27 ธ.ค. 2020 เวลา 07:06 • การเกษตร
สนทนาเรื่องพลังเทพ-
พลังเทวนารีกับพี่เดชา
เรื่อง/ภาพ นิพัทธ์พร เพ็งแก้ว
ประมาณ ๑๕ ปีก่อน เมื่อวันที่ ๒ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๔๙ ดิฉันได้สัมภาษณ์พี่เดชา ศิริภัทร ในเรื่องของก่อตั้งโรงเรียนชาวนา การเสาะหารวบรวมองค์ความรู้เกษตรอินทรีย์ การพัฒนาหลักสูตรสอนชาวนาไทยให้กลับมาสื่อสารกับพลังเทพธรรมชาติที่จะช่วยคุ้มครองดูแลชาวนา ผลผลิต ระบบนิเวศน์และมอบองค์ความรู้ใหม่ๆให้ทันกับยุคสมัย
.
บทสัมภาษณ์ร่วม ๒ ชั่วโมงนี้ได้รับการถอดเทปออกมายาวเหยียดถึง ๒๔ หน้า และดิฉันได้เก็บไว้ ไม่เคยเผยแพร่ที่ไหนมาก่อน
.
มาวันนี้จึงขอตัดตอนบางส่วนนำมาเผยแพร่ทางเพจ นิพัทธ์พร เพ็งแก้ว เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ของปีพ.ศ.๒๕๖๔ ให้กับเพื่อนๆ พี่น้อง ผู้อ่าน ลูกศิษย์โรงเรียนชาวนา ของพี่เดชา ศิริภัทร ทุกๆคนค่ะ
.
และมีภาพชุดเหล่าซือเดชาไปสอนเกษตรอินทรีย์ที่เกาะไต้หวัน ฝากมาให้ได้ชมกันด้วยค่ะ
💠นิพัทธ์พร : พี่คะแล้วแรงยึดเหนี่ยวทางจิตวิญญาณของชาวนาไทยล่ะคะ จะหวนกลับมาได้อย่างไร
.
เอียดได้เห็นกิจกรรมของทางมูลนิธิข้าวขวัญ พยายามฟื้นเรื่องแม่ธรณีหรือแม่โพสพกลับคืนมา ทั้ง ๆ ที่ชาวนาไทยก็เคยมีแม่โพสพอยู่ตลอด แต่มันเหมือนกับว่าถูกเก็บไว้ในลิ้นชักความทรงจำ แล้วการพยายามไปฟื้นกลับคืนมามันทำได้แค่ไหนคะ
.
พี่เดชา : คือแต่เดิมเนี่ย ความเชื่อเรื่องเทพ เรื่องสิ่งสูงส่งกว่ามนุษย์โดยเป็นตัวแทนธรรมชาติ ไม่ว่า แม่พระธรณี แม่คงคา แม่โพสพ ล้วนเป็นตัวแทนธรรมชาติ
.
แทนที่จะพูดถึงธรรมชาติเป็นดิน เป็นน้ำ เป็นข้าว เราจะพูดถึงเทพที่รักษาดิน รักษาน้ำ รักษาข้าว ซึ่งอยู่สูง เป็นเทพที่สูงกว่ามนุษย์ ท่านนจะมาจากไหนก็ตาม แต่สิ่งนี้มีอิทธิพลสูงทำให้มนุษย์เคารพธรรมชาติ ทำตัวสอดคล้องกับธรรมชาติและก็ไม่ทำลายธรรมชาติ อันนี้เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวมานาน
.
