27 ธ.ค. 2020 เวลา 13:42 • ธุรกิจ
ธุรกิจ STARTUP เป็นอย่างไร? ใช่ธุรกิจที่เพิ่มเริ่มจะก่อตั้ง , สินค้า Hi-Tech หรือ สินค้าและบริการใหม่ที่ไม่เคยมีคนอื่นทำมาก่อนแบบนี้เเป็น Startup ได้หรือไม่ ?
วันนี้เราจะมาตอบคำถามนี้กันครับ
ถ้าจะให้อธิบายธุรกิจที่เรียกได้ว่า ธุรกิจ Startup ผมนึกถึงนิยาม 2 ข้อนี้คือ
1. ธุรกิจที่เกิดจากการแก้ไขปัญหาโดยการใช้ไอเดีย และนวัตกรรมเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาและสร้างรูปแบบธุรกิจใหม่ขึ้นมาแทนที่ธุรกิจเดิมๆ
2. มีโมเดลธุรกิจแบบ Repeatable and Scaleableหมายถึง โมเดลธุรกิจที่สามารถทำซ้ำและขยายธุรกิจได้อย่างรวดเร็วโดยที่ต้นทุนไม่ได้เพิ่มตามจำนวนผู้ใช้สินค้าและบริการที่เพิ่มขึ้น
 
2 ข้อนี้เองที่แยกโมเดลธุรกิจแบบ Startup ให้ต่างออกจากโมเดลธุรกิจทั่วไป ซึ่งส่งผลให้ธุรกิจ Startup ส่วนมากมักจะต้องใช้เทคโนโลยีเป็นหัวใจในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เดินหน้าและเพิ่มจำนวนผู้ใช้งานให้มากขึ้นจนเกิดกำไร
ถ้าอย่างนั้นลองมาดูตัวอย่างธุรกิจที่เรียกได้ว่าเป็น Startup รอบๆตัวเรากันดีกว่า
Grab เรียกได้ว่าเป็น Application ประจำเครื่องที่เรียกใช้กันบ่อยมากๆเลยทีเดียว เพราะสามารถใช้ได้ทั้งเรียกรถ Taxi , สั่งอาหาร , ซื้อของซุปเปอร์ หรือ แม้แต่กระทั่งเรียกให้ Grab ไปส่งพัสดุ ถ้าอย่างนั้นมาลองมาดูกันครับ Grab เป็นธุรกิจที่เรียกว่า Startup หรือเปล่า?
อย่างแรกเลยคือต้องมีการใช้นวัตกรรมเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาให้ผู้ใช้งาน ลองนึกว่าก่อนหน้านี้เราจะเรียก Taxi ต้องไปยืนโบกที่ถนนพร้อมทั้งรอลุ้นว่า Taxi ที่เรากำลังจะขึ้นจะยอมไปส่งเรา ให้ถึงที่หมายหรือว่าคนขับจะบอกว่าแก๊สหมด หรือ ต้องไปส่งรถหรือเปล่า ปัญหาเหล่านี้หมดไปทันทีถ้าเราเรียก Taxi ผ่าน Grab เพราะ Taxi รู้ว่าเราต้องการไปที่ไหนจึงตัดสินใจได้ว่าจะเข้ามารับหรือไม่รับเรา นอกจากนี้เรายังสามารถเลือกใช้บริการรถประเภทอื่นๆ เช่น Grab car ที่ใช้รถส่วนบุคคลมา รับผู้โดยสารแทนรถ Taxi เราสามารถเลือก นิดของรถได้ว่าอยากจะนั่งรถหรู หรือต้องการรถที่สามารถขนสัมภาระได้เยอะๆ ยังไม่รวมถึงความปลอดภัยทีเพิ่มขึ้นเพราะมีการบันทึกต้นทางปลายทางที่เราจะไป รู้ว่าใครเป็นคนขับรถ มารับและไปส่งเราถึงที่หมายเมื่อไหร่ รวมถึงเราสามารถประเมินคุณภาพของคนขับรถหลังจากที่เราใช้บริการได้อีกด้วย ซึ่งการมาของ Application Grab นี้มาแทนธุรกิจการเรียกรถแบบเดิมๆซึ่งในสมัยก่อนเราสามารถเรียกรถได้จากการโทรไปที่ศูนย์ Taxi นั่นเอง
