29 ธ.ค. 2020 เวลา 11:00 • หนังสือ
Spoil - ตัวร้ายอย่างข้า #04
การกลับมาของลั่วปิงเหอ
1
*คำเตือน*โพสต์นี้เราจะมาเล่าเรื่องราวของนิยายเรื่อง ตัวร้ายอย่างข้าจะเอาตัวรอดอย่างไรดี ต้องบอกก่อนเลยว่านี่คือการเล่าเนื้อเรื่องภายในเล่มกันเป็นฉากๆ หากใครไม่อยากรู้ก็ทำการกดปิดไปได้เลยนะคะ
สามปีผ่านไป เสิ่นชิงชิวอยู่อย่างปกติสุขจนได้รับสารเรียกตัวเจ้ายอดเขาทุกคนให้มาหารือรวมกันถึงสิ่งที่เกิดขึ้นที่ “เมืองจินหลัน” ที่จู่ ๆ ก็ปิดเมือง ผู้ฝึกวิชาเซียนกี่คนเข้าไปก็ไม่กลับออกมา หนึ่งในสี่สำนักใหญ่อย่าง “วัดเจาหัว” ที่อยู่ใกล้เมืองนั้นที่สุดส่งคนเข้าไปแล้วก็หายไปเช่นกันจึงร้องขอความช่วยเหลือมา เสิ่นชิงชิวอาสาเข้าไปในเมืองพร้อมกับหลิ่วชิงเกอ และมู่ชิงฟาง แล้วจะมีกองหนุนรออยู่นอกเมือง
เมื่อพวกเขาเข้าสู่เมืองจินหลันได้สำเร็จ ก็พบว่าผู้คนกำลังติดโรคประหลาดทำให้ร่างกายเน่าเปื่อย พวกเขาได้ “หยางอี้เสวียน” ลูกชายเจ้าของร้านตีเหล็กที่ไม่ติดเชื้อพาไปพบต้าซือหรือพระคุณเจ้าของวัดเจาหัวที่เข้ามาก่อน นามว่า “อู๋เฉิน” ซึ่งเขาก็ติดเชื้อจนเสียขาไปสองข้าง หลังได้ฟังเรื่องราวคร่าว ๆ จากอู๋เฉินต้าซือแล้ว เสิ่นชิงชิวก็ออกไปหาเบาะแสในเมือง จนชนเข้ากับหญิงชราผู้หนึ่ง แต่เสิ่นชิงชิวนึกแปลกใจว่าท่าทางของคนผู้นั้นไม่เหมือนหญิงชราจึงไล่ตามไป และพบว่าแขนที่ถูกชนก็เกิดผื่นแดงแสดงการติดเชื้อ
ระหว่างไล่ตามก็พบกับ กงอี๋เซียวอีกครั้งทำให้รู้ว่าทางวังฮ่วนฮวาก็ส่งคนเข้ามาเช่นกัน พวกเขาไล่ตามไปจนจะถึงตัว เสิ่นชิงชิวก็ต้องชะงักเมื่อเขาได้พบเข้ากับ ลั่วปิงเหออีกครั้งอย่างไม่คาดคิด เพราะตามต้นฉบับแล้วต้องใช้เวลาถึง 5 ปี ลั่วปิงเหอจึงจะกลับขึ้นมา แต่นี่พึ่งผ่านไปเพียงสามปีเขาก็มาปรากฏอยู่ตรงนี้แล้ว
ลั่วปิงเหอมาพร้อมศิษย์วังฮ่วนฮวาที่แสดงออกว่าไม่เป็นมิตรกับตนชัดเจน และพวกเขาได้จัดการหญิงชราผู้นั้นไปแล้ว เมื่อเสิ่นชิงชิวได้ตรวจสอบดูก็พบว่ามันคือ คนเพาะเมล็ดพันธ์ ที่จะแพร่เชื่อให้คนร่างกายเน่าเปื่อยเป็นอาหารแก่เผ่ามารที่ส่วนมากนิยมกินของเน่า
เสิ่นชิงชิวที่เข้าหน้าลั่วปิงเหอไม่ติดหาทางเลี่ยงออกมาจากตรงนั้นและเอาสิ่งที่พบเจอไปรายงานให้คนอื่น ๆ รวมถึงเรื่องที่ลั่วปิงเหอกลับมาแล้วแต่ยังคงไม่ได้เล่ารายละเอียดมากมาย ทุกคนก็ต้องแยกย้ายไปทำหน้าที่ มู่ชิงฟางคิดหายารักษาโรค ส่วนหลิ่วชิงเกอก็ออกไปตามล่าตัว คนเพาะเมล็ดคนอื่น ๆ ที่ยังมีอยู่ในเมือง ตอนแรกเสิ่นชิงชิวจะไปด้วย แต่พิษไร้ถอนกลับกำเริบ จึงต้องรออยู่ที่ห้อง
เสิ่นชิงชิวรอให้หลิ่วชิงเกอมากรุยปราณทิพย์ให้ แต่ผู้ที่มากลับเป็นลั่วปิงเหอ ทำให้เสิ่นชิงชิวเผลอตัววิ่งหนีตามสัญชาตญาณ แม้สุดท้ายจะถูกจับได้อย่างง่ายได้ก็ตาม แถมยังถูกจับกรอกเลือดมารฟ้าเข้าปากอีกต่างหาก เลือดมารฟ้านี้จะเคลื่อนไหวตามคำสั่งผู้เป็นเจ้าของสามารถสร้างความทรมานจากภายในได้อย่างแสนสาหัสแถมยังใช้ติดตามตำแหน่งได้อีกต่างหาก