ทีนี้พอชาวนา ชาวบ้านมารู้ว่ามีวิทยาศาสตร์หรือระบบตลาด ระบบเกษตรสมัยใหม่ มันก็ได้ทำลายสิ่งเหล่านั้นไปหมด เพราะว่าไม่ต้องเคารพเทพก็ได้ ใส่ปุ๋ย ใส่ยาไป มันก็โตเองแหละ ไอ้พวกนี้มันทำลายทั้งภูมิปัญญาชาวบ้าน ทั้งความเชื่อ ทั้งอัตลักษณ์ ทั้งการพึ่งตัวเอง ทั้งเศรษฐกิจสังคม มันทำลายหมดเลย ดังนั้นหากเราจะฟื้นแค่เทคนิคทางการเกษตรอินทรีย์ หรือว่าแค่สังคมธรรมดา มันก็ไม่มีรากเหง้าที่จะไปดึงเอาความเข้มแข็งไว้ได้เต็มที่ เราต้องดึงเอาของเก่ามาให้หมด แต่ว่าของเก่าที่ดึงมามันต้องปรับให้เข้ากับยุคสมัย จะไปดึงเอาแค่ว่า...เชื่อเราเถอะ เชื่อเถอะมีเทพแน่นอน ลองไปทำแบบนี้ เขาก็ไม่เชื่อหรอก ใครจะมาเชื่อ ทีนี้ถ้ามีวิธีที่ทำให้เขาเชื่อได้จริง พิสูจน์ว่าเทพมีจริง หรือว่าติดต่อได้จริงนี้แหละ มันก็จะมีพลังจริง ๆ
.
ไม่ใช่ว่าเชื่อสักแต่ว่าเป็นประเพณี หรือเชื่อสืบ ๆ กันมา หรือว่าเชื่อให้คนเขาเห็นแค่ว่าเป็นอัตตลักษณ์ของแต่ละกลุ่มชน กลุ่มชาติพันธุ์ แบบนั้นมันไม่มีราก ไม่มีพลังจริงหรอก ถ้าเรารู้ว่าใครติดต่อเทพได้จริง หรือว่าพิสูจน์ได้ว่าเทพมีจริงเนี่ย เราก็ต้องไปดึงเอามา เพื่อจะพิสูจน์ว่ามีจริง ถ้าต่อได้จริงหรือว่าพิสูจน์ได้จริง มันก็ฟื้นกลับมาแน่นอน
.
แล้วเมื่อฟื้นกลับมาจะมีพลังยิ่งกว่าเก่าด้วยซ้ำ นอกจากว่าเขาจะเชื่อเขาจะเคารพแล้ว บางทียังไปดึงเอาความรู้จากเทพพวกนั้นมาใช้งานได้ด้วย ซึ่งมันไม่เคยมีในอดีตด้วยซ้ำ
💠นิพัทธ์พร : อันนี้คือเป้าหมายหนึ่งในการเชิญแม่มดอังกฤษ คุณโดโรธี แมคลีน จากชุมชนแม่มดฟินด์ฮอร์น สก็อตแลนด์ เข้ามาที่ข้าวขวัญด้วยใช่ไหมคะ เป็นหลักเลยไหมคะ
.
พี่เดชา: ใช่ครับ เป็นหลักเลย อย่างน้อยเนี่ย เราพิสูจน์ว่าสิ่งที่เราเชื่อมีจริง และฟื้นกลับมาได้จริง ๆ ไมใช่ว่าเอามาปั้นเป็นรูปแม่โพสพให้ท่านนั่งอยู่เฉย ๆ หรือว่าเอามากราบมาไหว้เฉย ๆ ทำเป็นประเพณี
 
.
คนก็ไม่รู้ เคลือบแคลง คนรุ่นใหม่ไม่รู้จริงหรือไม่จริงเนาะ แบบนั้นไม่มีพลังหรอก
.
อันที่สองคือทำอย่างไรจะเอาความรู้ที่เราไม่มี-ออกมาจากเทพ อันนี้แหละยิ่งมีประโยชน์ใหญ่เลย คืออีกหน่อยเราไม่ต้องมานั่งคิดเองด้วยซ้ำ แต่ก่อนเราคิดได้แค่นี้นะ ถ้ารู้วิธีต่อกับเทพ เราไปถามท่านอีกมันก็จะได้มากขึ้น ไม่ต้องกลัวจีโนม ไม่ต้องกลัวพวกเคมี ไม่ต้องกลัวอะไรแล้ วเพราะว่า เราสามารถจะทำผลผลิตสูงกว่า ดีกว่า โดยไม่ต้องไปคิดเองด้วยซ้ำ เทพท่านบอกวิธีให้เราเอาไปใช้ตรงได้เลย
💠นิพัทธ์พร : พี่คะ แค่ทุกวันนี้(พ.ศ.๒๕๔๙) ชาวบ้านใช้ปุ๋ยชีวภาพ ใช้ยาฆ่าแมลงสมุนไพรเนี่ย คนรอบหมู่บ้าน คนรอบข้างเขาก็ว่าคนกลุ่มนี้บ้าพอแล้ว ถือว่าบ้ากันมากแล้ว แต่ตอนนี้ทางมูลนิธิข้าวขวัญพยายามที่จะฟื้นจะดึงเอาวิธีการต่อกับเทพมาเนี่ย พี่จะตอบคำถามกับคนที่เห็นว่าวิธีการนี้เป็นบ้าได้ยังไงคะ พี่จะให้คำตอบออกมาในลักษณะไหน
.
