จากการพลาดท่าให้มารถลกหนังอย่างน่าอับอายแล้ว พอกลับถึงสำนักเสิ่นชิงชิงจึงขออนุญาตเยวี่ยชิงหยวน เข้าถ้ำที่หลัง “อารามฉยงติ่งเฟิง” บนยอดเขาหลักเพื่อปิดด่านฝึกวิชา ระหว่างอยู่ในถ้ำนั่นเองเขาก็ได้บังเอิญเจอกับ “หลิ่วชิงเกอ” เจ้ายอดเขา “ไป่จั่งเฟิง” ที่ขึ้นชื่อเรื่องการต่อสู้ กำลังถูกธาติไฟเข้าแทรก เกิดอาการคลุ้มคลั่ง กำลังย่ำแย่
หากเป็นดังในต้นฉบับ เสิ่นชิงชิวที่ชั่วช้าจะทำให้เขาต้องตายไปในตอนนี้ แต่เสิ่นชิงชิวในตอนนี้ได้ตัดสินใจเข้าช่วยเหลือเพราะเห็นว่าในอนาคตอาจสามารถหวังพึ่งให้ช่วยเหลือเขาให้รอดพ้นจากน้ำมือพระเอกไปได้บ้าง ดังนั้นหลิ่วชิงเกอจึงสามารถรอดชีวิตมาได้ จากนั้นจึงได้เจรจายกเลิกความบาดหมางที่มีมาแต่ก่อนของทั้งคู่ให้หมดไป
หลังฝึกวิชาจนเสร็จสิ้น เสิ่นชิงชิวก็ออกจากถ้ำมาก่อนเพราะเห็นว่าคงถึงเวลาของเหตุการณ์สำคัญแล้ว เมื่อออกมาก็พบเผ่ามารกลุ่มใหญ่ฉวยจังหวะตอนที่เจ้าสำนักไม่อยู่บุกเข้าปั่นป่วนยอดเขาหลัก หวังเอาป้ายสำนักไปประดับบารมี เจ้ายอดเข้าคนอื่นไม่อาจมาช่วยได้เพราะสะพานสายรุ้งที่เชื่อมแต่ละยอดเขาด้วยกันถูกทำลาย เสิ่นชิงชิวจึงต้องเป็นผู้นำต่อต้าน
ผู้นำขบวนเผ่ามารคือ “ซาหัวหลิง” หนึ่งในตัวละครเอกฝ่ายหญิง เมื่อเห็นเสิ่นชิงชิวเข้าก็เปลี่ยนท่าทีทันที เสนอการประลองทั้งหมดสามรอบ รอแรกเสิ่นชิงชิวเป็นผู้ลงมือเองและชนะมาได้อย่างสวยงามแต่ซาหัวหลิงกลับเล่นลิ้นทำให้เขาไม่อาจลงแข่งทั้งสามรอบด้วยตัวเองได้ และถ้าเขาไม่ให้พระเอกได้ลงประลองเลยเหมือนในต้นฉบับเขาจะถูกหักคะแนนอย่างมาก
ดังนั้นผู้แข่งขันรอบที่สองจึงเป็นการปะทะกันระหว่างสองตัวเอกฝ่ายหญิงยอดนิยม ซาหัวหลิง และ “หลิ่วหมิงเหยียน” ในต้นฉบับนั้นลั่วปิงเหอจะมีสาวๆอยู่มากหน้าหลายตาเพราะเป็นนิยายฮาเร็มแต่สองคนนี้ได้รับความนิยมมากที่สุด เสิ่นชิงชิวก็ตื่นเต้นไปกับการดูการประลองรอบนี้มาก แต่ผลออกมาว่าหลิ่วหมิงเหยีนเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ และรอบสุดท้ายเสิ่นชิงชิวจึงจำเป็นต้องส่งลั่วปิงเหอเข้าไปประลองกับอาวุโสค้อนสวรรค์ที่สวมชุดเกราะหนามอาบยาพิษ แม้สุดท้ายจะชนะมาได้แต่เพราะอาวุโสค้อนสวรรค์ต้องชดใช้ด้วยชีวิตที่พ่ายแพ้จึงหวังลากลั่วปิงเหอไปตายด้วย เสิ่นชิงชิงจึงเผลอตัวเข้าไปช่วยจนตัวเองถูกพิษไร้ถอน จนทำให้สถานการณ์เริ่มเสียเปรียบอีกครั้ง แต่ท้ายที่สุดก็ได้หลิ่วชิงเกอที่ออกจากด่านฝึกวิชามาช่วยไว้ได้ทัน ไล่พวกมารไปได้ก่อนที่เสิ่นชิงชิวจะล้มพับไป
เสิ่นชิงชิวฟื้นขึ้นมาอีกทีในเรือนไผ่ของตัวเอง หมิงฟานจึงรีบออกไปเรียกเจ้ายอดเขาคนอื่น ๆ แล้วลั่วปิงเหอก็เข้ามาสำนึกผิดกับเขาเสียการใหญ่ การเข้าช่วยเหลือลั่วปิงเหอในครั้งนี้ทำให้ความรู้สึกของลั่วปิงเหอที่มีต่อเสิ่นชิงชิวดีขึ้นเป็นกอง ความลังเลสงสัยที่มีต่อเสิ่นชิงชิวหมดไปสิ้น
หลังจากลั่วปิงเหอออกไป เยวี่ยชิงหยวน หลิ่วชิงเกอ และ “มู่ชิงฟาน” เจ้ายอดเขาที่ขึ้นชื่อเรื่องสมุนไพรและการแพทย์ก็เข้ามาตรวจดูอาการ ถามความกันได้ว่าพิษที่เสิ่นชิงชิวโดนนั้นไม่อาจถอน ทำได้เพียงสะกดข่มไว้ด้วยการกินยาและให้ผู้อื่นกรุยปราณทิพย์ให้เท่านั้น ระหว่างนั้นจะมีอาการพลังทิพย์ติดขัดกำเริมขึ้นมาบ้าง เสิ่นชิงชิวได้ยินดังนั้นก็ดีใจแล้วเพราะวิธีถอนนั้น จริง ๆ แล้วตัวเขานั้นรู้ดีแต่ให้ตายเขาก็ไม่ขอทำเพราะมันต้องไปมีอะไรกับพระเอกของเรื่องน่ะสิ!!
หลังจากต้อนรับคนอื่น ๆ ที่มาเยี่ยมเยือนอาการเขาแล้ว ตกเย็นคิดว่าจะได้พักผ่อนแล้ว แต่กลับถูกดึงเข้าสู่ห้วงฝันของลั่วปิงเหอ นี่เป็นฝีมือการป่วนของซาหัวหลิงที่ส่งมารฝันเข้ามากลั่นแกล้งหนุ่มที่ตนสนใจ แต่ด้วยกลไกการป้องกันตัวเองของลั่วปิงเหอทำให้ดึงผู้ที่เขาเชื่อใจที่สุดเข้ามาด้วยซึ่งตามต้นฉบับแล้วควรเป็นหนิงอิงอิง
เขตอาคมของมารฝันนั้นจะสะท้อนความทรงจำที่เจ็บปวดของผู้เป็นเจ้าของหากฝ่าฟันไปไม่ได้จะติดอยู่ที่นี่ตลอดไป เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วเสิ่นชิงชิวก็ได้แต่เพียงทำไปตามเรื่องช่วยเหลือให้ลั่วปิงเหอผ่านห้วงฝันไปให้ได้ เมื่อทั้งคู่ฝ่าออกมาได้จนพบกับมารฝัน มารฝันก็ทำให้เสิ่นชิงชิวเข้าสู่ฝันซ้อนฝัน เพื่อจะได้ชักชวนลั่วปิงเหอมาเป็นศิษย์ของตัวเองได้สะดวก เมื่อถูกชักชวนลั่วปิงเหอลังเลอยู่ในตอนแรก แต่หลังจากนั้นก็ตกปากรับคำ