เช้าวันต่อมาเสิ่นชิงชิวตื่นมาอย่างย่ำแย่ก็พบว่า คนเพาะเมล็ดทั้งหมดถูดจับแล้ว ประตูเมืองเปิด เจ้าสำนักต่าง ๆ เข้ามาในเมืองได้แล้ว แต่ขณะกำลังปรึกษากันว่าจะจัดการอย่างไรกับคนพวกนี้ดี หนึ่งในนั้นก็หันมาชี้ตัวว่าเสิ่นชิงชิวเป็นผู้บงการเสียอย่างนั้น “กงจู่เฒ่า” เจ้าของวังฮ่วนฮวาเห็นดังนั้นก็เริ่มบีบคั้นใส่ความเสิ่นชิงชิว เท่านั้นยังไม่พอ อยู่ ๆ หญิงสาวนาม “ชิวไห่ถัง” ก็ปรากฏตัว เธอคือผู้ที่เคยมีคดีกับเสิ่นชิงชิวในอดีต โดยเจ้าตัวออริจินอลนั้นได้ไปฆ่าล้างตระกูลของนางไว้ ทุกอย่างประดังเข้ามาราวจัดฉาก เสิ่นชิงชิวจึงคิดว่านี่คงเป็นฝีมือของลั่วปิงเหอเหมือนในต้นฉบับ ที่เริ่มต้นการแก้แค้นด้วยการทำลายชื่อเสียของเสิ่นชิงชิว
คนของซางฉยงซานต่างเข้าปกป้องเสิ่นชิงชิว แต่ด้วยข้อกล่าวหามากมายเสิ่นชิงชิวจึงไม่อาจเลี่ยง ถูกจับเข้าคุกน้ำวังฮ่วนฮวารอการไต่สวนในอีกหนึ่งเดือนให้หลัง แต่เข้าไปอยู่ได้สองวันซั่งชิงหัวก็ลอบส่งข่าวเข้ามาว่าหญ้าน้ำค้างที่เตรียมการไว้พร้อมใช้งานแล้ว แต่ต้องรีบใช้งานภายในอาทิตย์นี้ไม่งั้นมันจะเฉาตายไปเสียก่อน เสิ่นชิงชิวจึงต้องขอความช่วยเหลือจาก กงอี๋เซียวให้สามารถหลบหนีออกมาได้ เสิ่นชิงชิวหนีมาจนถึงเมืองฮวาเยวี่ย ที่เขาเตรียมการทุกอย่างไว้
ขณะรอให้ถึงวันพรุ้งนี้ เสิ่นชิงชิวเผลอหลับไปจนถูกลั่วปิงเหอดึงเข้าห้วงฝันอีกครั้ง แต่จากการถกเถียงกันทำให้รู้ว่าลั่วปิงเหอกำลังถูก “กระบี่ซินหมัว” กระบี่ที่เขาได้จากการตกลงไปในภพมารกัดกินดวงจิตร ทำให้ไม่อาจมาจับตัวเสิ่นชิงชิวได้ในนั้นที และเพราะความปั่นป่วนของดวงจิตรทำให้เสิ่นชิงชิวหนีรอดออกจากห้วงฝันมาได้
เสิ่นชิงชิวรอเวลาที่เมฆจะสลายไปจนหมดเพื่อให้สิ่งที่เตรียมการได้ผลดีที่สุด ขณะนั้นเราผู้ฝึกวิชาเซียนมากมายก็หลั่งไหลเข้ามาในเมืองหวังจับตัวเขา เสิ่นชิงชิวจึงต้องปลอมตัว แต่เพราะเข้าไปช่วยเหลือศิษย์ชางฉยงซานที่ยกพวกตีกันกับพวกวังฮ่วนฮวา ตัวตนจึงถูกเปิดเผยและถูกไล่ล่าแต่เสิ่นชิงชิวก็เรียกหลิ่วชิงเกอให้มาช่วยได้ทันและพาเขาไปยังหอสูงที่ทุกอย่างเตรียมการไว้
ขณะนั้นเองลั่วปิงเหอก็ฝืนตัวเองตามมาจับตัวเสิ่นชิงชิวเช่นกัน หลิ่วชิงเกอเข้ามาขัดขวางได้ไม่นานก็สิ้นท่าไปอย่างไม่อาจต่อกรได้ เสิ่นชิงเห็นถึงเวลาที่เหมาะสมพอดีกับที่ลั่วปิงเหอกำลังถูกซินหมัวกัดกินจนเกิดอาการบ้าคลั่ง เสิ่นชิงชิวจึงทำการสละชีพระเบิดพลังทิพย์ของตน ช่วยหยุดการกัดกินของกระบี่ชินหมัวเอาไว้ได้
ลั่วปิงเหอเมื่อได้สติก็กำลังเห็นร่างของเสิ่นชิงชิวหงายตกลงไปจากหอสูง แม้จะกระโดดตามลงไปคว้าไว้ได้ทันแต่เสิ่นชิงชิวก็ได้สิ้นลมหายใจไปแล้วท่ากลางสายตาของผู้ฝึกวิชาเซียนทุกคน
ลั่วปิงเหอกอดร่างนั้นไว้แน่นอย่างทำอะไรไม่ถูก ยิ่งได้ฟังความจริงจากหมิงฟานและหนิงอิงอิง ว่าเสิ่นชิงชิวให้ความสำคัญกันเขามากแค่ไหน ก็ยิ่งเศร้าเสียใจและสำนึกผิดอย่างถึงที่สุด
2
โฆษณา