พี่เดชา: เราก็ต้องใช้ของจริงพิสูจน์ ถ้าเราทำได้จริงอย่างที่เราได้รับข้อมูลมา เราก็พิสูจน์ได้ พิสูจน์ให้เห็นอย่างต่อเนื่อง ยังไงเขาก็ต้องเชื่อ เพราะว่ามันพิสูจน์ได้ด้วยวิทยาศาสตร์ มันจะมาจากไหนก็แล้วแต่นะ ผลจริงที่ปรากฏออกมามันได้ผลน่ะ
.
กระทั่งคนสมัยก่อนเขาก็ใช้ยาผีบอก ก็นอน ๆ ฝันว่าผีบอก พอมันหายก็มากินกันไปทั่ว กินกันทั้งนั้น ทั้งชุมชน ทั้งหมู่บ้าน ใช้รักษาโรคต่อเนื่องกันไป ขยายวงกว้างไปเพราะมันดีจริง เดี๋ยวนี้ก็มีหลายอย่างที่ไม่รู้ว่ามาจากไหน
.
ฝังเข็มมาจากไหนก็ไม่รู้แล้วก็ใช้กัน ก็ได้ผลใช่ไหม โยคะนี่ก็ยังได้ผลอยู่ก็ใช้กันเยอะแยะไป ชีวจิตนี่วิทยาศาสตร์ก็ไม่เห็นยอมรับเลย แต่คนเป็นมะเร็งนี่ก็ใช้กันทั้งนั้นแหละ
.
ข้อมูลพวกนี้บางทีมันต้องใช้เวลา ช่วงหนึ่งอาจจะหาว่าพวกนี้เป็นพวกแปลก ๆ แต่พอผ่านไปสักยุคหนึ่ง อันนี้ก็จะกลายเป็นกระแสหลัก คนอื่นที่ไม่ทำแบบนี้ก็จะกลายเป็นคนแปลก เป็นคนบ้า มันแล้วแต่ยุคสมัย ตอนนี้จุดเปลี่ยนมันมาแล้ว ถ้าเปลี่ยนไปแล้ว คนส่วนใหญ่ตามไม่ทัน ก็ยังเห็นว่าแปลกอยู่ หากไม่นานเรื่องแปลกๆเหล่านี้ ที่ทำกันทั่วไปมากขึ้น เชื่อกันทั่วไปมากขึ้นก็จะกลายเป็นเรื่องธรรมดา ใครไม่ทำก็จะกลายเป็นเรื่องแปลก
.
เหมือนบัตร ATM มาใหม่ ๆ ผมก็ไม่ใช้หรอก กลัวแหยไปเลย กลัวพิมพ์ผิดมันจะโกงเงินเรา เบิก ๑๐๐ บาท มันจะบอกว่าเบิก ๕๐๐ คนกลัวกันมาก ไม่กล้าใช้ ใหม่ ๆ ก็เป็นแบบนี้แหละ ตอนหลังนี้ใครไม่ใช้บ้าง ก็ใช้หมดแหละ มันใช้กันจนรู้ว่าใช้แล้วมันดีจริง (ปี๒๕๔๙ ยังมีแค่ATM กับเครดิตการ์ด ขณะนี้ปลายปี ๒๕๖๓ ATMก็เลิกใช้กันไปมากแล้ว ใช้สมาร์ทโฟนแทนไปแล้ว-นิพัทธ์พร)
💠นิพัทธ์พร : แล้วตัววิธีการที่จะต่อกับจิตวิญญาณ ไม่ว่าจะเป็นแม่โพสพ แม่คงคา แม่ธรณี คิดว่าถ้าชาวนาเขาต่อได้จริง ๆ แล้วเนี่ย กระบวนทัศน์เขาจะเปลี่ยนไหมคะ ทั้งในแง่ต่อชีวิตและต่อวิธีการเทคนิคการผลิตน่ะค่ะ
.
