29 ธ.ค. 2020 เวลา 00:00 • การศึกษา
Heavy duty Safety Switch
นิยมใช้งานกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน โดยส่วนประกอบภายในและหลักการทำงานก็จะเหมือนกันครับ มีผลิตแบบ 1 เฟส และ 3 เฟส และผลิตรุ่นที่มีฟิวส์และไม่มีฟิวส์ครับ โดยพิกัดแรงดันไฟฟ้า 240-600 VAC ครับ และมีผลิตกระแสใช้งานตั้งแต่ 30 แอมแปร์ ถึง 1200 แอมแปร์ครับ ซึ่งตามท้องตลาดทั่วไปก็จะมีจำหน่ายตั้งแต่ 30 แอมแปร์ ถึง 600 แอมแปร์ครับ
การต่อสายใช้งานกับระบบไฟฟ้า 3 เฟสนั้น สาย L1 L2 L3 ที่ก็จะต่อสายมาจากเบรกเกอร์ในตู้ไฟฟ้ามาเข้าที่ขั้วด้านบนของอุปกรณ์ครับ และต่อสาย L1 L2 L3 จากขั้วทางด้านล่างของอุปกรณ์ไปยังโหลดครับ
สาวนสาย N ที่มาจากบัสบาร์ N ในตู้ไฟฟ้า ก็ต่อสายเข้าที่ขั้วด้านบนของอุปกรณ์ครับ และต่อสาย N จากขั้วด้านล่างไปยังโหลดครับ
ส่วนสาย G ที่มาจากบัสบาร์ G ในตู้ไฟ ก็จะต่อกับสาย G ที่ออกไปยังโหลดที่ ขั้วต่อสาย G ครับ
ซึ่งข้อดีของการใช้ Safety Switch ตัดต่อวงจรไฟฟ้า โดยนำไปติดตั้งใกล้ๆกับเครื่องจักร มอเตอร์ไฟฟ้า หรือเครื่องปรับอากาศ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการทำงาน การซ่อมบำรุง ก็จะดีกว่าการติดตั้งเบรกเกอร์ไฟฟ้า เนื่องจากเบรกเกอร์ไฟฟ้ามีโอกาสที่อาจจะเกิดการพลั้งเผลอ ยกเบรกเกอร์โดยไม่ตั้งใจทำให้อาจจะเกิดอุบัติเหตุแก่ผู้ปฎิบัติงานได้ครับ
ถ้าติดตั้ง Safety Switch เมื่อทำการตัดวงจรโดยการดึงคันโยกมาตำแหน่ง Off ก็สามารถใส่กุญแจคล้องที่ก้านโยกและที่หน้าตู้ได้ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุแก่ผู้ปฎิบัติงานครับ และเมื่อทำการซ่อมบำรุงเรียบร้อยก่อนที่จะ On Safety Switch เพื่อความปลอดภัยจะต้องปิดโหลดก่อนทุกครั้ง ก่อนที่จะทำการ On Safety Switch เพื่อป้องกันการเกิดไฟกระชากที่ Safety Switch ครับ
รับชมข้อมูลเพิ่มเติม https://youtu.be/rlfEny3H0Uw
Cr. The Kop Enginner
โฆษณา