ประเด็นต่อมาที่ต้องพิจารณา คือ โมเดลธุรกิจ เป็นแบบ Repeatable and Scaleable bussiness Model ใช่ไหมเมื่อพิจารณาดูจะพบว่า Grab มีรายได้จากค่าบริการต่างๆของ Partner ที่เข้ามาอยู่ใน Platform ไม่ว่าจะเป็นค่าธรรมเนียมสำหรับการหาลูกค้าให้กับ Taxi , เปอร์เซ็นส่วนแบ่งจากคนขับ Grabcar, ส่วนแบ่งจากยอดขายของร้านอาหารใน Platform เป็นต้น ซึ่งถ้าเราพิจจารณาดีๆจะพบว่า ยิ่งมีผู้ใช้งานบริการต่างๆผ่าน Platform มากขึ้นเท่าไหร่ Grab จะมีรายได้มากขึ้นเท่านั้น โดยที่ต้นทุนไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนักตามจำนวนผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งเพราะ Grab ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่าง ผู้ใช้งานและ Partner (คนขับ Taxi ,ร้านอาหาร) เท่านั้น ซึ่งแปลว่า Grab จะไม่มีต้นทุนที่เป็นรายจ่ายประจำในส่วนนี้ ส่งผลให้ยิ่งมีผู้ใช้งานและมี Partner เข้ามาอยู่ในระบบมากเท่าไหร่ Grab จะยิ่งมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้การที่การที่ Grab เป็น Applcaiton บนโทรศัพท์มือถือ จึงทำให้ง่ายต่อการขยายธุรกิจไปยังประเทศอื่นๆทั่วโลก (Scaleable) ลองเทียบกับธุรกิจทั่วไปเช่น ถ้าเราจะเปิดร้านอาหารในประเทศไทยซักร้านหนึ่งอาจจะไม่ใช่เรื่องยาก การขยายสาขาในประเทศอาจจะทำได้ไม่ยากนักแต่การขยายสาขาไปต่างประเทศจะทำได้ยากกว่าและมีต้นทุนที่สูงขึ้นและปัญหาที่มากขึ้น ทั้งการดูแล การจ้างพนักงาน และการหาวัตถุดิบ ซี่งต่างจากธุรกิจที่ใช้เทคโนโลยี ซึ่งสามารถขยายฐานลูกค้าไปต่างประเทศได้ทันทีเพียงแค่ทำให้คนในประเทศนั้นๆเข้ามาใช้งานใน Application เท่านั้น จะเห็นได้ว่าสำหรับ Grab แล้วถือเป็นธุรกิจ Startup ธุรกิจหนึ่งที่กำลังมาแรง แต่หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าธุรกิจ Grab เฉพาะในประเทศไทยนั้นขาดทุนอยู่ทุกๆปี และถึงแม้จะมีรายได้กว่า 2,855 ล้านบาทในปี 2562 แต่ก็ยังขาดทุนอยู่กว่า -1,650 ล้าน บาท เช่นกัน แล้วทำไมธุรกิจที่ขาดทุนอยู่เยอะขนาดนี้ยังอยู่ได้โดยไม่เจ้งไปซะก่อนคราว หน้าผมจะมาเล่าให้ฟังในเรื่องของ แหล่งเงินทุนของ Startup และทำไม Startup ต้อง Funding หรือหาเงินทุน รอติดตามกันนะครับ
Background photo created by rawpixel.com - www.freepik.com
โฆษณา