พี่เดชา : เปลี่ยนแน่นอน ก็เหมือนกับถ้าชาวบ้านเขาเชื่อเทพเจ้า เขาก็จะไม่ละเมิดหรอก เขาจะมีกรอบ มีวิธีคิด หรือว่ามีการกระทำอะไรที่อยู่ในกรอบ เพราะฉะนั้นถ้าเขาไม่เชื่อเลย ก็จะเป็นอีกพวกหนึ่ง
.
💠นิพัทธ์พร : ยกตัวอย่างหน่อยได้ไหมคะว่าเขาจะไม่ละเมิด เขาจะมีวิธีคิดที่อยู่ในกรอบ มีตัวอย่างไหมคะว่าเป็นรูปธรรมยังไง
.
พี่เดชา : ก็ต้องไปดูชุมชนที่เขายังนับถือผีอยู่เนาะ เขาจะไม่ผิดศีล เขาจะทำชีวิตเขาอยู่ในกรอบ เขาจะไม่ละเมิดนั่นนะ ละเมิดนี่นะ คือถ้าเขาเชื่อจริง ๆ เขาจะไม่ละเมิดหรอก ทีนี้คนไม่เชื่อแล้วนี่ ยังไงมันก็ไม่กลัว มันก็ไม่เห็นประโยชน์ มันก็ต้องละเมิด
.
💠นิพัทธ์พร : แต่ว่าตลอดมา ทุกชุมชนที่เอียดไปถามเขาก็เชื่อในแม่โพสพ เชื่อในแม่คงคา เชื่อในแม่ธรณี แต่เขาก็ซัดปุ๋ยลงไปซะดินแข็งโป๊ก ซัดยาฆ่าแมลงไปซะสัตว์น้ำตายหมด เราจะอธิบายสิ่งเหล่านี้อย่างไรคะ เขาล่อสารเคมีกระหน่ำทั้ง ๆ ที่เขายังเชื่อเทพอยู่นี่นะค่ะ
.
พี่เดชา : จริง ๆ ก็คือ ชาวบ้านเขายังไม่เชื่อแบบรู้ว่ามีจริง เขาเชื่อแบบประเพณี เขาไม่เห็นตัว เขาไม่รู้ว่าเทพช่วยเขาได้ ถ้ารู้ว่าเทพช่วยเขาได้ แม่ธรณีมาบอกว่า เออ ทำนี่สิ ไม่ต้องใช้ปุ๋ยหรอก ทำแล้วมันได้ผลดีจริงนะ เขาจะยิ่งเชื่อใหญ่เลย ทีนี้แม่ธรณีบอกให้เลิกอะไร ชาวบ้านเลิกหมด แต่นี่แม่ธรณีไม่เคยมาบอกให้เลิกปุ๋ยเคมี แม่ธรณีมาบอกซะที่ไหนล่ะ เพราะเขาต่อกับเทพไม่ได้ ถ้าแม่ธรณีมาบอกแล้วใช้ได้ผลจริงเนี่ย เขาเลิกแน่นอน ดูอย่างที่ผมทำงานกับชาวนามาหลายสิบปี ผมบอกเขาให้เลิกปุ๋ยแคมี ทำให้ดู มีผลให้เห็นคาตา มีตัวอย่างให้เห็นตรงหน้า ว่าได้ผลแน่ ลดต้นทุนได้แน่ ช่วยเขาไม่ให้เป็นหนี้ เห็นว่าได้ผลถึงขนาดนี้เขายังไม่เชื่อผมเลย เพราะผมมันเป็นคนธรรมดาใช่ไหมล่ะ แต่ถ้าชาวนาเขารู้มาจากเจ้า มาจากคนที่เขานับถือ หรือจากพระ หรือจากเทพที่เขานับถือ ชาวนาเลิกใช้เกษตรเคมีได้แน่
💠นิพัทธ์พร : แล้วเราจะดึงเทพ ดึงสปิริตต่าง ๆ พวกนี้ลงมาสู่เกษตรกรชาวบ้านไทยได้ยังไงคะพี่
พี่เดชา : ก็นี่แหละเป็นปัญหา ที่เรายังพัฒนาไปไม่ถึงตรงนั้น คือไปถึงจุดที่เราพัฒนาจนกระทั่งมันเป็นเรื่องธรรมดา จนการต่อกับเทพธรรมชาติเป็นเรื่องธรรมดา เป็นเรื่องที่ในชีวิตประจำวันต้องต่อกับเทพ นำความรู้จากเทพมาใช้ แบบที่พวกนิวเอจในฟินด์ฮอร์นเขาทำกัน แบบที่ถ้าเราหาทางแก้ปัญหาไม่ได้เราก็ไปถามท่าน ส่วนที่เราทำได้ก็ทำไปก่อน
.
แต่ว่าตอนนี้เมืองไทยมันยังพัฒนาไปไม่ถึงตรงนั้น ผมมองแค่เหมือนกับหมู่บ้านหนึ่งนะ แล้วมีคนหนึ่งคน มีหมอหนึ่งคน มีช่างหนึ่งคน อะไรพวกนี้ พอแล้ว ไม่ต้องมีทุกคนหรอก คนที่ต่อกับเทพได้ ต่อกับแม่โพสพได้ หมู่บ้านละคนหรือว่าตำบลละคน เหมือนมีแพทย์ประจำตำบลผมว่าพอ ไม่ต้องเยอะ เพราะว่าเราไม่ต้องถามทุกวัน นาน ๆ ถามทีหนึ่ง ถามเรื่องที่เราทำไม่ได้ ไปไม่ได้เองจริง ๆ
.
💠นิพัทธ์พร : พี่เดชาวางแผนพัฒนา การติดต่อกับเทพธรรมชาติเหล่านี้ หรือจะฝึกชาวบ้านชาวนาให้ติดต่อเทพอย่างไร มีหลักสูตรต่อเนื่องไหมคะ
.
พี่เดชา : ไม่มีนะสิ ยังไม่มี เราถึงได้เชิญคุณโดโรธีมา ที่เชิญคุณโดโรธีมาก็คิดว่า ถ้าเขาฝึกคนไทยได้บ้างนะ ถ้าคนไทยที่ฝึกได้แบบท่าน แล้วคนไทยมาฝึกกันเอง มันจะค่อย ๆ ต่อกันไปเรื่อย ๆ มันก็ไม่ต้องได้ทุกคน ผมก็ไม่ได้เหมือนกันแหละ เพราะฉะนั้นเราก็จะเกณฑ์ชาวบ้านตามภาคต่างๆมาฝึก ๖๐-๗๐ คน มาฝึกกันเลย คนไหนได้เอาคนนั้นแหละ หมู่บ้านนี้สอนต่อไป คนนี้ได้ก็เอาคน สอนต่อไป
.
ยังไงมันก็ต้องมีคนทำได้ คนเป็นร้อยเป็นพันมันก็ต้องมีบ้างแหละ
.
💠นิพัทธ์พร : เอียดห็นว่า การฝึกคนให้ติดต่อกับเทพนี้ มันทำด้วยตัวเองลำบากนะคะ
.
พี่เดชา : ถ้าเราชำนาญ แต่เราฝึกใครไม่ได้ เราก็ต้องเอาตัวเองให้รอดก่อน
.
ทีนี้กระบวนการพวกนี้เราไม่เคยทำ เราไม่เคยมีความรู้เลย ขั้นตอนพวกนี้เราไม่เคยรู้ เราต้องให้รู้ พอรู้แล้ว มันเข้าที่ได้แล้ว ไม่ยากหรอก แต่ละหลักสูตรก็ทำกันได้ อันนี้ประถม อันนี้มัธยม หกขั้นเป็นครูเขาได้นะ เป็นครูระดับประถม ครูระดับมัธยมนะ ถ้าจัดระบบได้
.
มันก็เหมือนกับเรื่องปุ๋ยเรื่องยาของเกษตรอินทรีย์ ใครเก่งเรื่องไหน เราก็สอนเรื่องนั้น
โฆษณา