6
1
24 ธ.ค. 63
14 บันทึก
257
78
27
14
257
78
27
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย